ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ตลาดหุ้นไทย ในวันที่ vaule สูงสุดเป็นประวัติการณ์

บันทึกตลาดหุ้นไทย ไว้สักนิด เหตุการณ์วันนี้ ตลาดหุ้นไทยได้ดีใจกันเล็กๆ ด้วยดัชนี SET มูลค่าการซื้อขายทะลุ 2 แสนล้านบาท สูงสุดในประวัติการณ์ ๆๆๆๆๆ ข้อมูลเป็นการซื้อเข้ามาของ ผู้เล่นต่างชาติ ตัวเลขวันนี้ราวๆ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 12,534.55 ล้านบาท แต่ถ้านั้งเทรดทั้งวันจะพบ ว่ามันไม่ได้มีอารมณ์การ bullish แต่อย่างไร ยกช่วงเช้าชน 1631 โดยขายกดก่อนเที่ยงลงมา 1619 นิ่งไปนาน มาขยับขึ้นๆลงๆช่วงบ่ายๆกรอบ 1620 - 1628 ก่อนท้ายตลาดดีดแรงไปปิด 1632 สิริรวมวันนี้ +7.20 จุดเท่านั้นเอง แต่ volume ถลักมาก ส่วนตัวเลข Big lot วันนี้หุ้นใหญ่ ที่อยู่ใน MSCI มี volume ไม้หนักมาเกือบหมด 46 ตัว นำขบวน scc ตามด้วย intuch , bdms และ scb ด้านประเด็นที่เล่นกันวันนี้ เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดท้ายตลาด สอดรับกับ story เรื่องการเพิ่มน้ำหนัก ของ MSCI ราวๆ $2.4 พันล้าน จริงๆ มองในแง่จิตวิทยาก็ค่อนข้างเรียกความเชื่อมั่นได้พอควร ทั้งเรื่องการเมืองและอื่นๆ ต้องดูต่อว่า ท่าทีของนักลงทุนต่างชาติ จะยังไง จะกลับมาไล่ต่อเหมือนอดีตหรือไม่ คงติดตามกัน อ่านเพิ่มเติม https://www.ryt9.com/s/iq05/2995826 htt

Roaring 2020s

นั่งอ่าน report จาก Mehlman Castagnetti Rosen & Thomas ส่วนหนึ่งจาก podcast หัวข้อ Roaring 2020s มีประเด็นข้อมูลจาก world bank ระบุว่าปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่ภาพรวมโลกดีจากกราฟพบว่า คนจนในโลกลดลง ขยับฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น จากเดิมที่อดยากไม่มีกิน ตัวเลขรายงานลดลงเหลือต่ำกว่าระดับ 10% จากเดิมราวๆ 35% ในปี 1987 ขณะเดียวกัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโอกาสก็มากขึ้นตามไปด้วย อธิบายจากตัวเลขของคนที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจ จนกลายเป็นเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นสูง จากตัวเลขล่าสุด รวมกันแ ล้วทั้งโลกมี biliionare มากกว่า 2000 คน (เพิ่มปี 2009 ที่ ราวๆ 700) report มีอีกหลายประเด็นทั้งข้อมูลเศรษฐกิจ การเมือง ทั้งระดับโลกและของอเมริกา ให้อ่านเพิ่มโดยเฉพาะสิ่งจะเผชิญช่วงถัดจากปี 2020 ไป คำถามที่น่าคิดคือ Capitalism มัน work จริงไหม ? เราใช้ประโยชน์จากโอกาส จากระบบทุนนิยม จากเทคโนโลยี เพื่อสร้างฐานะตัว/ความมั่นคงให้กับตัวเราได้อย่างไร อ่านฉบับเต็ม http://mehlmancastagnetti.com/…/uploa…/The-Roaring-2020s.pdf ฟัง podcast ตอน Roaring 2020s http://mehlmancastagnetti.com/14thandg-podcast/

