ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ paper

Robust Asset Allocation for Robo-Advisors

วันนี้นั่งหาบทความเกี่ยวกับการทำ RoboAdvisor ไปเจอหลาย paper ที่น่าสนใจ แต่อันหนึ่งที่ชอบสุดคือ paper ของ Amundi Asset Management เขียนเรื่อง Robust Asset Allocation for Robo-Advisors paper นี้ค่อนข้างยาว 70 กว่าหน้า ผู้วิจัยแนะนำแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของพัฒนา Robo-Advisor ซึ่งนิยามปัจจุบันคือการทำ automated portfolio management แต่หลายเจ้ายังใช้คน( human-based ) เพราะมองว่า portfolio optimization เป็นงานที่ยากโดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญก ับภาวะความไม่แน่นอน และความผันผวนของตลาด ประเด็นหลักๆพูดถึง - เทคนิคและข้อจำกัด mean-variance optimization ,การสร้างพอร์ตให้เกิด maximum Sharpe ratio (risk/return trade-off ) แบบเดิม การ overfit ของโมเดลกับ data ในอดีต ที่ทำให้การ optimize น้ำหนักของโมเดล ไม่สามารถทำงานได้ดีในภาพตลาดที่แตกต่างจากอดีต ส่งผลให้พอร์ตมีความผันผวน - การทำ hedging portfolios ,การเลือก asset ในจากค่า ความสัมพันธ์(correlation) เพื่อทำ diversification - นำเสนอเรื่อง portfolio regularization แก้ข้อจำกัดของ MVO portfolio แบบเดิมโดยกล่าวถึงการใช้ L1 และ L2 Regularization

บทความวิจัยพัฒนา กลยุทธ์การ Stop loss

Stop loss หรือการ Limit loss คือกลยุทธ์การจำกัดผลกระทบจากการขาดทุนที่มาจากความเสี่ยงในการเทรดแบบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้แพร่หลาย เรื่องนี้เราสามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้พัฒนาระบบเทรดได้ เมื่อวันจันทร์พูดเรื่องการทดลองใช้ stop loss กับ leverage ไป มีคนถามถึง paper การทดลองอยากเอาไปศึกษาต่อ ผมเลยนำ link ที่บันทึกไว้มาแชร์ ย้ำว่าเป็นแค่บางส่วนนะครับ มีอีกหลายแหล่งที่เราสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ ถ้าสนใจลองศึกษาดูมีคนวิจัยพัฒนาเทคนิคต่างๆไว้เยอะเลย ซึ่งเราจะได้เห็นข้อเด่น  และข้อจำกัด รวมถึงการ optimize โมเดลในการจัดการความเสี่ยง ถือเป็นการเปิดโลก เพิ่มเติมความรู้ไปในตัวครับ ปล. จะใช้หรือไม่ใช้ stop loss ไม่ใช่ประเด็นนะครับเพราะมันเป็นแค่หนึ่งทางเลือกในการจัดการการขาดทุน แต่สำคัญคือถ้าเลือกจะใช้ ต้องใช้มันอย่างเข้าใจ ใช้ให้ถูกเหมาะสมกับพฤติกรรมของ asset และอย่าไปใช้มันเป็นแพะรับบาปหรือข้ออ้างในการล้างพอร์ต -Assessing Stop-Loss and Re-Entry Strategies https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2277722 -Taming Momentum Crashes: A Simple Stop-Loss Strategy https://pa

Tail Protection for Long Investors

Trend following strategies ปกติ ความถูกต้องจะไม่สูง(low accuracy) แต่เน้นใช้ payoff ratio ที่สูงจากช่วง strong trend มาชดเชยส่วนการขาดทุนจากความผิดพลาดที่เกิด แต่ปัญหาข้อจำกัดของ Trend following ในตลาดปัจจุบันซึ่งแตกต่างจากยุคอดีต(ที่ history repeat it self กันตลอดเวลา) คือเรื่องของค่า volatility ที่ทำให้เกิดการขาดทุนต่อเนื่อง การขาดทุนหนักการนำกลยุทธ์สาย Trend followingไปใช้ ต้องหาทางแก้โจทย์ หรือ ปิดจุดอ่อน และจำกัดความเสี่ยง ตรงนี้ให้ได้ เพื่อความอยู่รอดในทุกภาวะตลาด ระยะยาว paper นี้ Tail Protection for Long Investors: Trend Convexity at Work อธิบายไอเดียการใช้กลยุทธ์ Trend following ได้น่าสนใจ ระดับการบริหารพอร์ต โดยพูดถึงทั้งด้านเรื่องของการทำ risk party และการทำ hedge ป้องกัน long tail risk ด้วย strangle options ร่วมกับ trend strategies ปล. อยากเรียนเรื่องกลยุทธ์ พัฒนาทักษะด้านนี้ต้องอ่าน paper ครับ อ่านจากกลุ่มคนที่เขาทำวิจัยกับตลาดจริงๆ เราจะเห็นการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา https://www.researchgate.net/publication/303947130_Tail_protection_for_long_investors_Convexity_at_work

