ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

An Animal Kingdom of Different Risks

บทความนี้ของ คุณ Mark Rzepczynski ( Ceo AMPHI Research ,อดีต PM ของ GRT Capital) อธิบายเรื่อง Risk ได้น่าสนใจมาก เขาจำแนก risk แบบต่างๆโดยใช้ สัตว์เป็นตัวแทน ได้แก่ เสือดาว,แรด และหงส์ดำ Black Swans หรือหงส์ดำ น่ารู้จักกันดี โดยเฉพาะถ้าเคยอ่านงานของ taleb ตรงนี้ตัวท๊อป เพราะความน่าจะเป็นการเกิดต่ำ นานๆเกิดที แต่เกิดแล้วผลกระทบรุนแรง หนักหน่วง คำแนะนำในการรับมือบทความนี้คือ maximum diversification Grey Rhinos หรือ แรดเทา คุณ Rzepczynski มองว่ามันเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ มีคนทักมีคนพูดถึง แต่คนส่วนใหญ่ละเลย หรือมีเหตุให้เชื่อว่ามันไม่น่าจะมีอะไร เช่น ตัวหนี้สาธารณะ,ตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ เป็นต้น คนส่วนประมาทความเร็วและความแรงของ แรดเทา แต่ถ้ามันโจมตีขึ้นมา ก็ยากที่จะรอด ดังนั้น คุณ Rzepczynski แนะนำให้จับตามองและกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่นๆหลบปัจจัยเสี่ยงประเภทนี้บ้าง White Leopards ตัวนี้เสือดาวขาว เร็ว แรง และฉลาดหลบซ่อน ทำให้คนมองเห็นได้ยาก ความเสี่ยงประเภทนี้มักซ่อนอยู่ บางทีกว่าจะเจอก็โดนเล่นจนอ่วม รวมไปถึงความเสี่ยงที่เกิดจากกลยุทธ์ในการเทรดกับสินค้าใดๆ หรือความเสี่

Startup Idea : FlyThere

FlyThere เป็นสตาร์ทอัพที่สร้างบริการ เปิดให้ ลูกค้า บินโดรนออนไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ต เพื่อท่องเทียว บินชมภาพมุมสูง บรรยากาศสุดยอด ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ธรรมดา จุดต่างๆทั่วโลก ในราคา $7.5 FlyThere ไอเดียน่าสนใจมาก เขาจับคู่ระหว่าง คนที่มีโดรนในท้องถิ่น ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ต้องการสร้างรายได้ ก็สมัครเป็น co-pilot กับ คนอยากเที่ยว สัมผัสประสบการณ์บินโดรน ในที่สวยๆด้วยตัวเอง ซึ่งลูกค้า สามารถนัด/จองวัน ออกบินผ่านเว็บ จากนั้น co plot ในพื้นที่จะพาโดรนออกสนาม และช่วยดูแลการบิน ด้านลูกค้า ที่ต้องการบินโดรน แค่มีอินเตอร์เน็ต ก็บังคับโดรนบินเล่นด้วยตัวเองผ่าน web browser จะใช้ จอยสติก หรือ คีย์บอร์ด ก็ได้ ผมเข้าไปดูในแหล่งบิน ในไทยก็มีคนลงทะเบียนเป็น local co pilot หลายแห่ง เช่น ภูเก็ต นอกจากนี้มี อเจนตินา , บราซิล และอื่นๆ ลองเข้าไปใช้บริการ หรือศึกษาเพิ่มได้จาก link ด้านล่าง หรือกรณีมีโดรน และอยากหารายได้เสริม สมัครเป็น co pilot ได้เช่นกัน  https://www.flythere.com/