Rethinking Technical Analysis

slide งาน meetup ที่จัดโดย Cybertrader ผู้บรรยายคือคุณ Kingsley Jones แห่ง Jevons Global แชร์แนวคิดและงานวิจัย นำเอาเทคนิคการ solve ตัว nonlinear system ด้วย parallel computing มาใช้กับ Technical Analysis โดยสรุป คุณ Jones ผู้บรรยายบอกว่าปัจจุบันระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบสมรรถนะสูง(high performance computing) รองรับ การทำ nonlinear signal processing แบบเรียลไทม์ บน Partial Differential Equations กับข้อมูล  ขนาดใหญ่ ที่ซับซ้อน(ทั้ง Price, Order flow , sentiment) ได้จริงแล้วทางปฏิบัติ เขา สาธิตการทำงาน algorithm ที่ใช้คือ VECTORIZATION OF EWMA แสดงผลประสิทธิภาพการคำนวณ real time ให้ดู สไลด์ไม่ยาว แต่มีประเด็นที่น่าสนใจให้คิดต่อเยอะดี ปล. ส่วนตัวทำระบบ nonlinear system มาพอควร ผมเองจะใช้แนวทางของ genetic algorithm หรือพวก optimization method การประยุกต์กับ time series data แต่ไม่เคยทำ real time ระดับวินาทีแบบเขา พอดูจากผลการทดลอง บนเครื่องคอมพิวเตอร์สรรถนะสูง(โดยเฉพาะสร้าง algorithm ด้วย Parallel Programming สำหรับ HPC) คิดว่าน่าจะช่วยได้มาก แต่ก็แน่นอนว่าต้นทุนของระบบเพิ่

I Will Teach You To Be Rich โดย Ramit Sethi

วันนี้ระหว่างเดินทาง นั่งฟัง Ramit Sethi (New York Times bestselling author) เจ้าของหนังสือ "I Will Teach You To Be Rich" สัมภาษณ์และสนทนาในรายการ The Compound มีหลายประเด็นที่ชวนให้คิดต่อดี โดยเฉพาะเรื่อง การบริหารเงินส่วนบุคคล ที่ Ramit Sethi บอกเลยว่า เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดแบบเดิมๆ ประเด็นหนึ่งที่ผมชอบคือ Ramit Sethi ชวนให้เราตั้งคำถามว่า - อะไรคือสิ่งที่เราชอบใช้เงินมากที่สุด - ลองจินตนาการว่าถ้าเราสามารถเพิ่มงบในการใช้จ่ายสิ่งนั้นเป็น 5 เท่า 10 เท่า แล้วมันจะสร้างคว ามสุขสนุกสนานได้เพิ่มตามหรือไม่ เขาท้าทายให้เราลองทำแบบนี้ จริงๆเพื่อค้นหาว่า มันมี item อะไรที่เราใช้เงินเยอะ แต่มันไม่ได้ทำให้เรามีความสุขหรือ enjoy ซึ่งคนส่วนใหญ่ จะมี 2-3 สิ่งที่หมดเงินใช้จ่ายไปมากแต่ไม่ได้ทำให้มีความสุข เมื่อเทียบกับสิ่งอื่น เมื่อพบ 2 รายการหลัก เขาก็แนะนำให้เรา ลองตัดเงินทุนที่นำไปใช้จ่ายกับมันลง เรื่อยๆ อย่างน้อยคุมได้ 10% ของรายได้ เพื่อนำเงินส่วนนั้น ไปใช้วางแผนทำอย่างอื่น เช่นการลงทุน หรือใช้ออมเงิน เพื่ออนาคตต่อไป ซึ่ง Ramit Sethi บอกว่ามันดีกว่าการมานั่งประหยัด

