ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ การลงทุน

รู้ไหมคุณกำลังแข่งกับใคร???

การใช้ชีวิตในโลกนี้แน่นอนว่าเรามักจะหนีไม่พ้นการแข่งขัน ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก การแข่งขันดูเหมือนจะเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ไปแล้ว แน่นอนว่าทุกครั้งย่อมมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ ผู้ชนะได้ในสิ่งที่ดี ที่เป็นรางวัลไปครอบครอง ผู้แพ้ก็ย่อมไม่ได้สิ่งที่หวัง ว่างเปล่า บางคนที่แพ้มากๆหมดไฟก็กลายเป็น Mean ของสังคมและระบบนิเวศไป เป็นมนุษย์คนที่ธรรมดาทั้ง รูปร่าง หน้าตา ความสามารถ และฐานะ และดำรงอยู่ในสังคมร่วมกับผู้ชนะ แต่ประเด็นที่ผมจะชี้ให้เห็นคือ ไม่ใช้ผู้แพ้ในเกมส์การแข่งขันทางสังคมจะไม่มีความสุขเสมอไป ผู้แพ้ทางสังคมมีโอกาสครอบครองความสุขได้ เพราะความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายในจิตใจ เกิดขึ้นจากการแข่งขันกับตัวเอง ถ้าชนะใจตัวเองได้ ความสุข ความสมหวังก็ย่อมจะเกิดตาม  ดังนั้นการแข่งขันกับจิตใจตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น เก่า(ตาย)ไปใหม่ก็มา คนเก่าที่ล้มหายตายจากไป ไม่เจ๊งขาดทุนโดน Force sell กันไป ก็ติดดอยกลายเป็น VI จำเป็น แต่กระแสเงินก็ไหลเข้ามาจากแมงเม่าหน้าใหม่ ยิ่งมีคนเข้ามาลงทุนมากเท่าไหร่ ตลาดยิ่งหอมหวานเพราะ

เล่นหุ้นตามข่าว รวยเร็วจริงหรือ???

ต้องยอมรับว่าข่าวนั้นมีผลโดยตรงต่อตลาดหุ้นเสมอมา โดยตลาดหุ้นจัดเป็นที่หนึ่งที่มีความอ่อนไหวและไวต่อข่าวต่างๆที่มากระทบ เนื่องจากข่าวนั้นย่อมมีผลต่อจิตวิทยาของนักลงทุน  ผลก็คือทำให้ราคาหุ้นนั้นอ่อนไหวไปตามทิศทางของข่าว ซึ่งมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ดังจากที่เราเห็นกันมาก่อนหน้ามากมายเช่น ทั้งช่วงที่มีการปล่อยข่าวอัปมงคลในเดือน ตุลาคมปี 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ดัชนีรูดไปเกือบ 16% ในสองวันทำการ หรือช่วงที่มีการตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ และข่าวที่คลาสสิกสุดๆของตลาดหุ้นไทยคือ ข่าวลือเรื่องปฏิวัติ วันนี้จะนำประเด็นเรื่องของข่าวมาเล่าให้ฟัง แต่ผมไม่ได้เน้นไปที่ข่าวลือ ข่าวปล่อย ที่มีผลทำให้ตลาด Panic แต่ผมจะขอมุ่งไปที่ข่าวสารทั่วไปที่เราชอบอ่านกันทุกวันนี้แหละ ประเภทข่าวดีทางบวก สืบเนื่องจากประเด็นที่ผมพูดคุยกับเพื่อนๆหลายคน มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันคือ "การเล่นหุ้นตามข่าว" แนวคิดง่ายๆคือเมื่อบริษัทมีข่าวดี ราคาหุ้นต้องเพิ่มขึ้น ดังนั้นนักลงทุนจึงชอบเข้าไปเก็งกำไร หรือซื้อหุ้นตามข่าวที่ออกมา ข่าวประเภทนี้ ได้แก่ ข่าวผลประกอบการดีขึ้น, ข่าวการขยายธุรกิจ, ข่าวเรื่องราคาสินค้าและบร

ค่าของคน

เอานิทานเซนดีๆมาฝากเพื่อนๆครับ ผมว่าเรื่องนี้มันคล้ายกับการลงทุนในหุ้นเหมือนกันนะ เพราะราคาหุ้นบางครั้งมันก็เกิดจากการตีมูลค่าบนพื้นฐานความต้องการของตลาด ซึ่งมันเกิดจากความคิดและจิตใจของคน บางครั้งราคาที่ตีค่าอาจจะสูงหรือต่ำไปเกินมูลค่าที่แท้จริง ดังนั้นการเข้าใจในตัวกิจการ หรือตัวธุรกิจนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถมองเห็นมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นได้ ไม่ว่าการจะเก็งกำไรระยะหรือลงทุนระยะยาว การเข้าใจพื้นฐานหุ้นขั้นต้นเป็นสิ่งจำเป็นครับ เพราะอย่างน้อยเราจะได้ไม่ถูกความโลภหลอกให้ไปเล่นเก็งกำไรในหุ้นที่มีราคาเกินมูลค่า เกินความจริงมากเกินไป ผมเชื่อเสมอว่าหุ้นมันไม่ใช่แค่กระดาษ หรือตัวเลข แต่เบื้องหลังของหุ้นนั้นคือ กิจการ คือ คนที่กำลังทำงาน ดังนั้นทุกอย่างไม่ว่าจะถูกปรุงแต่งไปสักแค่ไหน สุดท้ายมันย่อมกลับมาหาพื้นฐานและสมดุลแท้จริงของมันวันยันค่ำครับ ปิดท้ายขอเอาหุ้นที่เคยรัก เคยผูกพันเพราะปีที่แล้วเข้าออกหลายรอบแต่พอเธอออกอาการ ผมก็ได้แต่โบกมือลา   PTL หุ้นหนึ่งในสี่จตุรเทพของปี 53 IVL หุ้นที่หลายคนคงจำไปอีกนาน เรื่องราวมีอยู่ว่า ยังมีศิษย์เซนผู้หนึ่ง เฝ้าพร่ำถามอาจารย์เซนทุกวันว่า “ส

จิตวิทยาการลงทุน

สองสามวันที่ผ่านมาดัชนี SET ร่วงลงมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้หุ้นรายตัวต่างพุ่งดิ่งลง แบบแดงกันเกือบทั้งกระดาน เหตุการณ์แบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ซ้ำแล้วซ้ำเล่ายิ่งถ้าท่านได้ลงทุนในตลาดหุ้นนานขึ้น ท่านจะเคยชินและตกใจน้อยกว่าน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ตลาด แต่แน่นอนว่าไม่ว่าหน้าเก่าหรือหน้าใหม่การที่เห็นดัชนีหุ้นของตัวเองถูกกระหน่ำเทขาย แบบไม่ลืมหูลืมตาย่อมก่อให้เกิดผลทางจิตใจ และแน่นอนครับว่าเจ้าผลกระทบทางจิตใจนี้เองที่ มีผลต่อการกำไร หรือขาดทุนของเรา  เพราะเมื่อจิตใจเราโดนครอบงำด้วยอารมณ์ความกลัว ความตื่นตะหนก บวกกับจิตวิทยาหมู่ของตลาด มันทำให้การตัดสินใจของเรานั้นเกิดจากอารมณ์ มากว่าเหตุและผล ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา ผมขอเอาประสบการณ์จากเพื่อนๆ และตัวเอง(ในอดีต) มาสรุปไว้ให้อ่านว่า จิตวิทยาจะมีผลยังไงต่อการลงทุนของท่านบ้างในวันแดงเดือดแบบนี้ 1. ขายตามคนอื่น อันนี้เป็นเรื่องของสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ และหน้าเก่าที่ขี้ตกใจกระทำกัน โดยเรามักจะรีบขายหุ้นตัวที่ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว ติดลบมาก และมี การโยนขายแบบไม้ใหญ่ๆต่อเนื่อง ก

ติดอาวุธให้นักรบกองทุน

นอกจากจะลงทุนในหุ้นแล้ว ผมมีพอร์ตการลงทุนในกองทุน โดยบริหารการลงทุนให้กับเงินของครอบครัว มิใช่ว่าเชื่อใจในฝีมือของ Fund manager แต่อย่างใด แต่ที่ใช้บริการเพราะว่าสะดวกกว่าการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าระยะยาว เพราะสามารถดึงเงินกลับได้ทุกเวลา และปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นเก็งกำไร ซึ่งเหมาะกับเงินของครอบครัวที่รับความเสี่ยงได้จำกัด แน่นอนว่าผมทำการซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมพวก Passive Fund ที่อ้างอิงราคากับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แบบลูกค้าทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำก็คือเอาการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้นเข้ามาใช้ โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลดัชนี เพื่อประกอบการกำหนดจังหวะการซื้อ ขายหน่วยลงทุน โดยเป้าหมายการลงทุนของผมก็คือที่ปีละ 20% ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป การวางเป้าหมายแบบสบายๆจะทำให้เราไม่ต้องไปเสี่ยงและเร่งรัดกับแผนการลงทุนจนมากไป ผมขอแบ่งปันเทคนิคเบื้องต้นในการวิเคราะห์แนวโน้มของดัชนี สำหรับการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน นั้นก็คือการใช้ค่าเฉลี่ย EMA5 และ EMA10 มาช่วยกำหนดจังหวะการซื้อ ขาย หน่วยลงทุน เนื่องด้วยราคาของหน่วยลงทุนนั้นจะเคลื่อนที่อิงอยู่กับดัชนีของตลาด ดังนั้นแนวโน้มของดัชนี SET ก็จะเป็นแน