Trading Volatility as an Asset Class

เช้านี้ผมได้อ่านบทความหนึ่ง ชื่อ Trading Volatility as an Asset Class จาก thehedgefundjournal ค่อนข้างน่าสนใจ โดยเฉพาะ น้องๆที่จะหัดเทรด options อยากให้มองประเด็นนี้ให้ชัด มันช่วยพัฒนากลยุทธ์ได้มากกว่าการไปนั่ง เก็งกำไรกับทิศทางราคา ไอเดียหลักบทความนี้ พูดถึงการที่เรามอง volatility ของราคาให้เป็นเหมือน asset ตัวหนึ่งในพอร์ต ซึ่งมีการ implement ได้หลายแบบ ในบทความนี้เน้นใช้ options เพื่อ diversify กระจายความ เสี่ยงรวมของพอร์ต ใช้ options ควบคู่กับ core asset ที่อาจจะใช้ strategies หลักระยะยาวรันขนานกันไป กับ options ที่มีช่วงเวลาวันหมดอายุ แต่ช่วยให้ผ่าน market volatile ที่เกิดได้ในอนาคต เป็นการวางกลยุทธ์ในระดับ portfolio management strategies ที่ประเมิน volatility ใน asset หลักที่เกิดจากนั้นใช้ options มาเป็นตัวดูดซับ ค่าความไม่แน่นอนตรงนั้น ซึ่งบทความนี้ผู้เขียนมองถึงปัจจัยเสี่ยงภายนอก ที่เชื่อว่าจะมีอิทธิพลมากขึ้น เช่นเรื่อง ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก, นโยบายธนาคารกลางรอบใหม่, การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย, US debt ceiling และสเถียรภาพของ eurozone เป็นต้น ผลกระทบปัจจัยเหล่านี้ส

Inside the Geeky,Quirky, and Wildly Successful World of Quant Shop Two Sigma

ถ้าศึกษาด้าน quant แนะนำลองอ่านบทความนี้ เรื่องราวของ David Siegel และ John Overdeck พาTwo Sigma จาก boutique firm มาสู่ institutional asset manager ขนาดใหญ่ จุดเริ่มต้นในปี 2002 ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Paul Tudor Jones และ Tom Hill (ในเวลาต่อมา) จนวันนี้กลายมาเป็น quant hedge fund อันดับต้นของ อุตสาหกรรม (AUM $60 billion) key take away บทความนี้มีเยอะมาก เช่นเรื่องประวัติ เส้นทาง อาชีพของ David Siegel และ John Overdeck ทั้งสองมีพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ overdeck ชำนาญ math ส่วน siegel คนนี้จบ phd ด้าน computer science จาก MIT เชี่ยวชาญสาย Artificial Intelligence ซึ่งก่อนหน้าทำงานให้กับบริษัทของ D.E. Shaw จากนั้นไปทำงานเป็น chief technology officer ที่ Tudor Investment ให้กับ PTJ เป็นเวลา 4 ปีก่อนมาตั้ง Two Sigma ประเด็นหนึ่งที่ผมชอบคือ Two Sigma ไม่ใช่ quant ที่แค่เอา datascience มาใช้เพื่อทำนายตลาด มันครอบคลุมเรื่องของการใช้เพื่อทำ risk management, portfolio management ร่วมไปกับการทำ stategies สร้างผลตอบแทนกลุ่มหลักได้แก่ equity market-neutral และ various macro strategies ครอบ

Time Management & ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด

เมื่อวานบรรยายเรื่องการสังเกต พฤติกรรมการเทรดของตัวเทรดเดอร์ เพื่อหาช่วงเวลาที่เราเทรดได้ดีที่สุด หรือทำ cashflow ได้ลื่น ได้รอบที่สุด เพราะช่วยทำให้เรา optimize ด้านเวลาทำงาน การจัดตารางเทรด(สำหรับ part time trader ที่ไม่มีเวลานั่งติดจอทั้งวัน)และเวลาในการพักผ่อนของตัวเราได้ด้วย อีกมิติ ก็จะเป็นการทดสอบ trading system กับภาวะของ market ไปในตัวด้วย ตรงนี้หลักการวิเคราะห์คือเอา ค่า volatility ของสินค้า มาเท ียบกับ cashflow ที่ทำได้(ดูค่า mean และ sd ของวัน) อิงจากช่วงเวลาเดียวกัน โดยสรุป กรณีเป็นประเภท volatile trading strategies: ถ้าภาวะตลาดมีค่า volatility สูง และเราสามารถทำรอบการเทรดได้ดี ได้ flow นั้นหมายความว่า ระบบมัน flow ถ้าเป็นประเภท Trend / TSMOM trading strategies กรณีตลาดมี volatility สูง แล้วเราไม่เสีย drawdown ไม่สูงตามแปลว่า ระบบนั้นใช้ได้ แนวคิดนี้ไม่ซับซ้อน การติดตาม cashflow ทำได้ในช่วงเวลาใดๆเพื่อทำ data analysis ต่อ กรณีเราไม่มีเครื่องมือหรือไม่ได้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ สามารถใช้ myfxbook เพื่อวิเคราะห์ค่าเหล่านี้จาก tradind record ได้ครับ เป็นการ

7 Days Out

มีคำกล่าวที่ว่า "ถ้าหากเราทำงานที่เรารัก เราจะรู้สึกว่าไม่ได้ทำงานตลอดชีวิต" ยิ่งไปกว่างานที่รัก คืองานที่สร้างไฟให้เราอยาก ตื่นขึ้นมาทำมัน อย่างสนุก ทุกวัน ถ้าอยากเห็นคนที่มีโอกาสได้ทำงานเหล่านี้ แนะนำให้ลองชมสารคดี 7 Days Out ทาง Netflix สารคดีนี้มี 6 ตอนสะท้อน 6 งาน event ใหญ่ระดับโลก ไล่ตั้งแต่ การประกวดสุนัข, แฟชั่นโชว์ของชาเนล, การแข่งขัน e sport รอบสุดท้าย League of Legends ตัวแทนทวีปอเมริกาเหนือ, จนไปถึงปฏิบัติการสุดท้ายข อง NASA's Cassini Mission โดยสารคดีแต่ละตอนยาวราวๆ 45 นาที ดูสนุก ได้แง่คิด ได้เห็น คนที่รักและทุ่มเทเกิน 100% ให้กับงานของตัวเอง ในช่วงเวลาจำกัดสำคัญ 7 วันก่อนถึง event ใหญ่ พวกเขาต้องเผชิญ กับปัญหา ความยากลำบาก ความเครียด ความกดดันจากเวลา แต่ก็สู้สุดๆทำงานแบบเป็นทีม เพื่อให้งานสุดท้ายออกมาดี และสำเร็จ สารคดีนี้ทำออกมาได้ดี สนุก ได้เปิดมุมมองเบื้องหลังการถ่ายทำ ในหลายเรื่อง ที่เรียกว่า เราอาจจะไม่รู้มาก่อน ส่วนตัวผมชอบสุดเป็นเรื่องของ NASA ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ลองหามาชมกันครับ อ้างอิง https://www.imdb.com/title/tt9315990/

+swap & time arbitrage

วันนี้ ปิด position ค้างมาออกได้จากการใช้ประโยชน์ของ swap จึงอยากเขียนบันทึกไว้ เทรดเดอร์ ไม่มีใครบอกให้ต้องเล่นสั้นเสมอไป ดังนั้นอย่าไปดูถูกพลังของ +swap และ "time arbitrage" นำสองสิ่งมาใช้ให้เป็น บวกกับการเลือก product และทำ portfolio construction ที่ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ trading system ได้ นอกจากนั้นการใช้ time management และ +swap นอกจากได้ ผลตอบแทนมาลด DD ของ position บวกเพิ่ม ความสามารถในการถือสถานะให้ยาวขึ้น แล้ว ยังมาลด cost พวกค่าคอมมิชั่นและอื่นๆได้ด้วย ซึ่งสุดท้ายเป้าหมาย คือการทำให้เกิด alpha หรือสร้างให้ balance curve มันมีความสัมพันธ์กับ market น้อยที่สุดเพื่อลดความผันผวนจากตลาด และสามารถสร้างผลตอบแทนเชิงบวกได้ในทุกสภาพตลาด ปล. เช่นเดียวกัน ก็ไม่ใช่ทุกโบรกเกอร์จะให้ swap ที่ดีหรือเท่ากันเสมอไป ขณะเดียวกันบางสินค้า swap ดีแต่สภาพคล่องในการเทรดต่ำ บวก spread อาจจะกว้าง ก็เป็นได้ ดังนั้นจุดนี้ ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลให้ดี ก่อนเข้าไปเทรดเสมอ

Buy the drip ประหยัดเงินค่ากาแฟ เพื่ออนาคต

นักวางแผนการเงินจาก Bone Fide Wealth, LLC ดูเหมือนจะจริงจังกับการออมเงิน ค่ากาแฟอย่างมาก เขาสรัาง app เพื่อคำนวณเงินผลตอบแทนในอนาคตที่ได้จากนำเงินส่วนเหลือไปลงทุน กรณีถ้าเราชงกาแฟไปกินเองที่บ้าน แทนการกินกาแฟตามร้าน การคำนวณไม่ซับซ้อนอะไร แค่ระบุประเภทกาแฟและปริมาณการบริโภค app คำนวณว่า 1 ปีเสียค่ากาแฟเป็นเงินเท่าไหร่ และกรณีที่ชงกินเองจะประหยัดไปได้กี่บาท แน่นอนว่า Bone Fide Wealth เป้าหมาย กระตุ้นให ้คนเอาเงินมา ซื้อกองทุน มาลงทุนต่อ จริงๆถ้าไม่กินกาแฟ หรูหรือกาแฟแบนด์ ก็ไม่ได้มีนัยยะการประหยัดอะไรเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับการลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ app แสดงตัวเลขดูเหมือนจะมาก เพราะโชว์เงินส่วนต่าง ซึ่งนำไปลงทุนระยะ 30 ปี แต่ต้องยอมรับในความหัวการค้าของฝรั่ง เพราะตัวเลขเงินงอกออกมาหลายหมื่นเหรียญ(กรณีถ้าเริ่มประหยัดและลงทุนวันนี้) ชักจูงใจให้คนหันมาลงทุน หรือมาซื้อกองทุน เพื่อรับผลตอบแทน สร้างเงินก้อนนั้นในอนาคต ได้เป็นอย่างดี ถ้าใครอยากรู้ต้นทุนค่ากาแฟ ของเราก็ลองไป เล่นดูได้ที่ https://bonefidewealth.com/buythedrip/

อีก3ปีก็จะเกษียณแล้ว ถ้าเงินเก็บแค่5แสน จะทำอะไรดี!!!!!!!!!

กรณีนี้อาจจะคล้ายหลายคน พอ net หักลบหนี้ เกษียณอาจจะเหลือเงินไม่มาก ในพันทิพย์ ความคิดเห็นส่วนใหญ่ จะแนะนำให้  - เปลี่ยนงาน+ทำงานต่อ ขยายเวลาเกษียณ สมัครงานบริษัทจ้างคนสูงวัย เช่น IKEA, Homepro , Seed เพราะดูเหมือน 5 แสนจะไม่พอจริงๆ กรณีถ้าคิดจะอยู่แบบไม่มีคนดูแลไปอีกสัก 5-10 ปี  - ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ลงทุน เล่นหุ้น ทำธุรกิจ เพราะความเสี่ยงช่วงนี้สูงเกิน ฐานเงินทุนที่มีน้อย - นอกจากนี้แนะนำ รักษาสุขภาพ ประหยัด ไม่ก่อหนี้ใหม่เพิ่ม อ่านเต็มๆที่ https://pantip.com/topic/38960958

Knock Down The House

ก่อนนอนมารีวิว สารคดีเรื่องหนึ่งทาง netflix ให้อ่านกัน ชื่อ Knock Down The House ตอนแรกไม่ค่อยอยากดูเพราะเป็นหนังเกี่ยวกับการเมือง แต่ด้วยแรงเชียร์จากน้องคนหนึ่ง ก็เลย นั่งชมระหว่างพักกินข้าวกลางวัน ปรากฏว่า เป็นหนังสารคดีที่ดีทีเดียวแฮะ เล่าเรื่องเร็ว ภาพสวย และน่าติดตาม ประเด็นหลักไม่ซับซ้อน กลุ่ม Justic Democat และ Brand New Congress ต้องการหาทางเลือกทางการเมืองใหม่ให้อเมริกา ทำการหาตัวเลือกหน้าใหม่ เพื่อเข้ ามาลงสมัครท้าชิงตำแหน่ง สว. เพื่อช่วยกันเปลี่ยนประเทศและเป็นตัวแทนประชาชนชั้นล่าง ต่อสูงกับกลุ่มทุน สารคดีเน้นติดตามแคมเปจของตัวแทนที่ผ่านคัดเลือกทั้ง 4 คนคือ Alexandria Ocasio-Cortez, Amy Vilela, Cori Bush, และ Paula Jean Swearengin เหล่าผู้หญิง ที่เข้ามาเปลี่ยนสังคม โดยทั้งหมด มาจากคนธรรมดา อาชีพธรรมดา ลงเลือกตั้งโดยไม่ได้รับเงิน จากนายทุน หรือภาคธุรกิจ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเข้ามาต่อสู้เพื่อคนจน คนชั้นล่างจริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อนายทุน ความสนุกเป็น Alexandria Ocasio-Cortez จาก New York ที่เธอ เป็นสาวเสริฟและ bartender ทำงานหนักช่วยแม่เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้บ้านที่ก

Druckenmiller: The US is in worse shape for a recession now

เช้านี้ก่อนตลาดเปิด ผมนั่งฟังคลิปของ Druckenmiller ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ไว้สัปดาห์ก่อน มีหลายประเด็นน่าสนใจ แต่ค่อนข้างกว้าง เหมือนการสนทนาไปมา โดยสรุป Druckenmiller พูดว่าคุณ Yellen ควรเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 2016 ให้ไปถึง 3.5-4% ตอนนั้นเป็นช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นและโอกาสดี เมื่อมาถึงตอนนี้การเรตขึ้นไปน้อย ช้าไป ดังนั้นเมื่อมีความต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิ จ จึงทำให้เป็นงานยากของ Fed นอกจากนี้ Druckenmiller กล่าวเขาเป็นห่วงอนาคต หลายอย่างเริ่มสะท้อนการถดถอย ขณะนี้ตัวเลขหนี้ โดยเฉพาะ corporate debt ที่สูงโป่งถึง $10 trillion แม้ปัจจุบันตัวเลขทางสถิติ หรือ ดัชนีตลาดหุ้นยัง bullish แต่แกก็ยังใช้คำว่าเรากำลังอยู่ใน worse shape for a recession ยังมีประเด็นย่อยอีกบางส่วนลองเข้าไปฟัง ฉบับเต็ม https://www.youtube.com/watch?v=FfKK6Y18yl8

ธุรกิจคิดนอกกรอบ: potatoparcel ขายมันฝรั่งบวกไอเดีย

ไอเดีย กับการสร้างธุรกิจ นี้เป็นอะไรที่ อาจจะหาเรียนกันไม่ได้ง่ายๆ วันนี้ผมนั่งดูรายการ shark tank คุณ Riad Bekhit ผู้ประกอบการหนุ่ม เจ้าของ potatoparcel ธุรกิจที่เกิดจากการคิดแก้ปัญหาราคาหัวมันฝรั่งตกต่ำ ด้วยการนำเอา มันฝรั่งมาขายออนไลน์ ฟังดูแล้วไม่มีอะไรแปลกใช่ไหม แต่สิ่งที่แปลกคือ เขาเอามันฝรั่ง มาสร้างเป็น gag gift หรือของขวัญสนุกๆ ที่ลูกค้า สามารถเข้ามากำหนด ข้อความ หรือใส่รูปภาพ ที่ต้องการผ่าน webapp จากนั้นก็บริการส่งพัสดุ ไปให้เพื่อน หรือคนที่ต้องการ ไม่ว่าจะส่งแบบขำๆ หรือส่งเพื่อเป็นของขวัญ เพื่อการระลึกถึงในแบบฮาๆก็ได้เช่นกัน มันฝรั่ง 1 หัวที่มีค่าไม่ถึงเหรียญ potatoparcel สามารถขายได้ผ่านเว็บในราคา $9.99 - $14 ด้วยการตลาดออน์ไลน์ และการโปรโมทผ่านโซเซียลมีเดีย ทำให้เขาสามารถขายมันฝรั่งได้มากกว่า 70,000 หัว คิดเป็นรายได้หลาย แสนเหรียญต่อปีเลยทีเดียว หลังออกรายการ ยิ่งทำให้คนรู้จักมากขึ้น สร้างรายได้เฉลี่ยต่อเดือน $25,000 เขานำธุรกิจมานำเสนอเพื่อขอเงินทุน จากรายการ shark tank สามารถปิดดีลได้รับเงินทุน $50,000 จาก Kevin O’Learyแลกกับการถือหุ้น 10% + royalty fee

