ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เป้าหมายคือทุกอย่าง

เมื่อวันก่อนผมเขียนเรื่องการบริหารเวลา หลายท่านสนใจเข้่ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันหลายคน นี่คือความสนุกของการได้เขียน เพราะมันไม่จบแค่ตัวหนังสือ แต่มันยังส่งผ่านและไหลเวียนกลับมาให้ได้ เกิดการแลกเปลี่ยน ทางความคิด ก่อให้เกิดปัญหาทั้งผู้อ่านและผู้เขียน ได้ตลอด ประเด็นหนึ่งที่ผมติดใจและอยากนำมาเขียนต่อ คือคำถามที่พี่ท่านหนึ่งโยนกลับมาว่า ถ้าตั้งเป้าหมายผิด ถึงจะบริหารเวลาดีแค่ไหนมันก็ไม่สำเร็จถูกไหม??? ถูกครับ เรื่องนี้จริงเลย เปรียบประดุจการขับรถ ต่อให้มีแผนที่ดี มี GPS ชั้นยอดแค่ไหนถ้ากำหนดพิกัด ล๊อคเป้าหมายผิด ก็ออกป่าออกทะเลหรือขับวนหลงทางได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่งการเสียเวลา เสียกำลังใจ ไปเปล่าๆ เป้าหมายชัดเจน เป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่หลายคนก็ยังไม่สามารถวางเป้าหมายของตัวเองที่ชัดเจนได้ แต่วาดภาพวาดฝันไปถึงเรื่องการประสบความสำเร็จในชีวิตซะแล้ว โดยพยายามไปติดกับภาพตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จ เช่นความหรูหราของการกิน การอยู่ การใช้เงิน ทรัพย์สินเงินทองที่มากมาย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป้าหมายความสำเร็จ มันไปจบที่เงินทองและทรัพย์สิน พอตั้งเป้าหมายผิด ก็หลงทางสิ่งที่ตา

Fibonacci Fan

วันนี้มีเครื่องมือ วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของราคา(Price Movement) ที่ชื่อว่า Fibonacci Fan มากแนะนำกัน เป็นอีกเครื่องมือที่เราสามารถใช้ควบคู่ไปกับการอ่านแนวโน้ม หรือใช้กำหนดแนวรับแนวต้านได้อีกด้วย มาลองศึกษาดูกันนะครับ Fibonacci number นั้นมาจาก นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาเลียน ลีโอนาโด ฟีโบนัชชี (Leonardo Fibonacci) ผู้ค้นพบลำดับฟีโบนัชชีในต้นศตวรรษที่ 13 เขาเรียนรู้ระบบเลขฐานสิบ และใช้การคำนวณตัวเลข มาอธิบายการสังเกตรูปทรงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การศึกษาจากตัวอย่างจำนวนมาก ของเขาพบว่า การเกิดของ ปรากฏการณ์เหล่านี้มีรูปแบบที่เป็นปกติ และค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยนำมาคิดเป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ คือ 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377, 610, 987, 1597, 2584, 4181, 6765, 10946, 17711, 28657, 46368, 75025, 121393, 196418, 317811 ซึ่งตัวเลขลำกับเกิดจากการนำ ตัวเลขสองตัวข้างหน้ามาบวกกัน เช่น 1+1 = 2, 1+2 = 3 ความน่าอัศจรรย์ ของลำดับเลข ฟีโบนัชชีคือ ลำดับที่จะมีอัตราส่วนจากการหารตัวเลขหลังด้วยตัวเลขหน้า แล้วได้ผลลัพธ์ที่เข้าใกล้ 1.618 ยิ่งตัวเลขมากขึ้นความใกล้เคียงยิ่งมากขึ้นแบบไม่ม

