ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

แนะนำรายการ The Curious Investor

นั่งเทรดรอบดึกตลาดทองคำตึงๆไม่มีรอบให้เล่นเท่าไหร่ เลยมานั่งฟัง Podcast หาความรู้เพิ่มเติม ไปเจอ podcast ใหม่ที่มี เพื่อนนักลงทุนต่างชาติเขาแนะนำไว้บนทวิตเตอร์เป็น ช่องของ AQR capital ชื่อ The Curious Investor เพิ่งเปิดตัวเดือน สค.นี้เอง หัวข้อน่าสนใจไม่ได้มานั่งพูดนั่งบ่นเอามันส์เอาสนุกอย่างเดียว สาระเนื้อหาแน่นมาก มีทั้งจับประเด็นมาพูดโดยสอง DJ คือคุณ Dan Villalon คนนี้เป็น MD ของ North America portfolio อด ีตนักวิเคราะห์และนักเขียนที่มีประสบการณ์ด้านการเงินการลงทุนสูง อีกท่านคือคุณ Gabe Feghali คนนี้เป็น VP ของ AQR’s Business Development team อดีตทำงานเป็นทีม Quant research ใน AQR’s Equity portfolio สองคนนี้จัดรายการกันสนุกดี เข้าขากัน ผมเพิ่งฟัง ได้ 2 ตอนถึงตอน Face the Factors เรียกว่าชอบมาก เพราะเขาอธิบายเข้าใจง่าย ไม่ใช่ภาษาวิชาการยากและยกตัวอย่างได้ดีนำเอาทีมงาน นักวิเคราะห์ ผู้บริหารพอร์ตมาร่วมช่วยอธิบายประกอบด้วย รายการยาวประมาณ 22 นาที ไม่มากไปและไม่สั้นไป รถติดๆในช่วงนี้ นั่งฟังเพลินและได้เปิดโลก เปิดความรู้ดีจริงๆ แนะนำลองเข้าไปฟังได้ที่ https://www.stitc

Gold Demand Trends Q2 2018

ช่วงนี้ราคาทองคำกำลังอยู่โซนค่อนข้างต่ำปัจจุบัน 1211 (52 week range 1,365.4 -1,205.1) เมื่อเทียบกับปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ท่ามกลาง story ช่วงนี้จะเห็นมีการยิงข่าวเชิงบวกออกมาเรื่อยๆทั้งยอดการสะสมทองคำของ Fund ,การซื้อทองคำของธนาคารกลางบางประเทศ ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวอีกชิ้นที่น่าสนใจ เป็นตัวเลข Gold Demand ไตรมาส 2 ของปี 2018 รายงานโดย World Gold Council ซึ่งตัวเลข demand ของ Q2 ที่ออกมายังต่ำและอ่อนตัว 964.3t ทั้งความต้อง การทองคำในกลุ่มต่างๆ ETF ,เครื่องประดับ(-2%), central bank(-7%) ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีความต้องการทองคำปรับเพิ่ม +2% เทียบจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ด้านตัวเลข Gold supply ไตรมาส 2 รายงานระบุปรับเพิ่ม +3% การเพิ่มติดต่อกัน 2 ไตรมาสปริมาณ supply เข้าแตะระดับ 1,120.2t. พิจารณาเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการเทรดต่อไปครับ https://www.gold.org/research/gold-demand-trends/gold-demand-trends-q2-2018