แนะนำ Ooca จิตแพทย์ออนไลน์

8 ปีก่อนเคยมีซีรีย์เรื่อง Web Therapy ของ Lisa Kudrow ออกฉาย เรตติ้งดีทีเดียวในอเมริกา ยังคิดเลยว่าน่าจะมีบริการแบบนี้ ในเมืองไทยบ้าง เพราะมันน่าจะช่วยคนที่มีข้อจำกัดหรือติดปัญหาในการเข้าถึง จิตแพทย์ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอาชีพ อย่างเทรดเดอร์ ที่ต้องเผชิญกับแรงกดดัน จากผลงาน(ยามขาดทุน หรือผิดหวัง) และภาวะตลาดผันผวน รวมไปถึงแรงกดดันจากครอบครัว จิตแพทย์ หรือคนที่ช่วย พูดคุยแนะนำ ทบทวนความคิดและปัญหาด้านจิตใจของเรา น่าจะช่วยลดความเครียด และความกดดัน ได้มาก วันนี้ไปเจอคลิปของ Ooca จ ิตแพทย์ออนไลน์ เป็น startup ที่น่าสนใจมาก ผมยังไม่เคยใช้บริการ แต่เดียวคงมีโอกาสได้ลอง เพราะตอนนี้น้องเทรดเดอร์ ที่รู้จักกำลังหา จิตแพทย์ เข้ามาช่วยให้คำปรึกษาอยู่ แต่ด้วยเวลาและชั่วโมงทำงาน ทำให้การไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาล ไม่ง่าย คิดว่า Ooca น่าจะเป็นอีกทางเลือก ลองดูแนวและรายละเอียด ได้จาก link ด้านล่าง ใครสนใจลองไปโหลด app มาทดลองกัน ปล. เป็นเทรดเดอร์นี้เครียดนะครับ ถ้าไม่มี support system ด้านจิตใจที่ดี จะเป็นปัญหามาก ส่วนตัวผมเจอมาเยอะหลายรายแล้ว ที่เป็นเทรดเดอร์แล้วต้องประสบปัญหาด้านจิตใจ ป่วยทั้

The 5 books Bill Gates recommends you read this summer

หนังสือ 5 เล่มที่ Bill Gates แนะนำให้อ่าน ซึ่ง summer book list ปี 2019 นี้มีน่าสนใจหลายเล่มเลย ส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินมาก่อน(ไม่ใช่หนังสือเน้นการตลาด) เข้าไปอ่านรายละเอียดคราวๆ หมายตาเล่ม The Future of Capitalism เอาไว้ เดียวไปลองหามาอ่านดู รายชื่อหนังสือ 5 เล่มได้แก่ “The Future of Capitalism” by Paul Collier “Presidents of War” by Michael Beschloss “Nine Pints” by Rose George “Upheaval” by Jared Diamond “A Gentleman in Moscow” by Amor Towles อ่านคำแนะนำสำหรับหนังสือแต่ละเล่มจาก bill gates ได้ที่ https://www.cnbc.com/2019/05/20/bill-gates-2019-summer-reading-recommendations.html

ย้อนอดีต รำลึกความหลังกับ บันทึกการเทรด

เทรดเดอร์ค่าเงินรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก Effi lang แต่ชื่อของเทรดเดอร์ค่าเงินชาว บัลแกเรีย ในอดีต ก็เป็น อีกท่านที่ถ่ายทอดแนวคิดการเทรด และการบริหารพอร์ตแบบเรียล ดีๆ ไว้เยอะ สมัยก่อนเฟสบุ๊คไม่มีไม่ฮิต เวลาหาความรู้ หรือแกะระบบเทรดไปที่ forexfactory ซึ่งในนั้นมีเทรดเดอร์ฝรั่งเก่งๆ ไม่น้อยที่มาให้ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ ผมเองเรียนเทคนิคการเทรด scalping มาจาก Effi lang เยอะมาก เขาอธิบายไอเดียและตัวอย่างได้น่าสนใจหลายประเด็น เช่นเทคนิคฝึกเก็บ  Pips แล้วใช้ leverage ที่เหมาะสมสร้าง payoff แปรผันไปตามช่วงความเสี่ยงและโอกาส ของตลาดที่เกิด เป็นต้น(ไม่ใช่ต้องไปนั่งปวดหลัง เทรดเก็บกำไรน้อย เก็บสั้นได้ผลตอบแทนต่ำเสมอไป ขณะเดียวกันก็ไม่ไปโลภ over trading เกินไป) หลายเรื่องแม้จะเก่าผ่านไป สิบกว่าปี แต่มันก็ยังนำมาปรับประยุกต์ใช้ได้ในตลาด fx ปัจจุบัน The fastest way to success is a disciplined plan. So take a day, a week a month a year if you have to, but write a plan and keep a diary, because that’s the fastest way to mature as a trader. , Effi lang 2009