เวลา สิ่งมีค่าที่ไม่ควรถูกลืม

  เคยรู้สึกบ้างไหมครับว่าผ่านไปไม่นานก็หมดสัปดาห์ เผลอเดี๊ยวเดียวก็จะหมดปีอีกแล้ว "เวลา" เป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีจำกัด(ตามแต่อายุไขของแต่ละบุคคล) แต่ใน 1 วันทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน ฐานะสูงส่งต่างกันแค่ไหนเราก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่ากัน ประเด็นเรื่องของเวลา เคยถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นหลักในภาพยนต์เรื่อง "in time" โดยเฉพาะการวางโครงเรื่องวิธีคิดที่แตกต่างไปจากโลกปัจจุบัน คือให้เวลาเป็นสิ่งมีค่าสูงสุดของทุกคน มีเงินมากก็ซื้อเวลาได้มาก สามารถยืดเวลาตายได้ไปอีก หรือใช้เวลาในการซื้อหาสิ่งของ ใช้จับจ่ายแทนเงิน ทำงานแลกเวลา แน่นอนว่าถ้าเวลาหมดก็ต้องตายทันที แม้จะดูแฟนตาซีหลุดโลกไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนจากความเป็นจริงคือ "เวลา" เป็นสิ่งที่มีค่า แม้ในโลกปัจจุบันคนจำนวนมากอาจจะยังไม่เห็นค่าของมัน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่า คนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้มากมาย คือคนที่ใช้เวลาเป็น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับงานที่ตนเองทำ ไม่ปล่อยเวลาให้หมดไป ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์  ดังนั้นถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ หรืออยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ การเรียนรู้หลักการบริหารเวลา และใช้เวลาท

Gold@25-10-2012

บันทึกสภาวะตลาดทองคำ แนวโน้ม และรูปแบบราคา ประจำวันที่ 25-10-2012 บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อ ใช้ในการศึกษาวิจัย Gold Trading System Project  market sentiment  อาทิตย์ดูเหมือนตลาดหุ้นทั่วโลกจะไม่สดในนัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ที่หุ้นใหญ่หลายตัว เช่น Google Apple และอื่นๆ ผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาไม่สดใจต่ำกว่าคาดการณ์ บวกกับความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรป ที่ตอนนี้กำลังดูความชัดเจน  ของการขอรับเงินช่วยเหลือของสเปน ในขณะที่กรีซสามารถเจรจาขอเวลาเพิ่มอีก 2 ปีในการลดช่องว่างงบประมาณ 1.35 หมื่นล้านยูโรแล้ว แต่ยังเหลือการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือ รอบถัดไปอีก 3.15 หมื่นล้านยูโร แต่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศของกรีซ โดยเฉพาะการประท้วงของประชาชน ที่ไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลก็ยังไม่มีทีว่าจะสงบลงได้ง่ายๆ ในขณะที่ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จนมายืนระดับ 80 เหรียญได้อีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำตกลงไปมากพอสมควร TF: 4 Hour ภาพใหญ่ทองคำแนวโน้มช่วงนี้หลังจากการปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1700 แล้วไม่ทะลุ ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ราคาทองคำรีบาวนด์เด้งในกรอบ 1714-1700 ต่อไป  TF: 15 min

CCI indicator

วันนี้จะขอนำเอาเรื่องของ Commodity Channel Index (CCI) มาเล่าให้ฟัง เพราะหลายคนที่อีเมลเข้ามาพูดคุย สนใจเรื่องของการเทรดหุ้นแบบเก็งกำไรรายรอบ ถ้าจะให้แนะนำเครื่องมือ ก็จะคงไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่นึกขึ้นมาได้ว่า CCI ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่เทรดเดอร์นิยมนำไปใช้ ในการหาสัญญาณซื้อขายในระบบเทรด และตัวนี้ผมยังไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน วันนี้จึงนำมาสรุปให้อ่านกัน Commodity Channel Index (CCI) เป็นเครื่องมือดัชนีราคา ประเภท oscillator ที่ถูกพัฒนาโดยคุณ Donald Lambert เขาออกแบบทดสอบกับข้อมูลราคาในหุ้น ดัชนีตลาด ETF และสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีการเคลื่อนที่แบบเป็นรอบวัฏจักร เพื่อหาจังหวะจากคาบการแกว่งตัวของราคา หลักการทำงานของ CCI คือการหาค่าการกระจายตัวและการเบี่ยงเบนของราคาปัจจุบันจากราคาค่าเฉลี่ยเทียบกับการกระจายตัวของค่ากลาง ในคาบเวลา(interval) ที่สนใจ โดยมีสมการการคำนวณดังนี้ CCI = (Typical Price - SMA(n) of TP) / (.015 x Mean Deviation)  -Typical Price (TP) = (High + Low + Close)/3  -Constant = .015 -n = time interval คาบเวลาที่เราสนใจ  การปรับปรุงโมเดลของ CCI ให้ดีขึ้นคือการหาค่าเฉพาะของคาบเวลา ที่สอด

