ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

It Was the Worst of Times: Diversification During a Century of Drawdowns

เช้านี้ผมเพิ่งมีโอกาสอ่าน paper ล่าสุดของ AQR จบพบว่าน่าสนใจอยากนำมาแนะนำ paper นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การป้องกันความเสี่ยงและการถดถอยของพอร์ต จากตลาดหุ้นขาลงและฟองสบู่ โดยทีมวิจัยทำการวิเคราะห์ข้อมูล asset ต่างๆในรอบเกือบ 100 ปี ทดสอบประเมินผลกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง(Diversification)แบบดั่งเดิม(ผสมหลาย asset class) และการทำ Hedging (แบบต่างๆทั้งด้านกลยุทธ์และการใช้อนุพันธ์เช่น put opt ions) เพื่อเปรียบเทียบและประเมินด้านต้นทุนและผลตอบแทนเชิงชดเชยที่ได้รับในช่วงตลาดเลวร้าย การวิจัยโฟกัสไปที่ความคุ้มค่าของการ trade off จากการทำ diversification และการ hedging เพื่อลดและป้อกัน equity drawdowns ผลการทดลองน่าสนใจมากแต่ผมคงไม่นำมาเขียนในทีนี้เพราะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องอธิบายกันเยอะ เดี่ยวคนไม่เข้าใจจะไปตีความผิด แต่ผมแนะนำให้ลองอ่าน paper นี้อ่านแบบวิชาการไม่ต้องรีบเชื่อหรือมีธง แค่ data ที่เขารวมหรือประมวลผลออกมา มันก็มีประโยชน์มากโขแล้ว ยังไม่นับรวมเทคนิคการป้องกันความเสี่ยงในแบบต่างๆหลาย level สปอยให้นิด ผลการวิจัยค่อยข้างน่าสนใจ เช่นความเชื่อหลายอย่างในการท

You Don’t Need a Breakthrough, You Need a Microshift

ได้อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกชอบอยากเอามาเขียนสรุปเก็บไว้ บทความนี้คุณ Brianna Wiest เขียนถึง Microshift หรือการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ว่ามันก็สามารถทำให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ได้ ถ้าเราทำมันอย่างต่อเนื่อง บางคนอาจจะรู้สึกว่ากำลังติด อยู่กับวังวนชีวิต จมติดกับพฤติกรรม อะไรบางอย่างที่มันดูเหมือนจะไม่ได้มีผลดีต่อชีวิต ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตัวเราต้องการ แทนที่จะไปรอโอกาส รอให้ Breakthrough รู้ solu tion ทุกอย่างเกิดความรู้สึกฮึกเหิมจะลงมือทำอะไรบางอย่างแล้วเปลี่ยนชีวิตไปทันที คุณ Wiest แนะนำว่าให้เริ่มลงมือทำเลย ทำทีละเล็กๆแล้วพยายามทำมันทุกวันต่อเนื่อง ฝืนตัวเองต่อสู้กับความขี้เกียจและข้ออ้าง จนมันเกิด passion เกิดความรู้สึกว่าเราก็ทำได้ จากนั้นสร้างวินัย จนเข้าสู่จุดที่เริ่มพัฒนาทำให้ดี ทำให้ได้มากกว่าก่อนหน้า สุดท้ายมันไปถึงเป้าหมายได้เอง ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเช่นถ้าอยากมีเงิน $1 million ไม่ใช่ไปรอโชคจากการซื้อหวย หรือจ้องจะลาออกจากงานไปทำธุรกิจทันที ลองเริ่มจากการเก็บเงินแค่วันละ $10 ให้ได้จริงจัง แล้วขยับไปสร้างโอกาสสร้างเงินในวิธีอื่นๆควบคู่ไป กรณีเดียวกันถ้าอย

Learning From Mistakes

วันนี้กลับไปอ่าน principles ของคุณ Ray Dalio อีกรอบพร้อมเตรียมตัวอย่างงานวิจัย ที่เรานำหลักการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิด มาประยุกต์ใช้กับ machnie learning เพื่อพัฒนาระบบเทรด ส่วนตัวชอบแนวคิดข้อนี้ของคุณ ray dalio มากเพราะการบันทึก ติดตามและศึกษา mistakes ที่เกิดมันช่วยทำให้พัฒนาผลการทำงานของระบบเทรด และตัวเทรดเดอร์ ได้ดีมาก ถ้าใครกำลังอยู่ช่วงหัดเทรด พยายามจดบันทึกผลการเทรด โดยเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาดเอาไว้ เพื่อใช้ทบทวนถึงสาเหตุที่เกิดและสร้างเป็นบทเรียนในการเทรด (เพื่อจะไม่ผิดพลาดซ้ำ)แทนที่จะรีบลืม หรือไปนั่งโฟกัสแต่ผลกำไร จำนวนเงินที่ทำได้อย่างเดียว