Bear Market Survival Guide

แนะนำ paper หนึ่งให้ลองอ่านกันชื่อ Bear Market Survival Guide ของ vanguard  ที่ อยากให้อ่านเพราะอยากให้เห็นภาพว่าตอนวิกฤติมันเกิด ตลาดหมีมันมามันเป็นอย่างไร เราจะมีกลยุทธ์เอาตัวให้รอดอย่างไร  ผมว่าปัญหาของนักเก็งกำไรรุ่นหลังคือ เราเริ่มเรียนแต่จะหากำไร แต่มักจะละเลยเรื่อง การเอาตัวรอด หรือการเล่นเกมส์รับ การบริหารความเสี่ยง paper นี้พูดถึงวิกฤติตอน .dotcom ปี 2000–2001 ตอนนั้นตลาดสหรัฐวิ่งกระฉูดติดกันมานาน จนถึงจุดระเบิดร่วงลง -33% โดยผู้เขียนสรุปเทคนิค 6 ข้อสำคัญในการรับมือวิกฤติไว้ ประวัติศาสตร์มันสอนอะไรเราเยอะนะครับ การอยู่รอดมันไม่ได้มาจากการทำกำไรได้เยอะๆ เร็วๆ แต่มันมาจากการเข้าใจ และรู้จักวางแผน บริหารจัดการความเสี่ยง รับมือกับอนาคตที่เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิด ลองศึกษาดูครับ http://www.vanguard.com/pdf/bmsg.pdf

10,000 Papers

ผมชอบอ่าน paper งานวิจัยมาก ติดมาตั้งแต่สมัยเรียนละ ต้องอ่าน paper และโดยบังคับให้เขียน paper ทำให้ รู้เลยว่า paper งานวิจัยนี้แหละขุมปัญญา ชั้นดี มันดีกว่าหน้งสือเยอะมาก เนื่องจาก เป็นองค์ความรู้ใหม่ องค์ความรู้จากการทดลองทำ และมีรายละเอียด บวกกับ การรีวิวความรู้ที่เกี่ยวข้อง paper ดีๆ 10-20 หน้านี่อ่านไปได้ความรู้ ทุนเวลาเป็นปีๆเลยก็มี(สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลาทดลองเอง) ถ้าใครจะหา paper วิจัยมาอ่านลองเข้าไปที่ ssrn นะครับ ที่อื่นก็มีเยอะแต่ที่นี่ ฟรี  ตรงนี้เลยเป็นทางเลือกหลัก ผมเอาสุดยอด top รีวิว 10,000 Papers มาให้ จะเห็นว่ามี paper สาย finance และเรื่องกลยุทธ์การเทรด การลงทุนเยอะมาก รวมถึงงานด้านอื่นๆอีก คลังปัญญาของ มนุษย์ชาติจริงๆ บางอันโหลดไป แสนครั้งแล้วก็มี เบื้องหลังการทำงานหนักของนิสิต ป.โท ป.เอก จากมหาวิทยาลัยต่างๆชั้นนำของโลก รวมถึงนักวิจัยจาก Lab ต่างๆ มีมาก็ให้เสพฟรี นี่ก็ลองเลือกดูครับ บาง paper นี่ถ้าจะโหลดมาอ่านจาก source อื่นอาจจะเสียเงินเป็นหลายร้อย เหรียญเลยทีเดียว หลายงานวิจัย กลยุทธ์การเทรดที่ผมทำอยู่ก็เอาจาก paper ดีๆมาต่อยอด นี้แหละ เข้าไปอ่านได้ที่