How the Tech Giants Make Their Billions

ข้อมูล รายได้จากธุรกิจ ของเหล่าบริษัทยักษ์ IT พร้อมการแสดงแบบ infographic จาก  visualcapitalist.com  โดยบริษัทของสหรัฐ Microsoft, Apple, and Amazon ต่างมีมูลค่าแตะระดับ $1 Trillion จากข้อมูลบริษัท Facebook , Alphabet(หรือ Google) รายได้หลักมาจากการขายโฆษณา, ด้าน amazon รายได้หลักมาจาก online store ,ส่วน Microsoft รายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์ของ WIndow OS, Office และ Azure clould service โดยบริษัทที่มี revernue สูงสุดนั้นคือ Apple ที่ 265.6 billionจากข้อมูลที่รายได้หลักมาจากการขาย Iphone (63% หรือ 166.7 billion) แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ Apple มีตลาดในจีน สัดส่วนสูงถึง 20% ต่างจากบริษัท Tech อื่นๆที่เรียกว่ามีส่วนแบ่งในจีนน้อยมาก ดังนั้น ถ้า trade war ระหว่างสหรัฐและจีน ประทุแรง Apple คงหนีไม่พ้นที่โดนผลกระทบไปด้วย ซึ่งตอนนี้วิบากกรรมไปตกกับ Huawei ของจีนที่โดน สหรัฐเล่นงานอย่างหนัก อ่านเพิ่มเติม https://www.visualcapitalist.com/how-tech-giants-make-billions

5 things I learned from Mother Roaster

โพสก่อนหน้าเรื่อง Mother Roaster มีหลายคนชวยคุยต่อเยอะ Key Takeaway สำหรับผมนะ 1. เริ่มจากที่ชอบ ป้าบอกชัด ป้าชอบกินกาแฟ เริ่มจากตรงนั้น 2. หาจุดแตกต่าง  ไม่เหมือน ไม่ทำตามใคร กลายเป็น indy ไปเอง ป้าใช้ข้อจำกัดเรื่องเงินทุน มาเป็นจุด pivot เลือกแนวทางแบบ แมนนวล ลดต้นทุนค่าเครื่องชงหลักแสน จับตลาด นีช ป้าค่อยๆทำ แต่มีอุปกรณ์ชงหลากหลายวิธี เม็ดกาแฟ หลายสิบสายพันธ์ ซึ่งร้านใหญ่ที่เน้นขายเยอะ ขายเร็วคงทำแบบป้าไม่ได้ 3. จำกัดความเสี่ยง ป้าเลือกทำเล ที่ดี ใกล้ MRT ใกล้โรงเรียน อยู่ริมถนนสายหลัก แต่เปิดร้านไม่ใหญ่ เป็นแค่ stand ไม่มีที่นั่ง ไม่ติดแอร์ ไม่เสียค่าเช่าแพง ไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย ไม่ต้องจ้างพนักงานเยอะ 4. อายุ 60 ไม่สายที่ลงมือทำ เชื่อว่าก่อนหน้า ป้าคงทำอะไรมาหลายอย่างก่อนจะมาเปิดร้านกาแฟ  มาเรียนชงกาแฟสดแบบสมัยใหม่  ในวัยเกิน 60  ถ้าชอบ ถ้าอยากทำ บางทีไม่ต้องรีบลาออกจากงาน หรือกู้เงินหลายล้านมาทำก็ได้ ค่อยสะสมเงินทุน ค่อยๆเรียนรู้ กันไป 5. จบ... คำพูดป้า มันชัดเจนในตัว เรียบเรียงความคิดชัดเจนมาก ฟังจากหลายสัมภาษณ์ ป้าเชื่อมั่นในแนวทางและแกก็ลงมือทำ ในแบบที่เหมาะสมกับทางขอ