ก้าวแรกกับความล้มเหลว

ทุกคนล้วนมีความฝันมีไอเดีย อยากทำสิ่งต่างๆมากมายตามใจต้องการ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเดินตามฝัน ได้ลงมือทำฝันให้เป็นจริง และไปสู่เป้าหมายความสำเร็จ บางคนเลือกที่จะรอ เลือกที่จะเก็บฝันไว้ในใจ จนสุดท้ายเมื่อเวลาผ่านเลยไป เมื่อมีภาระและมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ความฝันนั้นก็ต้องถูกฝังลืมไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ การมีความฝัน และได้ลงมือทำเป็นสิ่งที่วิเศษแต่ใช้ว่า ทุกคนที่กล้าจะเดินทางตามความฝันจะสมหวัง และจบลงแบบสวยงามเหมือนในนิยาย มีหลายคนหกล้มหกลุก ไปได้เพียงครึ่งทางก็ต้องกลับมาสู่โลกความจริง บางคนผิดพลาดแค่เพียงก้าวแรกที่ออกเดิน ก็ท้อถอยหมดกำลังใจ ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะนี้คือโลกแห่งความจริง ที่คนธรรมดา ไม่มีต้นทุนชีวิตที่สูง ไม่มีครอบครัวที่ร่ำรวยสนับสนุน เมื่อมีความฝัน มีความตั้งใจ อาจจะไม่เพียงพอ ให้ไปสู่ยังเป้าหมาย (แต่แน่นอนว่าดีกว่าคนที่ไม่ฝัน ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต หรือคนที่ฝันแต่ไม่กล้าแม้จะเริ่มลงมือทำ) สิ่งที่ต้องมีมากกว่านั้นคือ เรื่องของแผนและกลยุทธวิธีการ ที่จะพิชิตเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น ทำร้านกาแฟ ไม่ใช่มีฝันมีใจอยากทำก็จะทำแล้วสำเร็จ แต่เราต้องทำงาน

ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง

ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันด์มีขึ้นก็มีลง มีลงย่อมมีขึ้น เป็นธรรมดาไม่ได้หมายความถึงเฉพาะราคาหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจต่างๆอีกด้วย เมื่อเช้าตื่นมาอ่านข่าวต่างประเทศน่าสนใจ 2 ข่าวคือเรื่องของราคาหุ้นซุปตาร์แบบ Google inc และยุคเปลี่ยนผ่านของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่แบบ 'นิวส์วีค' เลยอยากนำสองประเด็นนี้มาเล่าให้ฟังต่อ นิตยสารนิวสวีค เป็นอีกนิตยสารของอเมริกาที่อยู่ยงคงกระพันมาถึง 80 ปี สมัยเรียนเวลาว่างเข้าห้องสมุด ผมมักชอบหยิบนิตยสารนี้มาอ่าน ถึงแม้จะอ่านรู้เรื่้องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างในตอนนั้น แต่ได้ดูภาพสวยๆก็ม้วนใจแล้ว แถมด้วยประเด็นเด็ดแต่ละคอลัมภ์ที่น่าสนใจ ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์เพิ่มไปอีก นิตยสารนิวสวีค เป็นนิตยสารหัวสี คู่แข่งสำคัญของ ไทม์ มาโดยตลอด วันนีั้ประกาศยุติการพิมพ์นิตยสารข่าวในรูปแบบกระดาษ แต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายผ่านช่องทางสื่อออนไลน์และดิจิตอลแทนทั้งหมด แน่นอนว่าเบื้องหลังการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือดบวกกับผลประกอบการที่ลดลงและเติบโตยากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ประสบปัญหาทางการเงิน นิตยสารนิวสวีค ต้องทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยลดพนักงานและเ