ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เล่าเรื่อง Inverse/Short ETFs

เมื่อหัวค่ำมี live เรื่อง ETFs ตลาดหุ้นสหรัฐกับการวางแผนเทรดระยะยาว ผมพูดถึง Short ETFs หรือ Inverse ETFs ซึ่งเป็นกอง ETF ประเภทที่สร้างเพื่อปกป้องความเสี่ยงของพอร์ต และทำกำไรในช่วงตลาดขาลงหรือวิกฤติการเงิน ซึ่งมีหลายประเภท(short ในดัชนีต่างๆ,หรือหุ้นบางกลุ่ม) หลายเจ้าหลายกองทุนมาก รวมถึงมีทั้งแบบปกติ(1X)และแบบเสริม leverage (3X) ในกองทุน นี้ข้อดีในตลาด ETFs อเมริกาที่ประเภทสินค้าให้เทรดกว้าง และการเทรด ETFs ขาลงพวกนี้ต่างจาก Futures คือไม่มีวันหมดอายุ ไม่ต้องใช้ leverage ทำให้ไม่มีค่า Fee ถือครอง และ สามารถใช้เงินทุนไม่มาก บางกองหลัก $100 ก็เทรดได้ (แต่กองประเภทนี้นี้ก็มีค่า Fee เช่นเดียวกับ ETF ทั่วไปทำให้เป็นข้อจำกัดหนึ่งในการเทรดเข้าออกบ่อย ควรต้องศึกษา cost ก่อนเทรด,) กลุ่ม Short ETFs หรือ Inverse ETFs มีทั้งแบบปกติ 1X และแบบใช้ leverage 3X เจ้าดังๆเช่น ProShares UltraPro Short S&P 500 (SPXU) , ProShares Short S&P500 (SH) , Direxion Daily S&P 500® Bear 3X Shares (SPXS) และอื่นๆ ปีที่ผ่านมาตลาดสหรัฐ Bull market แรงฟื้นจากช่วงดัชนีถดถอย covid-19 ปี 2020 ปีนี้วิ่งแรง ทำ

Q&A จะใช้ technical analysis อย่างไรให้เกิดกำไรสูงสุด?

ผม เจอคำถามหนึ่งทาง email น่าสนใจ พี่เทรดเดอร์มือใหม่ท่านนี้ถามว่าจะใช้ technical analysis อย่างไรให้เกิดกำไรสูงสุด ? ส่วนตัวผมเองไม่ได้ใช้ technical analysis เพื่อการคาดเดาหรือทำนายทิศทางราคา ดังนั้นไม่คิดเรื่องของความถูกผิดหรือแม่นยำเป็นหลัก ส่วนตัวใช้เครื่องมือเทคนิคอล เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ/ขาย ดังนั้นสำหรับผมเครื่องมือก็คือ โมเดลในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของข้อมูลราคา และปริมาณซื้อขาย ที่เป็นตัวแทนของภาวะตลาดนั้นเอง ส่วนจะตัดสินใจซื้อหรือขาย เมื่อไหร่, อย่างไร รายละเอียดเหล่านั้นเป็นเรื่องของกลยุทธ์ในการเทรดและโมเดลการบริหารเงิน(Money management) ในระบบเทรดที่เราพัฒนาขึ้น , ดังนั้นการจะให้เกิดประสิทธิ์ภาพ ผมเข้าใจหมายถึงมีกำไรมากกว่าขาดทุน มันจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเลือกใช้เครื่องมือ technical analysis อะไร,ตั้งค่า parameter แบบไหนอย่างเดียว มันมีเรื่องของระบบเทรดมาเกี่ยวข้องเสมอ การมีระบบเทรดตัวคุมให้เรามีวินัยในการตัดสินใจ ไม่ไหลไปตามอารมณ์ , การพัฒนาระบบก็คือการทดสอบและทดลองเทรดจริงในตลาด เก็บประสบการณ์นำข้อผิดพลาด มาปรับปรุง(Optimize) โมเดลของเราให้ดีขึ้น(ในที่นี้ไม่ได้แค่