Happy Trader & The wealth of Sapiens

- Financial wealth (เงิน,ทางเลือกในการซื้อสิ่งต้องการ) - Social wealth (ชื่อเสียง/การยอมรับ) - Time wealth (เวลา+อิสระภาพ)  - Physical wealth (สุขภาพ: กาย&จิต) สามปีที่แล้วผมทำคลิปเรื่อง Happy trader ครบรอบ 11 ปีในการเทรด บางคนฟังแล้วบอก ไร้สาระ ไม่เป็นไรไม่ว่ากันแต่อยากชวนให้พิจราณาการเป็น เทรดเดอร์ ต้องนั่งเทรดทั้งวันทั้งคืน ทำงานหนักเกินไป อาจจะได้เงินเยอะ แต่อาจจะสูญเสีย เรื่อง "เวลา" และ "สุขภาพ" สุดท้ายก็ไม่ work เพราะไม่ว่าจะ เวลา หรือสุขภาพ ล้วนเมื่อสูญเสียไปแล้ว มันหาคืนไม่ได้ ต่างจาก "เงิน" ที่ขาดทุน ยังหาโอกาสแก้คืนกลับมาได้ ดังนั้น ทั้ง 4 ข้อด้านบนคือโจทย์ใหญ่ของการเป็นเทรดเดอร์ (หรือประกอบอาชีพใดๆก็ตามในโลกนี้) เราจึงจำเป็นต้องวางแผน หรือหาทางที่จะ optimize ให้ เกิดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บนความพอดี ความเหมาะสม (ไม่ได้แปรว่าไม่ต้องขยัน หรือทำงานหนัก แต่ต้องทำอย่างฉลาดและพอดี) ในทั้ง 4 ตัวแปร  ซึ่งส่วนใหญ่ จำนวนไม่น้อยอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือสนใจ เพราะบางทีเรามุ่งเน้นไปที่ "เงิน" โดยเข้าใจว่า เงิน คือ ความม

Economic Data & Big Debt Crises

ตอบคำถาม น้องท่านหนึ่งที่ต้องการข้อมูลไปทำวิจัย โดยกรณีต้องทำระบบเทรดใน ค่าเงิน(fx) หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมัน ทองคำ ต้องการหาแหล่งบริการข้อมูล economic data สำหรับทำ Quantitative Data Analysis ผมนำ มารีวิวแนะนำสั้นๆ 3 แหล่งที่จัดว่า ดี สมบูรณ์ และใช้งานได้ง่าย(บางอันอาจจะไม่ฟรี) 1.  tradingeconomics.com เว็บนี้รองรับทั้งการใช้งานแบบ user ทั่วไป สามารถเรียกดูตารางข้อมูล ดูกราฟผ่าน web app ได้ ข้อมูลค่อนข้างครบ แยกตามประเทศต่างๆ และมีระบบบริการข้อมูลทั้งแบบ download และ API ให้สามารถนำไปวิเคราะห์ขั้นสูงต่อได้อีก 2. db.nomics.world เว็บนี้จัดว่าเด็ด มีข้อมูลจาก providers หลายเจ้ามากทั้งอเมริกา ยุโรปและจาก IMF WTO ทำให้มีประเภทข้อมูล econ เยอะจริงๆ โดย user สามารถดูข้อมูลบนเว็บ หรือใช้บริการผ่าน API ที่รองรับหลายภาษาสะดวกมาก ถ้าทำ quant ใช้ Python หรือ R เว็บนี้เป็น portal ดังนั้นเขาจะแยกข้อมูลตามประเภทและมี search engine ไว้บริการให้ค้นด้วย key word 3.assetmacro.com เว็บนี้เน้น Economic & Financial Datasets ทำให้เขามี data ที่รวบรวมไว้เยอะมากครอบคลุม 120 ประเทศ จะด