In the long run

อธิบายหลักการเขียน Trader Journal ให้กลุ่มเทรดเดอร์มือใหม่ฟัง มีท่านหนึ่งถามผมว่า เริ่มเขียนบทความและบันทึกมานานแค่ไหนแล้ว และเคยเบื่อไหม?? ลองมานั่งนึกกลับไป ส่วนตัวผมเริ่มจดบันทึกการเทรด มาตั้งแต่เริ่มหัดเทรด สมัยเริ่มต้นนี้จริงจังมากกับ turtle system จำได้ก่อนเกิด subprime ประมาณ 2 ปีทดสอบระบบและจดบันทึกลงสมุดขนาด A4 ได้หลายเล่มเลย ก็เขียนมาตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้ก็หลายสิบปีแล้ว ยังไม่เบื่อ ใช้เวลาตอนเช้านั่งเขียนอ่าน นั่งเขียนทุกวัน เริ่มต้นเขียนแบบเอาไว้อ่านเอ ง แต่มาปรับปรุงเป็นบทความจริงจัง แบบให้คนอื่นๆอ่านได้ ก็ตอน 8-9 ปีที่แล้ว สมัยนั้นเฟสบุ๊คยังไม่ฮิต ยังเป็นยุคของ Hi5 และ Myspace ด้านหุ้นด้านเก็งกำไร ส่วนใหญ่จะอยู่บนสินธร ในพันทิป (สินธรยุคนั้นไม่เหมือนสมัยนี้นะครับ) และก็เขียนบทความลง bloggang ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับหุ้นและทองคำ สิ่งหนึ่งที่ได้รับจากการเขียนคือการได้รีวิว ผลการเทรดและสิ่งที่เกิด ทำให้เราได้เก็บประสบการณ์หลายอย่าง ที่สามารถใช้เป็น template ในการศึกษา ได้ จริงๆก็ผ่านมาแล้วหลายเรื่อง หลาย event ทำให้เราตัดสินใจและเทรดได้ดีขึ้นกว่าอดีต โดยเฉพาะเมื่อเรียนรู้จ

Gold and Inflation 2018

ทองคำช่วงนี้ราคายังอยู่โซนต่ำ แถวระดับ $1200 ความน่าสนใจช่วงนี้จะเริ่มเห็นแรงเชียร์ บทวิเคราะห์เชิงบวกมากขึ้นตลอดเดือนที่ผ่านมา อย่างล่าสุด Francisco Blanch หัวหน้า นวค.ของ Bank of America Merrill Lynch มอง Gold จะไป $1350 ในปี 2019 ท่ามกลางเหตุผลต่างๆนานาๆเชิงบวก อันนี้คงรอดูต่อไปว่าปีหน้าทองจะกลับมาได้หรือเปล่า วันนี้ผมได้อ่านบทความชิ้นหนึ่งของ Mark Rzepczynski พูดถึงความไม่ปกติแง่พฤติกรรมความสัมพันธ์ของราคาทองคำ กับเงินเฟ้อ(inflation) ที่ดูเ หมือนแตกต่างจากอดีตที่ผ่าน เนื่องจากข้อมูล CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Core inflation ทั้ง US และ EU ก็ปรับขึ้นมาระดับ 2% แต่ราคาทองคำในปีนี้ ยังอยู่ระดับที่ต่ำและมีสัญญาณการถดถอยอยู่ เช่นเดียวกันจากการทำ QE ที่ผ่านมาการเข้าซื้อ Bond จำนวนมหาศาลของ ECB และ Fed นั้นน่าจะทำให้ตลาด fixed income มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติ โดยสรุปคุณ Mark Rzepczynski ชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำปัจจุบันมีบางอย่างแตกต่างไปจากพฤติกรรมในอดีต เหมือนตลาดยังเชื่อว่า inflation ยังถูกจำกัดและน่าจะกดอยู่ (ยังไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในเวลานี้) ขณะที่ ec

ทอสอบ GRID(+Machine Learning) บน MT4 TFEX

สาธิต GRID(+ML) บน MT4 TFEX S50 คลิปผลการทดลองตัวอย่างการทำงานจริงของระบบ GRID โดย กลยุทธ์หลักเพื่อใช้ในการเป็น Hedging Layer สะสมสัญญาเพื่อป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตหลัก(ผสมกับการเก็บ cashflow จาก Market volatile)  ซึ่งใช้จุดเด่นของ MT4 TFEX ในการจัด Order แบบ GRID (แตกต่างจาก FIFO แบบอดีต) - Non Linear GRID Trading - No SL,TP , No Pending Order - Dynamic Zone based on Machine Learning - Dynamic Exit strate gies - Low Risk (Balance = 500000, RPT 100000 per Unit, SLD>40%ofCV,Max = 5 Contract) - Stop loss By Time (time based exit strategies) เข้าดูตัวอย่างการทำงานได้จาก link  https://www.facebook.com/chaipat.ncm/videos/10156764604269511/

Update Global Macro Economic Q3/2018

Global Economic Data สำคัญที่ต้องติดตามดู นำเสนอโดย Shane Oliver แห่ง AMP Capital 1. Global business conditions PMI Global PMI ของกลุ่มอุตสาหกรรมหลักและบริการในประเทศหลักของโลก นั้นชะลอและ slow down จากจุด Peak สะท้อนถึง global growth ในอนาคตที่อาจจะไม่สดใสนักในปีนี้ 2.Global inflation ติดตามการเพิ่มของ inflation ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก ในภาพจะพบ สหรัฐและจีน Inflation ยังอยู่ระดับ 2% ส่วนยุโรป ค่า inflation เริ่มยกกลับขึ้นมาระดับ 1% หลังนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังต่ำกว่าช่วงวิกฤติการเงินปี 2007-2008 อยู่ เช่นเดียวกับ ญุี่ปุ่นที่ inflation อยู่ระดับต่ำห่างจากเป้า 2% ก่อนหน้ามาก แม้จะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปี 2017 2018 จากนโยบายของ BOJ 3.US yield curve ติดตามความไม่ปกติ ระดับ short rates วิ่งยกตัวขึ้นใกล้เคียงระดับใกล้เหนือ long rates สะท้อนพฤติกรรมตลาด ความเชื่อมั่นในอนาคตเศรษฐกิจระยะยาว ที่อาจจะดูไม่ดีนัก ส่วน GAP ของ 10Y bond yields และ the Fed Funds rate นั้น flat ระดับ 1.2% , ด้านGAP ของ 2Y bond yields และ the Fed Funds rate นั้นเ

Mania to Mania 2018

บทความนี้ของคุณ Michael Batnick เขาเขียนถึงความ mania ในปีนี้ ที่นักลงทุน นักเก็งกำไรได้เผชิญ เปิดเรื่องเขาพูดถึง cryptocurrency ที่ปลายปี 2017 ด้วยผลตอบแทนมหาศาลกลายเป็นความหวังใหม่ให้กับ นักลงทุนนักเก็งกำไรผู้ต้องการแสวงโชคตามกระแส แต่หลายสิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่ฝัน เพราะแค่ปี 2018 ตลาด crytocurrency ก็เกิดภาวะถดถอยของราคาเหรียญคริปโตสกุลหลัก เช่น Ethereum ที่ Peak สุดขีดช่วงเดือนมค. 2018 ราคาบวกไปถึง 16,915% ด้วยเม็ดเง ินจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้าไปในตลาดคริปโตช่วงปี 2017 แต่แล้วราคาก็กลับร่วงลงหนัก ถึงปัจจุบันเดือน กย. ราคาปรับลงถึง -90% จากจุด Peak ช่วงเดือน กพ. (แต่ยังสูงจากจุดเริ่มต้นถึง 2,000% )ทรงการถดถอยเกิดในเหรียบคริปโตตัวอื่นๆเช่นกันโดยเฉพาะกลุ่ม alter coin ทำเอานักเก็งกำไรนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่งเข้าไปในตลาดขาดทุนหนักตามๆกัน แต่บางกลุ่มโดยเฉพาะนักลงทุนมือเก่าที่อยู่ในตลาดคริปโตมานาน มีต้นทุนต่ำยังเชื่อว่านี้มันคือการปรับฐานหรือทำกำไร ส่วนฝ่ายตรงข้ามคริปโต มีความคิดเห็นที่น่าสนใจหลายท่าน อย่าง warren buffett ให้ความเห็นช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาว่า มันจะจบไม่สวย (“bad ending”)

Lehman Brothers' Last Weekend

วันนี้ผมได้ดูคลิปย้อนอดีต 10 ปีวิกฤติการเงิน 2008 ของ WSJ ตอนหนึ่งเกี่ยวกับ Lehman Brother บริษัทวานิชธนกิจ เก่าแก่อายุ 150 ปีเริ่มต้นธุรกิจปี 1850 จาก Henry ,Emanuel และ Mayer พี่น้องตระกูล Lehman จนปี 2008 มีมูลค่ากิจการหลายพันล้าน ต้องมาล้มละลายพร้อมการพังของ subprime mortgage market คลิปสัมภาษณ์พนักงานระดับ senior และผู้จัดการฝ่ายชั้นกลางถึงเหตุการณ์ที่เกิดหลายคน ให้เล่าเหตุการณ์ในช่วง สุดท้ายก่อนจะถึงจุดจบ ที่น่ าสนใจคือพนักงานเหล่านี้มีความรักองค์กร และทำงานมานานบางคน 10-25 ปี โดยพวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีวันที่องค์กรใหญ่อย่าง Lehman Brother จะล้มละลาย แม้จะเข้าช่วงยากลำบากหลังแจ้งการขาดทุนกว่า $3.9 billion ช่วงวันที่ 10 กย. พนักงานยังเชื่อว่าจะมีการ bailout หรือควบรวมกิจการ ช่วงเจรจาต้นเดือนกย. ราคาหุ้น Lehman ที่ระดับ $15 ปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่อง นักลงทุนและพนักงานจำนวนไม่น้อยเข้าไปซื้อหุ้น ไปถั่วเฉลี่ยหุ้นเพราะไม่คิดว่าจะเกิดล้มละลาย สุดท้าย 15 กย. ราคาหุ้นลดลงต่ำกว่า $1 เมื่อตลาดรับข่าวผลการเจรจาจากซื้อกิจการ เสริมสภาพคล่องของสองธนาคารใหญ่อย่าง BOA (ฺBOA ไปได้ Merrill Lynch แ

Digital nomad & Travel Trader

เดินทางท่องเที่ยวและผจญภัยรอบโลก นี้มันเหมือนเป็นความฝันของหลายๆคน เมื่อวานมีน้องคนหนึ่งชวนคุยประเด็นนี้ และถามว่าเราจะวางแผนแบบเทรดไปเดินทางท่องเที่ยวและไปใช้ชีวิตในประเทศต่างๆอย่างไร "Digital Nomad" เป็นสไตล์การทำงานยุคใหม่ที่เพิ่งเกิดและดูเหมือนจะบูมในช่วง 2-3 ปีนี้ เทคโนโลยีและธุรกิจ startup ไม่ว่าจะเป็น airbnb , coworking space และอื่นๆอำนวยเหล่า digital nomad มากประมาณกันว่าปัจจุบันมีจำนวน "Digital Nomad" มากกว่า 62,637 แล ะประเทศไทยก็หนึ่งเป็น Hub ของเอเซีย แนวคิดไม่ซับซ้อนมันคือการทำงานแบบไม่มี office ขอแค่มี wifi หรืออินเตอร์เน็ตดีๆ ก็เรียกว่าเริ่มต้นได้แล้ว สำคัญคือคุณมีอิสระในการออกแบบเวลาในการทำงานและใช้ชีวิต(แน่นอนว่าก็ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบในงานด้วย) Digital Nomad มีหลายอาชีพมากโดยเฉพาะสายโปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาและอื่นๆ ที่เดินทางไปทำงานในประเทศต่างๆ(3-4 วันต่อสัปดาห์) จากนั้นใช้เวลาว่างที่เหลือ Backpacking ท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมไปในตัว นอกจากประสบการณ์ชีวิต ยังได้เปรียบด้านค่าครองชีพที่ถูก ในหลายเมือง ย้อนกลับมาที่ Trader นิด

เตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยง1: Gary Shilling

วันนี้ชื่อของ Gary Shilling กลับมาบนหน้าสื่อหลักอีกครั้ง เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักไม่คุ้นหูกับชื่อนี้ แต่ถ้าเทรดเดอร์หรือนักลงทุนที่อยู่ในตลาดมาก่อนซับไพร์ม น่าจะพอจำแกได้ Gary Shilling เป็นนักเศรษฐศาสตร์(phd)และเป็นนักวิเคราะห์ ชายที่ออกมาเตือนเรื่องวิกฤติฟองสบู่ในซับไพร์มคนแรกๆ เขียนรายงานเตือนปัญหาและความไม่ปกติที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี 2004 จนทำให้ Greg Lippmann เทรดเดอร์(ตัวละครเด่นเล่นโดย Ryan Gosling ใ น Big Short) หลังอ่านรายงานและได้คุยกับ Gary Shilling ออกมา short โปรดักซ์อนุพันธ์ subprime mortgages ทำกำไรจากฟองสบู่ที่เกิดมหาศาล $1.5 billion ให้กับ Deutsche Bank ช่วยให้ธนาคารไม่ต้องรับการขาดทุนหนักจากวิกฤติครั้งนั้น เช่นเดียวกันคุณ Shilling ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณ John Paulson ผู้จัดการกองทุนเฮ็ดฟันด์ทำการเทรด credit default swaps ในปี 2006-2007 เมื่อ debt default ฟันด์ทำกำไรไป $4 billion ในปี 2007 คุณ Paulson กล่าวว่านี้คือการเทรดที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ตอนนั้นในปี 2006 ตอนที่ Gary Shilling พยายามนำเสนอแนวคิดและผลการวิเคราะห์ข้อมูลของแกเกี่ยวกับ ซับไพร์มว่าจ

10 Things I've Learned from Meb Faber - "Just Survive"

ใช้เวลาว่างยามเช้านั่งฟัง podcast ในร้านกาแฟ Flirting with Models รายการโปรดสัมภาษณ์แขกรับเชิญผบห.กองทุนสาย Quant คนดังคุณ Meb Faber แห่ง Cambria Investments ผู้ตีพิมพ์บทความวิจัยQuantitative Approach to Tactical Asset Allocation ที่มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 200000 ครั้ง คุณ Corey Hoffstein สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่างๆหลายเรื่องที่น่าสนใจ ผมสรุปโน๊ตประเด็นหลักไว้ ประมาณนี้ 1. Trend following ยังไม่ตาย อันนี้คุยกันถึง paper ที่ Faber เขียนเน้นการทดสอบตัวกลยุทธ์แบบ TSMOM ผสมกับการจัดการความเสี่ยงและทำ TAA บน 5 asset calss หลัก ทำการทดสอบและตีพิมพ์ จากนั้นตอนปี 2012 กลับมา revise เอาข้อมูลใหม่(OSS) มาทดสอบกับระบบเทรดเดิม ผลก็ยังออกมาว่าการเทรดสไตล์ TSMOM ระยะยาวบน Global asset ยังเอาชนะตัวอ้างอิงได้ 2. ไม่มีใครซื้อจุดต่ำสุดหรือขายจุดสูงสุดได้ นั้นคือประเด็นสำคัญที่ Faber ย้ำเรื่อง Trend Following มันเป็นการจับโอกาสจากการเคลื่อนตัวส่วนใหญ่ของ asset การเปลี่ยนแปลงตาม Fundflow ไม่ใช่การพยายาม outperform ตลาดจากโมเดลการพยากรณ์หรือหาจุดเปลี่ยนแปลงเฉพาะเช่น สัญญาณซื้อขายจากจุดกลับตัวสูงสุดต

The next financial crisis ,Ray Dalio

บทความนี้อ้างสัมภาษณ์ความคิดเห็นของ Ray dalio เกี่ยวกับวิกฤติการเงินรอบใหม่ โดยสรุปอาจจะเกิดในอนาคตอันไกล(ไม่น่าจะเกิน 2 ปี) ซึ่งจะเกิดแตกต่างจากวิกฤติการเงินอดีต ปัญหาจะซับซ้อนและยากที่จะแก้หรือกระตุ้นให้ กลับมาเหมือนเดิม อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจพักตัวยาว(slow growth) มีผลกระทบรุนแรงมากต่อสังคม เกิดปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ray dalio มอ งว่าความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต และให้ความเห็นว่า Fed ไม่ควรรีบเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินตลาดคาดหวัง ตบท้ายด้วยประโยคสั้นๆ “I’d be more defensive rather than more aggressive,” สถานการณ์ตอนนี้คำว่า crisis กลายเป็นประเด็นที่สื่อต่างๆนำมาถกเถียงและพูดถึงถี่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันออกไปทางคล้ายๆกันคือ ทุกคนรับว่า asset มันราคาสูง(บางตัว over value) บวกกับอนาคตไปข้างหน้ามันมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐโดยโดนัล ทรัมป์จะมาเปิด trade war ทั้งกับจีน ญี่ปุ่น ยุโรป กดดันเศรษฐกิจโลกเข้าไปอีก สุดท้ายเมื่อของกินของใช้แพง มันย้อนไปกระทบเศรษฐกิจของอเมริกา ซึ่งมีทั้งฝ่ายเชื่อว่ามีโอกาสจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดวิกฤติในเวลาอันใกล้ และบางฝ่

สุขภาพ ต้นทุนสำคัญของเทรดเดอร์

เทรดเดอร์คืออาชีพ ที่ต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดันสูง ยิ่งไปกว่านั้น คือเรื่องของความผันผวนไม่แน่นอน ของตลาดที่เราไม่สามารถควบคุม คาดเดาได้ ส่วนใหญ่ผลกระทบของการขาดทุน มันจะไม่ใช่แค่เสียเงิน อย่างเดียว มันมีเรื่องของสุขภาพ(จิตใจ+ร่างกาย)อีกด้วย ทั้งเรื่องสุขภาพจิตจากความเครียด ความวิตกกังวล จากความทุกข์ ความผิดหวัง รวมไปถึงสุขภาพกายจากการต้องทำงานหนัก ต้องใช้เวลาในการเทรด ในการศึกษาเตรียมตัว ดังนั้นพออายุเข้าเกินหลัก 30 สุขภา พจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก และถ้าดูแลรักษาไม่ดี หรือใช้สุขภาพแลกเงินแบบไม่สมดุล โอกาสเสียหรือขาดทุนในระยะยาวก็จะมีสูง บทความ businessinsider อ้างอิงคำบอกเล่าของ Dr. Arjun Ghosh ตำแหน่ง consultant cardiologist จาก Barts Heart Centre ถึงการเก็บสถิติของการป่วยต้องเข้ารักษาตัวของเหล่า Bankers และ finance professional อายุ 20-30 ปีใน UK มีการเข้ารักษาตัวโรคหัวใจสูงเพิ่ม 10% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นอกจากนี้กลุ่มอาชีพด้านการเงินการลงทุนช่วงอายุ 20s ,30s มีสถิติการป่วยเป็นโรคหัวใจ หัวใจวาย เพิ่มและมีความถี่การเข้ารักษาตัวฉุกเฉินกับแพทย์หัวใจที่สูงขึ้น(เฉลี่ย3-4

How To Really Tell If a Recession is Coming

คลิปรายการ At what Cost ตอนนี้น่าสนใจ เนื่องจากช่วงปี 2018 นี้ มีการพูดถึง recession กันบ่อยขึ้นหลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นมาต่อเนื่องปีที่ 9 จากวิกฤติการเงิน บลูมเบริกนำเสนอตัวชี้วัดการเกิด economic recession จาก 3 expert  1. yield curve  - Lisa abramowisz นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้าน fix income พูดถึง yield curve เป็น indicator สำคัญที่มีความน่าเชื่อถือในการระบุการเกิด recession(จากอดีต 7 ครั้งที่ผ่าน) ปัจจุบัน yie ild curve ต้องจับตาแม้จะยังไม่ invert แต่ก็ flat ระดับต่ำกว่า 1% เข้าใกล้ 0% 2. consumer confidence - Matthew Boesler พูดถึงตัวชี้วัดเศรษฐกิจอย่าง consumer confidence ที่ปัจจุบันจากการสำรวจล่าสุด ออกมาไม่สดใจ มีการชะลอตัวโดยเกิดปัจจัยของราคาที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง ทั้งบ้าน อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์  3. stock market - Peter coy บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจการเงิน พูดถึง stock market แม้จะไม่ใช้ดัชนีชี้วัดที่น่าเชื่อถือมากนัก แต่ดัชนีตลาดหุ้นมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งภาพเศรษฐกิจดี ส่งผลให้กิจการดี ดัชนีตลาดหุ้นเติบโต เข้าอ้างความคิดเห็นของ paul samuelson ระบุจาก 5