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานสหรัฐหลังวิกฤติ covid-19

  บันทึกไว้นิดกับกราฟแสดง Beveridge Curve ภาพนี้ ถึงภาวะตลาดแรงงานในสหรัฐอเมริกา ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากช่วงวิกฤติ covid-19 ,จากข้อมูลจะเห็นว่าช่วงปี Dec 2000-2008 (วิกฤติ subprime) ในกลุ่มจุดสีน้ำเงิน ตำแหน่งงานลดลงต่ำสุดราวๆ 2.5% และอัตราการว่างงานเพิ่มถึงระดับ 6%-8% สะท้อนภาวะชะลอและชะงักของเศรษฐกิจในช่วงนั้น ก่อนเริ่มปรับสมดุลในช่วงที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง 2009 แต่ข้อมูลเส้นปะบน Post covid จะพบตำแหน่งงานในตลาด( job opening rate) นั้นมีอัตราสูงกว่า 6-7% ในช่วง ไตรมาส 3/2021 แต่อัตราการว่างงาน(unemployment rate) ไม่ได้ลดลงเหมือนช่วงอดีต (Pre-covid) กล่าวคือมีตำแหน่งงานแต่คนเลือกจะว่างงาน ดังนั้นจากแนวโน้มของ curve ในเส้นปะ ก็ค่อนข้างน่าสนใจเพราะอาจจะเกิดการขาดแคลนแรงงานในระยะสั้นได้ ถ้าคนยังไม่กลับเข้าทำงานในระบบเหมือนเช่นเดิม ,มีนักวิเคราะห์หลายคนเขียนถึงประเด็นนี้ไว้ ว่ามาจากหลายปัจจัย ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนมุมมองของคนทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มทำงานประเภทบริการและประเภทใช้แรงงาน ที่มองเรื่องความเสี่ยงในการติดโรค covid-19 เป็นหลักก่อนที่จะสมัครเข้าทำงาน, โดยเฉพาะงานเดิมที่ให้ค่าแ

สร้างธุรกิจจากงานอดิเรก

Kathy Vegh Hughes เธอเป็นเจ้าของกิจการและผู้บริหารธุรกิจครอบครัว(เช่น คาแฟ่, รีเทลสโตร์ และ pool&snooker Club)กว่า 19 ปี สิ่งที่เธอทำเพื่อคลายเครียดในเวลาว่างคือการเลี้ยงไก่ ในสวนหลังบ้าน สำหรับเธอไก่ก็เหมือนสมาชิกในครอบครัว เธอจึงลงทุนออกแบบและสร้างบ้านไก่(chicken coop) ให้สวยและดูดีแบบบ้านหมา , นอกจากความสวยงามและดูดี เธอยังทำให้บ้านไก่ของเธอให้ใช้งานได้จริง สะดวกในการทำความสะอาด ขจัดขี้ไก่ช่องแสงส่องเพียงพอและสามารถระบายกลิ่นอับ รวมถึงง่ายต่อการให้อาหารและเก็บไข่ สุดท้ายมีเพื่อนและคนรู้จักหลายคนสนใจ สิ่งที่เธอทำ เธอจึงคิดที่จะสร้างมันเป็นธุรกิจ โดยเริ่มต้นจากโมเดลบ้านไก่ไม่กี่แบบ ทดลองไปวางขายในงาน แสดงสินค้า ผลตอบรับดี ปี 2019 เธอจึงเริ่มสร้างบริษัท Cutest Coops และหาทีมงาน นักออกแบบและช่างมาร่วมผลิตเป็นสินค้าออกวางขายอย่างจริงจังผ่านทางเว็บไซต์และการโปรโมทในงานต่างๆ , เน้นออกแบบที่สวย boutique chicken coop ราคาบ้านไก่(chicken coop)มีหลายระดับตามขนาดบ้านและการออกแบบ ราคาเฉลี่ยเกือบ $3800 ระดับแพงเกือบ $12000, . ปัจจุบันเธอพัฒนา web app ให้ผู้ซื้อ สามารถมา customize สั่งผลิตแบ

FIRE + Mini-retirements

ผมมีโอกาสได้ฟังคลิป TED Talk หัวข้อ "Why you should think about financial independence and mini-retirements" ของคุณ Lacey Filipich ได้ประเด็นที่น่าสนใจหนึ่งดี คุณ Lacey Filipich พูดถึงเรื่องของ การเกษียณแบบเป็นช่วง หรือเธอเรียก Mini Retirement ต่อยอดจากประเด็นคลาสิกที่ว่า เมื่อเราแก่เกษียณได้เป็นอิสระมีเงิน มีเวลา(Time Rich) แต่ไม่มีแรง , เมื่อวัยหนุ่มสาวหรือกลางคนมีแรง แต่ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา(Time Poor) ดังนั้นเธอจึงเสนอไอเดีย Mini Retirement ที่ผสมเอาเรื่องของ FIRE เข้ากับแนวคิดจากหนักสือ The 4-Hour Workweek ของ Timothy Ferriss ในเรื่องการบริหารเวลา ประเด็นหลักยังเป็นการบริหารเงินแบบเข้มงวดคือ ออมให้ได้มาก และลงทุนใน asset ที่สร้าง income ให้ต่อเนื่อง เพื่ออาศัยพลังของการทบต้น(Compound interest) แต่แทนจะอัดและทนลำบากต่อเนื่อง เธอแนะนำว่า ควรผ่อนเป็นช่วงๆ เช่นช่วงแรกอาจจะทำงานประจำเพื่อเก็บออมให้เยอะ , และเมื่อมีระดับหนึ่งแล้ว ลอง Mini Retirement ชะลอการทำงานลง หรืออาจจะเปลี่ยนงานใหม่ที่เบาลง หันมาสร้างรายได้จาก side hustle หรือทำธุรกิจขนาดเล็กของตัวเอง ด้วยการใช้ประ

ลงทุนหุ้นครั้งแรกควรไปสายVIหรือเทรดเดอร์ดี?

เจอคำถามนี้เลยอยากจะบันทึกความคิดเห็นของตัวเองเก็บไว้สักนิด เพราะเป็นคำถาม Top Hit อันหนึ่งที่มีคน email มาถาม ส่วนใหญ่ผมเห็นคนมักมองเป็น binary อันหนึ่งดี อันหนึ่งไม่ดี เพราะเราติดกับการโปรโมทจากด้านใดด้านหนึ่ง เช่นเราเห็นคนเทรดได้กำไรเยอะ เราก็คิดว่าเป็นเทรดเดอร์ดี เป็นต้น แต่จริงๆแล้วการจะเลือกแนวทาง ควรจะเลือกให้เหมาะกับตัวเรา พิจารณาเป้าหมาย,และทรัพยากร(เงินทุน,เวลาและจริต)เฉพาะของเราโดยลืมเรื่องผลตอบแทนหรือกำไรที่จะได้ไปก่อน ค่อยหาคำตอบจากการทดลอง เพราะสุดท้ายจะหาทางที่เหมาะสมกับเราไม่มีใครบอกได้ เราต้องลองแบบไม่มี bias จากคำแนะนำของคนอื่นๆ,เช่นสนใจเป็น VI ก็ลองทำ,สนใจเทรดก็ลองเทรด เริ่มต้นกำหนดเงินทุนจำกัดระดับหนึ่งก่อน และกำหนดระยะเวลาวัดผล สุดท้าย เราก็จะพบคำตอบด้วยตัวเราเอง ประเด็นหนึ่งที่อยากจะฝากคือ อยู่ในตลาดไปนานๆจะพบว่ามันมีส่วนซ้อนทับกันเสมอ สุดท้ายจะมีสถานการณ์ที่ตลาดจะบังคับไม่ให้เราเลือกแค่การพึงพาจากข้อมูล market price หรือ fundamental อย่างเดียว ดังนั้นก่อนคิดจะเป็นนักเก็งกำไรหรือนักลงทุน ลองสร้างโครงสร้าง Portfolio ออกมาก่อน, จากนั้นบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม แล้

David Swensen and Yale Endowment Management

  ผมมีโอกาสได้ฟัง Lecture ครอส Financial Markets (2011) ใน Open Yale Courses Program ของ Professor Robert J. Shiller , ซึ่งได้เชิญคุณ David Swensen เจ้าของ "Yale Model" ,ตำนานผู้บริหารกองทุน Yale Endowment Management มาบรรยาย และถ่ายทอดประสบการณ์ หลายสิบปีในตลาดให้นักศึกษาฟัง คุณ David Swensen ผลงานไม่ธรรมดาเขาบริหาร Yale Endowment ตั้งแต่ปี 1985 - 2011 ,ผลงาน 20 ปี average return ที่ 13.1% สร้างมูลค่าเพิ่มให้พอร์ตระยะ 20 ปีกว่า $12.1 billion , ผมเคยมีโอกาสได้อ่านบทความและหนังสือ" Unconventional Success: A Fundamental Approach to Personal Investment" ของ คุณ Swensen มาบ้างเลยชอบแนวคิดของท่าน ในคลิปนี้ คุณ David Swensen บรรยายแนวทางการบริหารพอร์ตกองทุน Endowment Fund จุดหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านคือ เน้นไปที่การทำ Asset Allocation เป็นหลักเพื่อสร้างพอร์ตโฟริโอที่มั่นคงและมีการ deversification ที่ดี(รับได้ทุกภาวะตลาด/ภาวะเศรษฐกิจ) ,เขาอ้างงานวิจัยที่สรุปว่าอิทธิผลมากกว่า 90% ใน return นั้นมาจากกลยุทธ์การทำ asset allocation. ประเด็นนี้โดยสรุปคุณ Swensen แนะนำให้ทำ

รีวิวซีรีย์ธุรกิจ Motel Makeover

ปกติส่วนตัวชอบดูซีรีย์และหนังที่เกี่ยวกับธุรกิจอยู่แล้ว ทำให้วันนี้มีโอกาสได้ดู Motel Makeover ทาง Netflix , ซึ่งเป็นเรื่องราวของสองสาว April Brown และ Sarah Sklash ที่รู้จักกันมากว่า 17 ปีและในช่วงวัย 30 ทั้งสองเริ่มจะทำตามฝันทำธุรกิจของตัวเอง ทำให้ในปี 2016 ทั้งคู่ได้ใช้เงินเก็บและเงินกู้ไปซื้อ Motel(โรงแรมพักชั่วคราวใกล้ริมทางสายหลัก) เก่าๆโทรมๆ มาปรับปรุง renovation ใหม่ในแบบที่มีสไตล์ สวย boho-chic ในชื่อ "the June Motel" , Motel แรกที่ทั้งสองทำอยู่ที่ Prince Edward County, Ontario. ,Canada จุดเด่นคือ เป็นเมืองชายทะเล ที่มีแหล่งท่องเที่ยว ,บวกกับการออกแบบ Motel ให้ดูสวย,ดูมีสไตล์ สร้างจุดขาย “Peace, Love, Wine.” พร้อมกับปารตี้แบบเก่ห์ๆคูลๆสุดแนว ที่สามารถถ่ายรูปลง instagram อวดความดูดีให้กับคนอื่นดูในราคาที่จับต้องได้ ตรงนี้ทำให้ธุรกิจเธอเติบโต และมีทุนเพิ่มมาซื้อกิจการที่สอง โปรเจคใหม่กับการซื้อ Motel เก่าหลังที่สองใน Sauble Beach เมืองชายหาดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในแคนนาดา ,ในครั้งนี้ลงทุนซื้ออสังหาในราคาหลักล้านเหรียญ พื้นที่ใหญ่ขึ้น จำนวนห้องที่มากขึ้นและมีจำนวนอา

บันทึกหุ้นกลุ่มถ่านหิน Q3/2021

ปีนี้เป็นอีกปีที่ performance กลุ่มถ่านหินนี้ดีมากจาก event ที่พิเศษ , ถ้าใครตามอ่านบทความเก่าผมเคยแชร์เรื่องของกลุ่มถ่านหินไว้เมื่อตอนต้นปี 2021 ตอนนั้นมี story จีนแบนถ่านหินออสเตรเรีย(ประเด็นจากความขัดแย้งที่ออสเตรเรียไปเข้าข้างสหรัฐโทษจีนเรื่องต้นตอ covid-19) ต่อจากประเด็นต้นปี 2020 ที่จีนเดินนโยบายเปลี่ยนจากถ่านหิน มาเป็นพลังงานสะอาด แต่ต้นปี 2021 จีนกลับมานำเข้าถ่านหินครั้งใหญ่จากแอฟริกาใต้,โคลัมเบียและอินโดนีเซีย แทน สะท้อนความต้องการถ่านหินในภาคอุตสาหกรรมของจีน ล่าสุดเดือน ตค. 2021 จีนเจอวิกฤติพลังงานครั้งใหญ่ จากการขาดแคลนถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า(ข้อมูลจากบลูมเบริกจีนผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานถ่านหินราวถึง 77% ) จนทำไฟฟ้าดับกำลังในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีน ส่งผลให้การผลิตสินค้าของโรงงานต่างๆชะงักลง ในช่วงที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในการผลิตสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น , สิ่งที่เกิดช่วงหลายเดือนผ่านมา ราคาถ่านหินเพิ่มแตะระดับสูงสุด (หลังซบมาก่อนช่วงที่มีประเด็นการลดมลพิษในอากาศ+ช่วงการเกิด shutdown การระบาด covid-19 ในไตรมาส 3 ปี 2020) โดยราคาถ่านหิน NEWCASTLE COAL FUTURES ปรับเพิ่มต่อเนื่องจาก ปลายเ

Improving Your Personal Process

เครื่องมือในการเทรดและระบบในการเทรด แม้จะสำคัญ แต่ร่างกายและจิตใจของเทรดเดอร์ ในเวลาที่ต้องเทรดในตลาด ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ วันนี้ผมได้ฟังเรื่อง Improving Your Personal Process ของ Dr. Brett Steenbarger เขาแบ่งปันเทคนิคการพัฒนา "Personal Process" แบบมืออาชีพไว้ดีงามมาก ผมจึงอยากนำมาแบ่งปันความรู้ต่อให้ ทุกคนได้ลองศึกษากัน โดยสรุป คำว่า "Personal Process" ก็คือการสร้าง Guideline ในการพัฒนาวินัยและการบริหารจัดการกิจวัตรของตัวเอง ซึ่งรวมไปถึงเรื่องระบบในการบริหารเวลา, การจัดการอารมณ์,การรักษาระดับพลังงาน(energy level),การฝึกสมาธิและการจดจ่อ,คุณภาพการนอน,การกินอาหาร และอื่นๆ -คุณ Brett Steenbarger แนะนำว่าเทรดเดอร์จะสร้างผลงานการเทรดที่ดีได้ ต้องมีระบบการจัดการชีวิตส่วนตัวที่ดีก่อน เพราะทำให้ปราศจากความกังวลและสามารถเทรด สามารถตัดสินใจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ - การสร้าง Personal Process เริ่มจากการวาง กิจกรรมที่ตัวเทรดเดอร์ต้องทำ ให้ชัดเจน และวางกรอบเวลาในกิจกรรมต่าง ลงในปฏิทิน(หรือจะใช้ calendar app ก็ได้) ให้ชัดเจน เพื่อเตือนตัวเองให้ยึดมั่น กิจกรรมที่ควรจะทำอย่างเป็

How to American: An Immigrant's Guide to Disappointing Your Parents

  วันนี้ผมได้ดูรายการ Talks at Google ที่เป็นการสัมภาษณ์ Jimmy O. Yang ,นักแสดงตลก และstand-up comedian ประเด็นที่น่าสนใจไม่ใช่เรื่องตลก แต่เป็นเรื่องของการค้นพบตัวเอง และกล้าที่จะออกเดินทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ (แม้จะต้องยอมทำให้ครอบครัวผิดหวัง),ซึ่ง Jimmy เขียนในหนังสือของเขา ชื่อ How to American: An Immigrant's Guide to Disappointing Your Parents ,คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เลยอยากนำมาแบ่งปันต่อครับ -Jimmy O. Yang เขาเกิดฮ่องกง ย้ายมา LA ช่วงอายุ 13 ช่วงปี 2000 หลัง UK ส่งมอบเกาะคืนแก่ประเทศจีน ,ครอบครัวย้ายมาสหรัฐเพื่อสร้างโอกาสที่ดีให้ลูก, - เขาถูกเลี้ยงในครอบครัวแบบจีนที่เข้มงวด เน้นการศึกษา,มีเวลาว่างก็เรียนพิเศษ,เรียนไวโอลีน, ด้านกีฬาก็สนับสนุนให้ฝึกนักปิงปอง,และลงแข่งขันรายการต่างๆ - เขาชอบดนตรี,ชอบการแสดง แต่ครอบครัวชาวจีนไม่สนับสนุนเพราะกลัวยากจนและจะไม่มีกิน ทำให้ Jimmy ต้องสอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย UC San diago คณะเศรษฐศาสตร์ ,สาขาที่พ่อแม่เขายังยอมรับ - Jimmy ใช้เวลา 5 ปีกว่าจะเรียนจบ ,เขาฝึกงาน Smith Barney (บริษัทเก่าแก่ด้านการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ของอเมริกาที่

บทเรียนจากหนู ผู้เทรดคริปโต

อ่านบทความ " Mr Goxx, the crypto-trading hamster beating human investors " นี้แล้ว อดนึกถึงเรื่องของ Random walk ไม่ได้, จริงบางคนอาจจะไม่ชอบที่คนทดลองเล่นเรื่องนี้คือเอาหนู มาเทียบกับมืออาชีพ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเรื่องแปลก เพราะแต่ก่อนก็มีเรื่องของการทดลองให้ ลิงเลือกหุ้น แข่งกับ ผจก.กองทุนมาแล้ว เช่นกัน วิธีการและกลยุทธ์ของหนู hamster ชื่อ Mr Goxx จาก Goxx Capital ทำการเทรดโดยการปั่นวงล้อ(หนูมันก็วิ่งของมันแหละ) และผู้ทดลองก็อ่านผลผ่านกล้อง จากการหมุนวงล้อ(intention wheel) เพื่อเลือก เหรียญ crypto currency และใช้ กล่องที่นอน สองกล่องอุโมงเป็นตัวเลือก Buy หรือ Sell แบบในภาพ ,ทุกครั้งที่มันเล่นวงล้อหมุน แล้วเข้าไปในกล่อง ระบบจะส่งสัญญาณการซื้อขาย การทดลองผู้ดำเนินการออกตัวว่าทำสนุกๆช่วง covid-19 และโพสความก้าวหน้าบน twitter ให้คนติดตาม Mr Goxx โดยผลงานเดือนแรกเริ่ม 12 มิถุนายนด้วยเงิน 326 EUR เทรดพอร์ตติดลบ -7.3% เดือนสอง +19.41% แต่แปลกนิดที่บทความข่าวไปเทียบผลงานการเทรดของหนู กับสินค้าต่างตลาดอย่างดัชนี FTSE 100 และ DJ30 สรุปเป็นการทดลองสนุกๆแต่มันมีแง่คิดหนึ่