การประกอบธุรกิจ

เมื่อวันก่อนมีเพื่อนชวนไปทำธุรกิจร่วมกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าเค้ามีเงินเก็บประมาณหนึ่ง จึงอยากที่จะมีธุรกิจเสริมรายได้ และเพิ่มความงอกเงยให้กับเงินออม ประกอบกับความหวังว่าถ้าธุรกิจไปได้ดี โอกาสที่จะกระโดดหนีออกจากงานประจำอันแสนน่าเบื่อก็จะเปิดกว้างขึ้น ตลอดเวลาสองชั่วโมงในร้านอาหารญี่ปุ่น ผมทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี รับฟังความคิดบวกความฝันของเธออย่างตั้งใจ ควบคู่ไปกับการกินซูชิและบะหมี่เย็น ข้างกายมีกระดาษโน๊ตชิ้นเล็กๆเอาไว้จดไอเดียเด็ดและประเด็นสำคัญ พยักหน้าให้เธอเป็นบางครั้ง สลับกับการจดโน๊ตที่น่าสนใจไว้สรุปกับเธอในครั้งต่อไป (หาโอกาสกินข้าวฟรีได้อีกมื้อ) ที่ยังไม่อยากสรุปวันนี้เพราะอยากเปิดพื้นที่ให้จินตนาการและความฝันมันทำงานอย่างเต็มเปี่ยมก่อน วันนี้ทุกอย่างที่เธอเล่ามาดูมันเป็นความคิดที่ยังไม่ตกผลึกมันดิบปนสุก มีทั้งความคิดที่ว่าจะเป็นไปได้บวกกับความรู้สึกขัดแย้งกันเองเต็มไปหมด ตามประสาเด็กน้อยที่กำลังจะก้าวออกจากกรอบ แต่สิ่งที่รับรู้ได้จากแววตามันคือความสนุกความอยากที่จะออกมาผจญภัยในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ ผมลองมานั่งเปรียบเทียบการลงทุนในตลาดหุ้นกับการประกอบธุรกิจเสริม พบว่

กฎ 10 ข้อพื้นฐานการวิเคราะห์เทคนิค

ถ้าศึกษาเทคนิค และรักจะลงทุนแนวนี้จำเป็นต้องรู้ครับ กฎ ทั้ง10 ข้อนี้ เป็นหลักการสำคัญสำหรับผู้ที่ใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับการลงทุน เพราะหากไม่มีหลักการดังกล่าวแล้ว เราก็จะไม่สามารถกำหนดการซื้อขายที่เป็นรูปแบบได้ ซึ่งในกฎเหล่านี้จะพูดถึงการวิเคราะห์แนวโน้ม , หาจุดกลับตัว, ติดตามค่าเฉลี่ย, มองหาสัญญาณเตือน และอื่นๆ เป็นแนวคิดความเข้าใจพื้นฐานที่ต้องมีและใช้ในการลงทุน ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค พอได้ไปพบกระทู้เก่าจากสินธร แต่เขียนไว้เกือบ 2 ปีแล้วยังทันสมัยอยู่จึงขอนำมาแปะไว้ครับ 1. ดูแนวโน้ม เรียน รู้ชาร์ตในระยะยาว โดยเริ่มการวิเคราะห์ชาร์ตในระดับเดือนและสัปดาห์ ของช่วงเวลาหลายๆปี การดูชาร์ตในระดับของช่วงเวลาที่กว้างขึ้นจะทำให้สามารถมองเป็นแนวโน้มของ ตลาดในระยะยาวได้ชัดเจนขึ้น เมื่อทราบถึงแนวโน้มระยะยาวแล้ว จึงจะดูชาร์ตในระดับวันและนาที การดูแนวโน้มในช่วงสั้นเพียงอย่างเดียวจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนในระยะสั้น คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหากคุณลงทุนในทิศทางเดียวกับแนวโน้มในระยะกลางและ ยาว 2. วิเคราะห์และไปตามแนวโน้ม แนว โน้มของตลาดมีหลายช่วงเวลา ระยะยาว