ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Deep Learning in Trading

ทำการบ้านวันนี้นั่งอ่าน paper และ slide ของ qplum llc เป็น investment firm สาย AI มี AUM ราวๆ 28 ล้านเหรียญ คุณ Gaurav Chakravorty เขานำเสนอเกี่ยวกับ Deep Learning in Trading ในงานสัมนาที่ Univ. of Pennsylvania มีประเด็นน่าสนใจหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของ A.I. and Deep Learning ในการเทรดและการลงทุน ใน slide เล่าถึงวิวัฒนาการของการพัฒนากลยุทธ์การเทรด จากอดีตมาถึงปัจจุบัน, HFT , แสดงการใช้เรื่องของ Data Science ในการสกัดเอา insight จาก Big Data จำนวนมหาศาลที่เกิดในแต่ละวัน( ข้อมูล,รายงาน,ข่าว,ราคา,ปริมาณการซื้อขาย,Market Data, Bid/Offer เป็นต้น) รวมถึงการนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนา Deep Learning Model เพื่อวิเคราะห์หารูปแบบ รวมถึงภาวะการเปลี่ยแนปลงของข้อมูลจำนวนมากและซับซ้อนที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อขาย หุ้นและอนุพันธ์ สนับสนุนกลยุทธ์การเทรดแบบ High Frequency Trading สรุปย่อๆประมาณนี้ เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้จาก slide ด้านล่าง ปล. คลิปนี้ดีมากนะครับ คนพัฒนาระบบ มาบรรยายเอง มุมมองของจริงมาก ดังนั้นใครทำระบบด้านนี้แนะนำให้ลองฟังเลย ราวๆ 1 ชม. ดู profile ข

Do you believe in Bitcoin?

ได้อ่านบทความนี้ของ BI เป็นเรื่องราวของ Didi Taihuttu ชายผู้เป็น Bitcoin believerสาย Hardcore ที่ขายสินทรัพย์ทุกอย่างที่มี เพื่อซื้อ Bitcoin และรอให้ผลตอบแทนมันเพิ่มทวีคูณ Didi Taihuttu ชายวัย 39 ปี ภรรยา 1 ลูกสาว 3 คนหลังจากที่คุณพ่อเขาตายด้วยโรคมะเร็งในวัย 61 ปี เขาได้ขายธุรกิจ ขายบ้าน ขายรถ และสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี ซึ่งตอนแรกเขาพยายามจะขายบ้านมูลค่า 300,000 eur เป็นบิตคอยแต่ติดปัญหาที่ระบบธนาคารและการโอนสัญญาซื้อขายอสังหา ทำให้ต้องซื้อขายเป็น สกุลเงินแบบเดิม หลังจากขายบ้าน และธุรกิจเก็บเงินบางส่วนเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก กับครอบครัว และใช้เงินส่วนใหญ่ที่เหลือ ซื้อ Bitcoin เก็บสะสมไว้ โดยมีเป้าหมายเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ใน Asia , Australia และเขาเปลี่ยนมาเลือกใช้ชีวิตแบบ สมถะ(แตกต่างจากอดีตที่ครอบครัวเขานิยมความหรูหรา) ไปจนถึงปี 2020 โดยคาดหวังว่า Bitcoin ที่สะสมเป็นแหล่งพักเงิน มันจะโดขึ้นจากเดิม 3-4 เท่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า Minimalist คือ Key ที่ Didi Taihuttu บอกว่ามันจะช่วยทำให้เขาสำเร็จในการเดิมพันครั้งนี้ ซึ่งเขาเล่าว่าหลายคนอาจจะคิดว่าเขาบ้า แต่เขารู้จัก Cryptoc

Crypto CFDs ของร้อนที่ต้องระวัง

ความเคลื่อนไหวในตลาด cryptocurrency ในปี 2017 ที่ร้อนแรงคือ การสร้างผลิตภัณฑ์ ลูกผสม CFDs + cryptocurrency (Bitcoin) ที่เรียกว่าร้อนแรง กลายเป็นที่นิยม หลายโบรกเกอร์ต่างออกผลิตภัณฑ์นี้ออกมารับกระแส การเก็งกำไรช่วงปีที่ผ่านมา จนตอนนี้เหล่า regulator ของยุโรปทั้ง Financial Conduct Authority(FCA) และ CySEC ต่างออกมาเตือน นักเก็งกำไรและนักลงทุน ให้ระมัดระวัง ส่วนฝั่งสหรัฐนี้แบน ห้ามไม่อนุญาติให้เทรด CFDs กันอยู่แล้ว ด้านโบรกเกอร์ที่ออก Crypto CFDs ออกมาโต้แย้งว่า ทุกอ ย่าง OK ยังปลอดภัยเอาอยู่ Bitcoin เป็นสินค้าที่มีความผันผวนสูง เมื่อนำมาบวกรวมกับ Contract For Differences (CFD) ที่โบรกเกอร์พยายามออกมานำเสนอให้ลูกค้า ที่จูงใจด้วย leverage ยิ่งทำให้ความเสี่ยงมันเพิ่มขึ้น ปัจจุบันหลายโบรกเกอร์ต่างออกโปรดักช์ crypto-CFDs ออกมา เช่น IG เสนอให้ leverage 8:1 , Plus500 ให้ leverage 30:1, Ava ให้ leverage 20:1 เจ้าอื่นๆให้ leverage เฉลี่ยอยู่ราวๆ 10-50เท่า บางเจ้าเช่น bitmex ให้ 100:1 ก็มี หมายความว่า มีเงินแค่ $50 ก็สามารถซื้อสัญญา cfds bitcoin มูลค่า $5000 ได้ ซึ่งถือว่าสูงมากพอควร เทรดเ

Domeyard: Hedge fund Startup

Domeyard บริษัท Startup ที่กำลังมาแรงหลัง ระดมทุน $10 ล้านเหรียญจาก VC และนักลงทุนสายการเงินชื่อดัง เช่น Howard Morgan (co-founder of Renaissance Technologies และ Gary Bergstrom จาก Acadian Asset Management บริษัทมีผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คน คือ Christina Qi , Jonathan Wang และ Luca Lin (อายุ 26 ปี) เริ่มสร้างตั้งแต่ในหอพักมหาวิทยาลัย เริ่มต้น Qi และ Wang สนใจการเทรดในตลาดหุ้น เขาหัดเทรดและพัฒนา algorithmic trading มาก่อนตั้งแต่ยังเรียนใน MIT โดย Wang เรียนด้าน computer science เขาสนใจการเทรด เช่นเดียวกับ Qi เพื่อนร่วมหอพักที่เริ่มเทรดจริงจัง จนมีโอกาสฝึกงานกับ Goldman Sachs ทั้งสองมีโอกาสได้ไปเจอกับ Luca Lin ซึ่งเรียนด้าน Physic จาก Harvard University และใช้เวลาว่างเป็นเทรดเดอร์ที่สนใจด้าน statistical arbitrage และทำด้าน machine learning เมื่อเรียนจบราวปี 2013 ทั้ง 3 คนร่วมกันเปิดบริษัท และพัฒนาระบบเทรด ระยะเวลากว่า 3 ปี จนปัจจุบัน Startup สามารถระดมทุน Setup ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงและเปิดบริการรับบริหารเงินในช่วงปี 2016 บริษัทขยายตัวมีพนักงาน 14 คนมีเทรดเดอร์และ portfolio manag

GRID Money Management

สรุปผลการแข่งขัน Robot Fighting รอบที่2 เหลือทีมผ่านเข้ารอบ 6 ทีมจาก 20 ทีมในเดือนที่1 เริ่มเทรดเก็บคะแนน รอบใหม่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยสัปดาห์ที่ 1 ตัว Vector Scalping 4x4 (Benchmark) คะแนนนำ เทรดไป 37 ครั้งเก็บคะแนน 405.0 pips การแข่งขันที่จัดเน้นการอยู่รอดระยะเวลา 2 เดือนในตลาด เทรดบัญชีจริง(micro) เน้นการเก็บ pip และคุมขนาด Draw down ให้ได้ตามเกณฑ์ จากการทำ Money Management ไม่เน้นการเร่งทำกำไรหรือการอัด lot size การแข่งขันนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสมาชิก จัดรายการ live ชื่อ Robot Fighting Documentary ประกอบไปด้วย โดยสอนเรื่องของ Tactic และกลยุทธ์ ช่วยทำให้สมาชิก พัฒนาระบบเทรด แบบยั่งยืน ไม่ล้างพอร์ต  สองตอนแรก เรื่องของ GRID Money Management สามารถเข้าฟังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Ly0OiUi2mrA https://www.youtube.com/watch?v=PRs35bvVH-Q

Ray Dalio says 'bitcoin is a bubble'

ช่วงนี้คุณเรย์ ดาริโอ กำลังเดินสายโปรโมทหนังสือ Principles ทำให้ช่วงนี้มีคลิปการให้สัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจและหนังสือ Principles เยอะเลย เท่าที่ไล่ฟังมาผมมองว่า คลิปที่สนทนากับ Tony Robbin แง่เนื้อหานี้น่าจะดีที่สุดแล้ว แต่กระนั้นอีกคลิปที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งเป็นประเด็นร้อนคือเรื่อง Bitcoin เพราะคุณ ray dalio เป็นอีกคนต่อจาก Jamie Dimon จาก JPM ที่ออกมาจวกบิตคอยด้วยคำพูดที่ว่า "bitcoin is a bubble" เป็นอีกความคิดเห็นจากปากของผู้บริหารกองทุนเฮ็ดฟันด์ขนาดใหญ่อันดับต้นของโลก บริหารเงิน $160 billion ประสบการณ์กว่า 40 ปีในตลาดชื่อชั้นรับประกันไม่ต้องห่วง ดูคลิปจาก CNBC ประเด็นของคุณ Ray dalio ที่ให้ไว้ก็น่าสนใจ กล่าวคือเขาไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยี Blockchain นะ แต่เขามองว่า "ราคา" ของ Bitcoin มันขึ้นมามากจนเข้าภาวะฟองสบู่ เช่นเดียวกันมีการทำ ICO ออก Cryptocurrency ใหม่ๆจำนวนมาก ราคาต่างเพิ่มขึ้นเร็วด้วย volatility สูงในช่วงปีนี้ แต่การใช้งานด้านการแลกเปลี่ยน(transaction)กลับมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเก็งกำไรมูลค่าหาประโยชน์จากส่วนต่างราคา คนส่วนใหญ่เก็

5 Tips to reduce Draw Down

มีคำถามหนึ่งจากน้องเทรดเดอร์เกี่ยวกับการลดขนาด DD ของพอร์ตค่าเงิน เข้ามา ผมนำแนวคิดที่ใช้ในการบริหารพอร์ต robot trading ใน lab มาสรุปเป็นขั้นตอนเบื้องต้น เพื่อให้พวกเราลองเรียนรู้และไปปรับใช้กันครับ 1. วางแผนล่วงหน้ากำหนดขนาด Draw down ที่รับได้ไว้ก่อน เช่นกำหนด MaxDD = 60% 2. ติดตามขนาด Draw down จากกราฟทุกวันเช่นเดียวกับการดูกราฟราคาสินค้า โดยแบ่งแนวสังเกต Draw down จาก ระดับสูงสุดที่รับได้เป็น 4 ส่วน เช่น 15% , 30%, 45% , 60% 3. ป้องกันการโตของ Draw down โดยเทียบอัตราการเพิ่มของ Profit (cash flow) ต่อวันกับขนาดการเพิ่มของ Drawdown กรณีถ้า DD เพิ่มด้วย slope สูงแตะระดับสังเกต เช่น 30% จะต้องทำการลดขนาดของวงเงินในการเข้าเทรดลง,หรือวางกลยุทธ์เพื่อสร้างเงินสดมา cover loss จนกว่า DD จะกลับเข้าระดับปกติ 4. คุมอารมณ์ตัวเอง การมีวินัยทำตามแผนสำคัญมาก เพราะเวลาขาดทุน equity ลดลง Draw down เพิ่มมือใหม่มักอยากเอาชนะตลาดด้วยการแทงทบ หรือพยายามเพิ่มเดิมพันเพื่อกลบขาดทุน ซึ่งตรงนี้ 80% มันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่าเดิม ถ้าพิจารณาพฤติกรรมข้อมูลราคา หรือภาวะตลาดไม่ดีเพียงพอ 5. อดทน ชะลอ

Bear Market and Millennial trader

ได้อ่านบทความหนึ่งเขียนถึงคำสัมภาษณ์ของ Jim Roger ประเด็นที่ว่า When this bull market ends, ‘you don’t want the 26-year-old around’ Jim Roger เล่าประสบการณ์สมัยตอนเขา 26 ปีช่วงสดและหึกเหิมทำกำไรจากการเทรดได้ 2 ปีติดกัน 500% ช่วงตลาดกระทิงบริษัทรักเขา แต่ปีต่อมา เกิดวิกฤติตลาด crash ราคาหุ้นตกลงรุนแรง กำไรที่ได้มา หลายปีหายไปหมด Jim Roger ให้ความเห็นไว้น่าสนใจ โดยแกมองว่า millennial trader / investor ยุคใหม่เข้ามาทำกำไรในช่วงหลังวิกฤติซับไพร์ม 2008 ด้วยความมีกำไรจากตลาดขาขึ้ น(long-run bull market) ทำให้เหล่า millennial มีความหึกเหิมและเล่นเกมส์เสี่ยง ไม่กลัวขาดทุนหมดตัว อาจจะเพราะเห็นว่าตลาดทำเงินง่าย แต่ด้วยประสบการณ์ที่ไม่มากและเชื่อว่าเงินหาง่ายได้เร็ว จึงทำให้ประมาท แง่บวกช่วงตลาดขาขึ้น ทำให้มี volume มีเม็ดเงินเข้ามาไล่ซื้อหุ้น ขับเคลื่อนตลาดให้ขึ้นแรง สุดท้ายเมื่อจบรอบขาขึ้น เข้าสู่ตลาดหมีเต็มตัว millennial trader เหล่านี้ก็จะไม่สามารถเอาตัวรอด ในตลาดได้ วิธีการหรือความเชื่อที่เคยคิดว่ามันทำกำไร ก็อาจจะกลายเป็นใช้ไม่ได้และนำมาสู่การขาดทุนหนักไป สรุปแล้ว อนาคตค

Tony Robbins interviews Ray Dalio

คลิปราวๆ 1 ชม. พอดีเพิ่งมีเวลาฟังจบ เนื้อหาไปทางโปรโมทหนังสือ Principles  ของคุณ Ray dalio มีประเด็นน่าสนใจหลายเรื่อง ที่เราสามารถไปปรับใช้ได้เลยนำมาแชร์ให้สมาชิกได้อ่านกัน >> แนะนำตัว - เริ่มต้นคุณ tony เล่าประวัติเบื้องต้นของ Ray Dalio การเติบโตจากครอบครัวอเมริกันทั่วไป  - จุดเริ่มต้น ที่ทำให้สนใจเข้ามาในตลาดหุ้น มาจากช่วงวัยรุ่น ทำงานรับจ้างทั่วไป มีเงินเก็บก็นำมาซื้อหุ้น ray dalio บอกว่าเขาติดใจในเกมส์ชอบในเกมส์การเงิน ทำให้เข้าหันหน้ามาศึกษาด้านนี้อย่างจริงจัง - อายุ 26 ปี เขาลาออกจากงานประจำ ร่วมกับเพื่อนก่อตั้งบริษัทบริหารเงินของตัวเอง โดยเริ่มต้นเขาใช้อพาร์ทเมนต์ส่วนตัวเล็กๆเป็นออฟฟิตทำงาน - เป้าหมายการเขียนหนังสือ Principle คือ ray ต้องการเป็นผู้ให้ส่งต่อ Principle ที่เขารวบรวมและเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านการทำธุรกิจ และการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นแนวทางวิธีการหาการตัดสินใจที่ดี ช่วยทำให้ประสบความสำเร็จ >> ความผิดพลาด - 1971 คุณ ray dalio มองตลาดผิดเขาคิดว่าเมื่อ Richard Nixon ประกาศไม่อิงค่าเงิน usd กับทองคำ น่าจะทำให้เกิดการด้อยค่าของเงิน ตลาดหุ้นน่าจะ

ตลาดหุ้นทำ New High ทำไมฉันยังไม่ลงดอย

เมื่อเช้ามีท่านหนึ่งถามว่า ทำไมตลาดหุ้น SET ทำ new high ราคาจะขึ้นไป 1700 จุดอยู่แล้ว แต่หุ้นในพอร์ตกลับยังติดลบ หลายตัวยังติดดอยหนักอยู่เลย ผมขอตอบโดยการนำข้อมูล การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นและดัชนี sector ต่างๆในช่วงปี 2017 เอามาให้ดูครับ เหมือนที่บอกไปตลาดปีนี้เทรดยากนะ ไม่ใช่ว่า ซื้อหุ้นต้นปีแล้วปลายปีจะมีกำไรปิดบวกเสมอไป ดูจากภาพจะพบ ถ้าเราจับหุ้นผิดตัว หรือไปถัวเฉลี่ยร ับมีดผิดดอย ตอนนี้ นอกจากจะไม่กำไรอาจจะติดดอยสูงอยู่ได้อีกด้วย SET ยกรอบเดือน กย. เป็นการขึ้นแบบ high volatility และจากข้อมูลพบเป็นการขึ้นเฉพาะบางตัวและบาง Sector โดยเฉพาะตัวจ่ายปันผลดี ดังเห็นจากดัชนี SETHD ที่กลับทิศทางได้รับแรงซื้อเข้าอย่างหนาแน่น หลังจากโดนขายช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มองภาพใหญ่เทียบต้นปี 2017 ปีนี้กลุ่ม MAI การเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่สดใส แม้กลับมาได้บ้างแต่เทียบกับ มกราคม- กพ ที่ peak และโดนเทขายก็ยังไม่สามารถกลับมาได้ในระดับเดิมต้นปี ดังนั้นถ้าพอร์ตเราสะสมหุ้นกลุ่ม MAI พวก หุ้นเล็กอาจจะไม่ได้อานิสงมาเท่าไหร่กับการ bullish ของตลาดรอบนี้ (ยกเว้นบางตัวที่เล่นกับ story)แต่ถ้าสะสม

Implied Correlation

พูดถึง market sentiment ของตลาดหุ้นอเมริกาไป มีตัวหนึ่งเป็นเครื่องมือ ที่อยากแนะนำให้ลองศึกษาดูครับ ชื่อ Implied Correlation Index เราอาจจะคุ้นกับ Implied volatility การคำนวณค่า volatility จาก options pricing model เช่น BS เจ้าตัว Implied Correlation นี้ทำงานคล้ายๆกันคือคิดคำนวณค่า correlation ทางอ้อมจาก option premiums ของ stock index เช่น S&P500 กับตัว premiums ของ individual stock (ปรับค่าน้ำหนักตามขนาดของหุ้นแต่ละตัว) โดยมอง options market เป็นเหมือนตัวแทนความคาดหวังในอนาคต เพื่อใช้วิเคราะห์ ประเมิน sentimental ที่กระทบต่อแนวโน้มราคาตลาดหุ้น (รายละเอียดอ่านได้จาก paper ด้านล่าง) ประเด็นคือ ค่าของ S&P500 Implied Correlation Index (โมเดลของ CBOE) เทียบกับ S&P500 index ช่วงนี้มันเกิดภาวะ lower correlation และตัวค่า implied correlation แยกทางกับ S&P500 นักวิเคราะห์มีการมองกันว่า อาจจะมี short-term bearish หรือการปรับฐานเกิดขึ้นได้ (ปกติค่านี้ช่วง strong trend จะมีลักษณะ high correlation)  แต่ค่า implied correlation ไม่ได้ใช้บอกการกลับตัวหรือบอกการซื้อขายโดยตรง มั

ผลกระทบต่อตลาดประเด็นเกาหลีเหนือ

บันทึกไว้สักนิดกับภาวะการณ์ปัจจุบันประเด็นความขัดแย้งเกาหลีเหนือที่ปี 2017 กลับมาร้อนแรงอีกครั้งหลังจากนิ่งมาหลายปี ไปเจอบทความนี้ใน marketwatch เขารวบรวมข้อมูลสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบ จากประเด็นการทดสอบ nuclear รอบล่าสุด ต่อเนื่องจากการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป หลายรอบช่วงก่อนหน้า จนทำเอาเพื่อนบ้านอย่าง เกาหลีใต้ ญุี่ปุ่นต้องปวดหัว -ภาพแรก >> ค่าเงินเยน ถือเป็น safe haven currency อีกตัวที่แข็งรับในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว - ภาพที่สอง >> GOLD ทองคำกลับมา new high ในรอบปี จากเวลา 2 เดือนช่วงแรงกดดันปมเกาหลีเหนือ ทองคำวิ่งจากโซน 1210 ไปทดสอบ high ที่ 1344  - ภาพที่สาม >> ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ ตกลงค่อนข้างหนักจากความกังวล โดยเฉพาะช่วงเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นหลักของโลกและเอเซีย ที่รับประเด็น เกาหลีเหนือ ซึ่งเดินหน้าทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ต่อ ที่มีความไม่แน่นอน ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงในรอบนี้อย่างไร http://www.marketwatch.com/story/how-north-koreas-nuclear-test-rattled-markets-in-5-charts-2017-09-04

อิคิไก(ikigai) กับการเริ่มต้นเป็นเทรดเดอร์

มื่อวานผมพูดถึงประเด็นที่ควรพิจารณาก่อนเข้ามาเป็น Trader เพราะเมื่อเดินเส้นทางนี้แล้ว มันก็เหมือนการเลือกอาชีพที่เราจะต้องทำ จะต้องอยู่กับมันทุกวัน ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีก่อน ผมแนะนำคือหลักการที่เรียกว่า อิคิไก(ikigai) ของญุี่ปุ่นความหมายประมาณว่า "เหตุผลของการมีชีวิตอยู่" มีการถ่ายทอดและมีการสอนให้นำมาพิจารณาการดำเนินชีวิตของเรา แต่มันก็ประยุกต์ใช้ตั้งคำถาม เพื่อใช้พิจารณาการงาน หรือกิจการที่เรากำลังทำได้ หลักของ อิคิไก คือการพิจารณาความสมดุล ได้แก่ ความสุขที่ ได้ ,รายได้/ผลตอบแทนที่ได้รับ,สิ่งที่เราทำได้ดี,ประโยชน์ต่อผู้อื่นทั้งทางตรงทางอ้อม กรณีนี้ลองตั้งคำถามตัวเราว่า การเป็นเทรดเดอร์ เราต้องการเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่เป็นเพราะทำตามคนอื่น หรือเป็นเพราะมีเป้าหมายแค่จะทำเงิน สร้างกำไรร้อยล้านพันล้านอย่างเดียว มันต้องมีเหตุผลประกอบ มีแรงจูงใจ ที่ทำให้อยากพยายาม อยากเรียนรู้ในทุกวันที่ตื่นขึ้นมา เพราะสิ่งเหล่านี้มันเป็นแรงขับดันให้เราเดินทาง ผ่านอุปสรรค์ ผ่านความยากลำบากไปถึงเป้าหมายได้(ซึ่งมันไม่ได้มาถึงในเดือนสองเดือนหรือปีสองปีแบบง่ายๆ) ถ้าใครกำลังสับสนกับตัวเอง

AI for Trading and Services

บทความนี้ของ FT น่าสนใจดี เขาเขียนถึง JPMorgan ที่กำลังพัฒนา AI มาทำงานด้านการส่งคำสั่งซื้อขายแทนมนุษย์ ตามข่าวอ้างอิงคุณ David Fellah ตำแหน่ง JPMorgan’s European Equity Quant Research team.ระบุว่าผ่านช่วงทดสอบการทำงานของ LOXM ปัญญาประดิษฐ์ ที่ JPM พัฒนาขึ้นมาใช้งานด้านการเทรด จากการทดสอบช่วงต้นปี 2017 ใน European equities segment พบว่ามีประสิทธิภาพการเทรดดีกว่า มนุษย์ ผลการทำงานออกมาดีกว่าค่าที่กำหนด โดยไตรมาส 4 ปี 2017 ขยายใช้งานในตลาด Asia และ US LOXM เป็น AI ทำหน้าที่ส่ งคำสั่งซื้อขายของลูกค้า โดยมันจะสามารถหา ราคาที่ดีที่สุด(Best Price) ให้กับลูกค้าได้ และบวกกับความเร็ว high speed รวมถึงกลยุทธ์การส่งคำสั่งขนาดใหญ่ การวิเคราะห์ข้อมูล Order Book ที่เกิด บทความอธิบายแนวคิดเบื้องต้นสำหรับการพัฒนา AI ด้วย “Deep Reinforcement Learning” ซึ่งใช้ข้อมูล Order ที่มีการซื้อขายและจับคู่ในอดีตของ JPM จำนวนหลายล้านรายการมา Training เพื่อสร้าง model ที่ช่วยให้ สามารถส่งคำสั่งหาราคาที่ดีที่สุด และหลีกเลี่ยงผลกระทบการส่งคำสั่งขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่ทำให้ราคาตลาดปั่นป่วนจนเกิดความไม่ปกติไ

The Quant Quake, 10 years

เข้าสู่ช่วงครบรอบ 10 ปี วิกฤติการเงินสหรัฐตอนปี 2007 ช่วงตลาดเผชิญภาวะเลวร้าย ตอนนี้มีเทรดเดอร์และผู้จัดการกองทุน หลายท่านออกมาเขียนบทความถึงเหตุการณ์ที่เกิด ผมไล่อ่านหลายบทความ มีหลายประเด็นน่าสนใจโดยเฉพาะด้าน Quant Fund กับภาวะตลาดไม่ปกติ การล้มของกองทุนที่รันด้วย Quant strategies ช่วงปี 2007 รวมไปถึงความกังวลที่หลายคนเขียนคล้ายๆกันคือ การเกิด melt down ของตลาดที่จะมีรูปแบบแตกต่างไปจากอดีต เนื่องจากการ action ของ machine หรือพวก AI trading ประเด็นหนึ่งที่ปัจจุบันมีการพูดถึ งมากเรื่อยๆคือ การพัฒนา Quant trading ด้วย AI ที่ไม่ใช่แค่ฉลาดหรือมีกลยุทธ์ซับซ้อนอย่างเดียว แต่เทรนไปทาง สร้าง AI ให้มีความสามารถเพิ่มวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเรียลไทม์เพื่อจับ market anomaly หรือความผิดปกติตลาดให้ได้ และขายออกด้วย high frequency trading ให้เร็วกว่าคนอื่นๆ (รวมร่าง AI + HFT ) เพราะตรงนี้เป็นการป้องกัน Risk และไม่ต้อง play god ไปพยากรณ์คาดเดาตลาดทิศทางราคาล่วงหน้าหรือรีบไปซื้อสวนก่อนราคากลับตัว ลองจินตนาการ AI เห็นโอกาส ซื้อทำกำไรจากการเคลื่อนของราคา จากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แถมเข้าได้เร็

Robert Carver , systematic trader

Robert Carver ปัจจุบันเป็นนักเขียน เป็น systematic trader และเป็นนักวิจัยพัฒนาระบบ เทรด เขาเริ่มต้นเขาสู่โลกการเงินตั้งแต่ปี 2002 เขาเรียนจบปริญญาตรี โท ด้านเศรษฐศาสตร์ เข้าทำงานกับ  Barclays Capital เทรดสินค้า exotic derivatives  จากนั้นลาออกมาทำงานเป็นนักวิจัยที่ Center of Economic Policy Research แล้วย้ายมาทำงานให้กับ MAN AHL  ซึ่งเป็น Hedgefund อันดับต้นของโลก เขาทำพัฒนาระบบเทรด fundamental global macro strategy จากนั้นขยับขึ้นไปบริหารพอร์ตลงทุนระดับพันล้านเหรียญในสินค้าประเภท fixed income  จนปี 2013 เขาลาออกจาก MAN AHL เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และใช้เวลาการพัฒนาระบบเทรด เพื่อเทรดและบริหารเงินของตัวเอง ปี 2015 ออกหนังสือชื่อ Systematic Trading: A unique new method for designing trading and investing systems  คลิป interview ของรายการ bettersystemtrader นี้สัมภาษณ์ Robert Carver หลายประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาระบบเทรด ผมสรุปประเด็นหลักๆดังนี้ > เขาเป็น systematic trader เชื่อว่า มนุษย์มีข้อจำกัดด้านอารมณ์และการตัดสินใจ ระบบเทรดช่วยตรงนี้ได้ > การพัฒนาร

My Favorite Trading Websites

น้องเทรดเดอร์ท่านหนึ่งขอให้แนะนำแหล่ง สำหรับหาความรู้ด้านการเทรด ผมเลยจะนำเว็บที่ผมใช้เวลาช่วงเช้า 1 ชั่วโมงเข้าไปอ่านประจำทุกวัน โดยเว็บเหล่านี้ไม่ใช่เว็บข่าวทั่วไปแต่จะเป็นเว็บที่เน้นการสร้าง content ดีๆมีทั้งข้อมูล สาระความรู้และเทคนิคกลยุทธ์การเทรด มาแนะนำเพื่อให้ลองไปศึกษาเพิ่มเติมและต่อยอด เรื่องพวกนี้ไม่ใช้ความลับอะไร จริงอยากให้พวกเราได้ลองเข้าถึงและเรียนรู้กันเยอะๆด้วยซ้ำจะ เห็นได้จากเกือบทุกบทความที่ผมเขียน หรือแชร์จะมีการอ้างอิงต้นทางให้พวกเราได้ไปค้นคว้าเพิ่มเพื่ อได้เปิดโลกให้กว้างขึ้น เรียนรู้แนวคิดเทคนิคต่างๆมากขึ้น ปล. ถ้าอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากชุมชนหรือกลุ่มเทรดเดอร์ที่ทำและศึกษา พัฒนาอะไรใหม่ๆด้านนี้อย่างจริงจัง ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญนะครับ ฝึกฝนเรียนรู้ทักษะนี้ไว้จะช่วยเปิดโอกาส เปิดช่องทางการเข้าถึงแหล่งความรู้ดีๆต่อไป ผมสรุปเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆเอาไว้ให้ เข้าไปชมได้จาก link ด้านล่างครับ https://www.youtube.com/watch?v=39NN8WHS2As

การเทรด Morning Gaps ด้วย Gaussian Naive Bayes

หัวข้อการทดลอง ที่เคยเล่าให้ฟัง ผมทดสอบกลยุทธ์การเทรดแบบ Morning Gaps Trading ด้วย Gaussian Naive Bayes เอาเรื่องความน่าจะเป็นและ Machine learning มาใช้สร้างโมเดล เพื่อหาค่าสัญญาณซื้อขายของระบบเทรด โดยใช้ ข้อมูล Morning Gap และพฤติกรรมราคาของ วันก่อนหน้า มาเป็นข้อมูลดิบเพื่อใช้การ Training Model จริงๆไม่ได้เน้นทำระบบเพื่อเทรดอะไร แต่การทดลองนี้เป็นการทำประกอบการสอนเรื่อง Probability กับการเทรด ก็ลองดูเป็นไอเดีย เห็นอีกรูปแบบของการใช้ Gap มาสร้างกบยุทธ์การเทรด อาจจะแ ตกต่างจากการท่องจำรูปแบบ Gap ตามหลักของเทคนิคอลทั่วไป กรณีถ้าจะนำไปใช้การเทรดคงต้องไปพัฒนาต่อ อีกเยอะ เนื่องจากความถูกต้องค่อนข้างต่ำ อ่านบทความฉบับเต็มที่ http://cway-quantlab.blogspot.com/2017/07/morning-gaps-trading-with-probability.html

จริงไหมถ้าใช้ระบบเทรดทำให้รวยช้า

เมื่อเช้ามีคำถามท่านหนึ่งถามว่า "จริงไหมถ้าใช้ระบบเทรดทำให้รวยช้า" ถ้ามองในมุมที่ว่าทำกำไรได้น้อย จากการต้องบริหารเงิน(money management)เพื่อป้องกันความเสี่ยงก็คงจะจริง เพราะเราไม่สามารถ all in อัดหนักหวังทำกำไรแบบการเสี่ยงโชคหรือเดิมพันวัดดวงในครั้งเดียวได้ จึงทำให้รวยช้า รวยไม่ทันใจ สุดท้ายคงกลับมาที่เป้าหมายว่า เทรดเดอร์ต้องการอะไร ต้องการเสี่ยงโชครวยเยอะๆเร็วๆ หรือต้องการเทรดให้ได้เงินจริงจัง ต่อเนื่องและอยู่รอดในตลาดระยะยาว วิธีการเทรด มันทำเงินได้เยอะยามถูกทางแต่เวลาผิดก็ขาดทุนเยอะ กำไรที่ได้มามันก็หายไปได้ข้ามวัน อาจจะดูดีตอนเห็นกำไรเยอะๆ เหมือนถูกหวยแต่ประโยชน์จริงๆด้านความมั่นคงทางการเงินก็คงไม่มี ถ้าทำได้ครั้งสองครั้งไม่สามารถทำได้ต่อเนื่องจริงจัง systematic trading เน้นการสร้างกำไรต่อเนื่อง(constancy win)เหมาะสมกับความเสี่ยง(Risk) และอยู่รอดในทุกสภาวะตลาดทั้งช่วงดีและร้าย การสร้างผลตอบแทนได้มั่นคง เสถียรมันจะก่อให้เกิดผลกำไรทบต้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทำได้ทุกเดือน ทุกปี ระบบก็กลายเป็นห่านทองคำ ที่เลี้ยงชีพ และพาเราไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้ แน่นอนว่าการไปถึ

วิธีรับมือกับ Fake News

มีคนถามว่าถ้าเทรดหุ้นไม่ต้องดูข่าว ไม่ต้องตามข่าวเลยดีไหม เพราะทุกวันนี้มีแต่ข่าวที่มี Bias หรือไม่ก็มีแต่ Fake News ตามสื่อออนไลน์เต็มไปหมด จะว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนคิดแบบนี้ในปัจจุบัน แต่มันอาจจะไม่ใช่ทางออกเดียวเสมอไปครับ ถ้าเรามองโลกตามความเป็นจริงก็จะพบ สื่อทุกสื่อ ไม่ว่าจะออนไลน์ หรืออฟไลน์ ล้วนมี Agenda มีเกมส์การตลาด ที่แฝงมาในการนำเสนอข่าว นำเสนอความคิดเห็นได้ทั้งนั้น และมีมานมนานแล้ว แต่คนยังต้องเลือกติดตาม เพราะมันคือช่องทางในการอัพเดตข่าวสาร ติดตามการ เปลี่ยนแปลงที่เกิด สิ่งที่ทำได้คือต้องเพิ่มความฉลาดในกระบวนการรับรู้(Perception Process) ตั้งแต่การเลือกแหล่งที่มา ,การจำแนกข้อมูล(Data) ออกจาก ข้อคิดเห็น, การสอบทานด้วยการรับข่าวข้อมูลมากกว่าหนึ่งแห่ง จากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่ฟังหรือเลือกเชื่อจากบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเชื่อจากความคิดเห็นของบุคคลใดบุคลหนึ่ง กรณีเรื่องข้อมูลหรือความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับหลักวิชาการ ความเฉพาะทาง ควรหาเอกสารวิชาการหรือตำราวิชาการ ประกอบ อ้างอิงความสมเหตุสมผล ภาพ Perception Process ถ้าใครเคยศึกษาเรื่อง