สรุป The Simple Path to Wealth by JL Collins

  ผมเขียนถึง JL Collins โพสก่อนหน้ามีคนถามเข้ามาถึงหนังสือของแกว่าดีหรือไม่? ส่วนตัวผมไม่เคยอ่านครับไม่กล้าแนะนำ แต่อ่านบทความจาก Blog ชอบเพราะเขาเขียนจากประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการไปสู่ Finacial Freedom และอ่านเข้าใจง่าย ดังนั้นเพื่อขยายภาพแนวคิด Passive Investing ของ JL Collins ผมจึงทำบทสรุปในรายการ Talks at Google หัวข้อ The Simple Path to Wealth | JL Collins มาแบ่งปัน ให้ท่านสนใจลองศึกษากัน 1. JL Collins ให้นิยามความหมายของ Wealthในมุมมองของเขาว่า มันมองได้สองมุม มุมแรกด้านจิตใจ ความมั่งคั่งตัวแทนของความปลอดภัยและอิสระด้านปลอดภัยเพราะช่วยปกป้องตัวเราจากผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น,รวมถึงความมีอิสระในการตัดสินใจและเลือกที่จะใช้ชีวิตของเรา -มุมที่สองด้านการเงิน จำนวนเงิน เขาไม่ได้ให้ความสำคัญการมีมากที่สุด แต่เขาอิงกับระดับความมีอิสระทางการเงินตามกฏ 4% Rule, หรือ การที่มีเงินหรือสินทรัพย์ ที่นำไปสร้างผลตอบแทนระดับ 4% มากพอจะดำรงชีพรายปี(ครอบคลุม cost of living ของตัวเรา) จุดนี้น่าสนใจเพราะ Colins บอกแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเท่ากันเสมอไป บางคนมั่งคั่งมีอิสรภาพทางการเงินได้ด้วยจำนวนเงินไม่สูง ขึ

บันทึก Evergrande

หนี้ของ  Evergrande ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ว่าจะมีผลกระทบต่อเจ้าหนี้ภาคธนาคาร,บริษัทเอกชนซื้อหุ้นกู้ และจะมีบริษัทอสังหาจีนอื่นๆที่จะประสบปัญหาสภาพคล่องเช่นกันหรือไม่ ล่าสุดเริ่มมีการพูดถึง Sinic Holdings Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนอีกเจ้าที่วันนี้ราคาหุ้นร่วงลงหนัก -87.01% จนต้องหยุดการซื้อขายไป Evergrande กับการขาดสภาพคล่องในการชำระดอกเบี้ย 83.5+47.5 ล้านเหรียญ(จากหนี้หุ้นกู้สองก้อน) ในเดือนนี้ ได้หรือไม่ถ้าเลยกำหนด 30 วันถือบริษัทผิดนัดชำระหนี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทมีหนี้สินรวมมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ตอนนี้ยังอยู่คงรอดูว่าจะผ่านไปได้ดีหรือไม่ ความเห็นนวค.มีทั้งสองแบบ กลุ่มแรกมองว่าสินทรัพย์ของบริษัทมีพอขายใช้หนี้(เข้าสู่กระบวนการต่อรองได้) หรืออนาคตสามารถดำเนินธุรกิจต่อจนขายอสังหาในโครงการต่างๆมาใช้หนี้ได้ อีกกลุ่มมองว่าสินทรัพย์อาจจะไม่พอใช้หนี้ อันนี้คงดูว่าจะมีความช่วยเหลือหรือรัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยหรือไม่อย่างไร แต่นวค.ต่างประเทศส่วนใหญ่มองว่า ยังไม่รุนแรงเท่าที่เคยเกิดกับ Lehman Brothers ประเด็นใหญ่ที่ตามมาคือ จะกระ