2019 Q1ETF strategies

มุมมองของคุณ Yasmin Dahya , Head of Americas Beta Specialist team,J.P. Morgan Asset Management โดยสรุป ยังมองเรื่อง multi factor solution เป็นแกนหลักในปีนี้ แทนที่จะเน้นไปที่กลุ่มเดียว(single factor) ก็ผสม ทั้ง Quality Value Momentum factor ช่วยให้เกิดความเสถียรได้ดีในภาวะตลาดที่ผันผวน และมีความไม่แน่นอนรออยู่ วางเป้ายาว ดีกว่าการเน้นชนะตลาด(S&P500) โดย Yasmin Dahya บอกว่าตอนนี้ value ยังถูก เพราะลงมาเยอะ แตะระดับ 3SD กระจายเงินมาสะสมกลุ่มน ี้ เช่นเดียวกับการมีกลุ่ม momentum รอรับการวิ่งของตลาด ไม่หันหลังหนีตลาด(out of the market) เพื่อลดการเสียโอกาส ซึ่งจากสถิติระยะยาวหุ้นกลุ่ม value และ momentum ของอเมริกา ค่าความสัมพันธ์ -0.5 การผสมช่วยแง่การ balance ความเสี่ยงรวม ฟังฉบับเต็มจาก https://am.jpmorgan.com/us/en/asset-management/gim/adv/insights/etfs-in-the-know?

STP กับ ECN นั้นแตกต่างกันยังไง

พอดีเคยแนะนำว่าถ้าทำระบบเทรดประเภท robot trading ให้เกิดประสิทธิภาพ การเลือกบัญชีประเภทที่ quotes price นั้นเสถียรและมีประสิทธิภาพ(ไม่ต้องมานั่ง re-quote) รวมประเด็น spread และ slippage ที่เคยอธิบายไปแล้ว ที่นี้มีน้องคนหนึ่งถามว่า STP กับ ECN นั้นแตกต่างกันยังไง สรุปให้ฟังคราวๆประเภทของโปรโตคอลในแต่ละชนิดบัญชี Straight Through Processing (STP) การที่โบรกเกอร์ส่ง order ยิงตรงเข้า market หรือ liquidity pool บนราคาได้มาจาก liquidity providers เจ้าใหญ่เช่นจาก สถาบันการเงิน หรื อธนาคาร บางเจ้าอาจจะเป็นประเภทผสมทั้งแบบ Market maker + STP บน liquidity providers หลายแห่งโดยโบรกมี internal liquidity pool ของตัวเองเพื่อเลือกราคาที่ดีที่สุด แต่ข้อดีคือ ราคา เสถียร แม่นยำและดูโปร่งใส่กว่าประเภท Dealing Desk (DD) อย่างเดียว Electronic Communications Network(ECN) ประเภทที่โบรกเกอร์ ใช้ราคาเทรดจาก ECN liquidity providers หรือ ECN participant(สถาบันการเงินหรือโบรกเกอร์อื่นๆ) รองรับ ECN Network ข้อดีไม่มี conflict of interest กับโบรกเกอร์ ราคาเปิด เทรดเดอร์รายย่อยสามารถมองเห็น bid/ask จริงที่เกิด