Machine learning for options hedging

บทความไม่ได้ลงรายละเอียดลึกมาก ออกแนว show case ขายของ แต่ก็ยังน่าสนใจดีเพราะทำให้เห็นว่าฝั่งโบรกเกอร์นำ AI ไปใช้อย่างไร บทความอธิบายให้เห็นว่า JPM เอา machine learning ไปใช้ทำ trading สำหรับการ hedging ตัว equity options แทนโมเดลประเมินราคาแบบเดิมอย่าง Black-Scholes ซึ่งKey คือ การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เรียลไทม์ ทั้งราคา options และราคา equity อ้างอิ ง โดยเฉพาะพวก market dynamic, Order flow ผสานความเร็ว และความได้เปรียบในการ หา best price และจัดการกับการเทรดเก็บ volume ขนาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพ ลด transaction costs ถ้าอยากลงลึกเรื่องแนะนำลองอ่าน paper ชื่อ deep hedging ของ Hans Buehler อันนั้นใช้ reinforcement learning + non linear reward เพื่อประมาณ volatility สำหรับ trading strategies แทนการใช้โมเดล stochastic processes แบบเดิม โดยตัว paper นี้จะได้ไอเดียการพัฒนาระบบ AI กับการเทรด options เพื่อบริหารความเสี่ยงให้พอร์ตมากกว่า อ่านฉบับเต็มจาก https://www.risk.net/derivatives/6691696/jp-morgan-turns-to-machine-learning-for-options-hedging?

บันทึกหุ้น Deutsche Bank

Deutsche Bank หุ้นธุรกิจอายุยาวกว่า 140 ปี ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเยอรมันนี สาขา 58 ประเทศทั่วโลก พนักงานกว่า 91,463 คน ราคาหุ้นสัปดาห์นี้ทำ New low ประวัติการณ์ หลุด 6 Eur ลงมา (ล่าสุด 5.98 eur) อดีตตอน 2007 ราคา high ที่ 116.65 ถ้าถือลงทุนยาวหรือติดดอย คงจะทำให้ปวดตับน่าดู ราคาไหลลงต่อเนื่องหนักมาตั้งแต่ปี 2010 ติดต่อกันมา 9 ปีเต็ม พร้อมกับกรณีข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน ทั้งเรื่องการไปพัวพันกับการฟอกเงิน, การโดนปรับจากรัฐกรณีผิดกฏ(รวมกว่า 12,489 ล้านเหรียญ) ยังมีเรื่องการโดนฟ้องจากสหรัฐ เรียกค่าเสียหายกรณีวิกฤติซับไพร์ม ล่าสุดดีลการควบรวมระหว่าง Deutsche Bank และ Commerzbank ก็ล้มไป ราคารับผลเชิงลบ ร่วงลงหนักทำเอานักเก็งกำไร เข้าไป ดักทาง หรือนักลงทุนที่ติดดอยและ ถัวเฉลี่ย ต้องขาดทุนกันอย่างหนัก https://twitter.com/zerohedge/status/1134412215174479873

Uncertainty ว่าด้วยความไม่แน่นอน

อธิบายเรื่อง Uncertainty Analysis และ Monte Carlo Method จบทิ้งท้าย slide ด้าน quote คำพูดคมๆจากบทความของ Cassie Kozyrkov Uncertainty means you can come to the wrong conclusion, even if you have the best math in the world. การเทรดยังไงเสียก็หนี้ไม่พ้น risk ส่วน risk เป็นซับเซตของ uncertainty นั้นแหละแต่ risk นั้นมักจะสามารถ คำนวน probability และ impact ที่เกิดได้ ลองดูภาพด้านล่างได้ ประกอบ