กรณีศึกษาจาก SEC เรื่องความเสี่ยง เมื่อ Hedgefund ทำนักลงทุนหมดตัว

SEC Bars Hedge Fund Manager Who Lost 88% In 3 Day ไม่ว่าจะมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ เมื่อเข้ามาในตลาด "การจัดการความเสี่ยง" เป็นเรื่องสำคัญ ผมนำกรณีศึกษาเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวมาฝาก เป็นเรื่องของคุณ Matthew Rossi แห่ง SJL Capital เขาเป็นผู้ก่อตั้งและ Hedge Fund Manager มืออาชีพลงทะเบียนถูกระเบียบและรับบริหารเงินให้ลูกค้า แต่กลับหลอกลวงลูกค้า ใช้การโฆษณากลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบกระจายความเส ี่ยง บวกกับ proprietary algorithm trading ชื่อ MarketDNA strategy เคลมว่าทำเงินในตลาดมาหลายสิบปี มาชวนเชื่อขายฝัน สุดท้ายกลับนำเงินลูกค้าไปเทรด unhedged options เสี่ยงสูงแม้ช่วงแรกทำเงินกำไรมากกว่า 101% ในเวลาไม่หนึ่งเดือน แต่สุดท้ายไม่กี่เดือนต่อมาช่วง August 2016 ด้วย strategies ที่ใช้เทรด options เดียวกัน ทำขาดทุนกว่า 88% ในไม่กี่วัน ยื้อต่อได้ไม่นานถึงเดือน November พอร์ตของ Fund ก็ขาดทุนจนหมดเงิน จนนักลงทุนสูญเงินลงทุนทั้งหมดกว่า $1.8 million และเข้าร้องเรียนกับ SEC แต่ Matthew Rossi กลับสร้างหลักฐานแต่งบัญชีปลอม และอ้างว่าการขาดทุนเกิดจาก rogue trader (คลาสิกมากได้กำไร

ทางเดินที่เป็นของตัวเอง

บทความ The Problem With Most Financial Advice Why Personal Finance is a Bit Too…Personal นี้น่าสนใจ อ่านแล้วชอบอยากสรุปเก็บไว้ ซึ่งบทความนี้เขียนโดย Nick Maggiulli (Analytics Manager ) เนื้อหาค่อนข้างยาวประเด็นสรุปสำคัญดังนี้ - เขาบอกว่าเหล่ากูรูการเงินหรือผู้ให้คำแนะนำทางการเงิน(ของสหรัฐ) ส่วนใหญ่จะแนะนำหรือถ่ายทอดจากประสบการณ์ ความเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจจะไม่ใช้แนวทางทีเ่หมาะกับ ลูกค้าหรือนักลงทุนรายย่อย - เคสนี้เขายกตัวอย่าง Financial Samurai  (sam)กูรูการเงินสหรัฐชื่อดัง(เงินล้านก่อนสามสิบ) บอกว่าเส้นทางเงินล้านของ sam มันไม่ใช่ทุถคนทำได้ เข้าทำเงินเยอะกว่า 500k ได้จากการลงทุนช่วง Dot Com bubble และขยายเงินช่วงตลาดกระทิง ยังไม่นับรวมรายได้ที่สูงตั้งแต่อายุ 25 เฉลี่ยกว่า $160,000 ทำให้มีเงินลงทุนเยอะ แน่นอนว่าการมีเงิน ล้าน ก่อน 30 จึงไม่ยากแต่ไม่ใช่ใครทุกคน จะทำตามได้ - เขาบอกว่าอยากสร้าง wealth สิ่งหนีไม่พ้นคือต้องสร้างแหล่งรายได้ ให้เพิ่มมาก แน่นอนประหยัดดี แต่ถ้ามีรายได้น้อยแม้จะพยายาม หยุดไม่ซื้อกาแฟ lattes ตามร้านกินเลย อาจจะไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่ในแง่การเติบโตของทรัพย์สิน