ทำไมหยวนอ่อนถึงกระทบค่าเงิน AUD

สัปดาห์ที่แล้วลองนำข้อมูลค่าเงินหยวนของจีนมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับค่าเงิน AUD ให้ดู อธิบายเรื่องความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ออสเตเรียพึ่งพาจีน ดังนั้นเมื่อจีนเล่นเกมส์ค่าเงินอ่อน เพื่อสู้กับสหรัฐ ค่าเงิน Australia ก็เจอแรงกดดันตามไปในภาพใหญ่ปีนี้ลงไป -4.95% โดยเฉพาะช่วงระยะเวลานี้(ลองดูตัวเลขเศรษฐกิจออสเตเรียไตรมาส 1 และ2 ประกอบ) ขณะที่ปีนี้ค่าเงินหยวน CNY ลดลง -5.01% เทียบกับ usd ลองอ่านบทความ  why falling yuan raises economic jitters Australia นี้เพื่อดูรายละเอียดตัวเลขในหมวดต่างๆได้ มันอาจจะไม่ใช่บทสรุปหรือความสัมพันธ์แบบสมบูรณ์ 100% ตลอดเวลา แต่เรื่องพวกนี้เรานำมาใช้ประเมินความเสี่ยงและวางแผนรับมือได้ครับ ศึกษาเพิ่มเติมจาก link  https://m.scmp.com/week-asia/geopolitics/article/2158248/why-falling-yuan-raises-economic-jitters-australia?amp=1

บทความวิจัยพัฒนา กลยุทธ์การ Stop loss

Stop loss หรือการ Limit loss คือกลยุทธ์การจำกัดผลกระทบจากการขาดทุนที่มาจากความเสี่ยงในการเทรดแบบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้แพร่หลาย เรื่องนี้เราสามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้พัฒนาระบบเทรดได้ เมื่อวันจันทร์พูดเรื่องการทดลองใช้ stop loss กับ leverage ไป มีคนถามถึง paper การทดลองอยากเอาไปศึกษาต่อ ผมเลยนำ link ที่บันทึกไว้มาแชร์ ย้ำว่าเป็นแค่บางส่วนนะครับ มีอีกหลายแหล่งที่เราสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ ถ้าสนใจลองศึกษาดูมีคนวิจัยพัฒนาเทคนิคต่างๆไว้เยอะเลย ซึ่งเราจะได้เห็นข้อเด่น  และข้อจำกัด รวมถึงการ optimize โมเดลในการจัดการความเสี่ยง ถือเป็นการเปิดโลก เพิ่มเติมความรู้ไปในตัวครับ ปล. จะใช้หรือไม่ใช้ stop loss ไม่ใช่ประเด็นนะครับเพราะมันเป็นแค่หนึ่งทางเลือกในการจัดการการขาดทุน แต่สำคัญคือถ้าเลือกจะใช้ ต้องใช้มันอย่างเข้าใจ ใช้ให้ถูกเหมาะสมกับพฤติกรรมของ asset และอย่าไปใช้มันเป็นแพะรับบาปหรือข้ออ้างในการล้างพอร์ต -Assessing Stop-Loss and Re-Entry Strategies https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2277722 -Taming Momentum Crashes: A Simple Stop-Loss Strategy https://pa

Gold Demand Trends Q2 2018

ช่วงนี้ราคาทองคำกำลังอยู่โซนค่อนข้างต่ำปัจจุบัน 1211 (52 week range 1,365.4 -1,205.1) เมื่อเทียบกับปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ท่ามกลาง story ช่วงนี้จะเห็นมีการยิงข่าวเชิงบวกออกมาเรื่อยๆทั้งยอดการสะสมทองคำของ Fund ,การซื้อทองคำของธนาคารกลางบางประเทศ ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวอีกชิ้นที่น่าสนใจ เป็นตัวเลข Gold Demand ไตรมาส 2 ของปี 2018 รายงานโดย World Gold Council ซึ่งตัวเลข demand ของ Q2 ที่ออกมายังต่ำและอ่อนตัว 964.3t ทั้งความต้อง การทองคำในกลุ่มต่างๆ ETF ,เครื่องประดับ(-2%), central bank(-7%) ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีความต้องการทองคำปรับเพิ่ม +2% เทียบจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ด้านตัวเลข Gold supply ไตรมาส 2 รายงานระบุปรับเพิ่ม +3% การเพิ่มติดต่อกัน 2 ไตรมาสปริมาณ supply เข้าแตะระดับ 1,120.2t. พิจารณาเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการเทรดต่อไปครับ https://www.gold.org/…/gold-dema…/gold-demand-trends-q2-2018

ทำไมหยวนอ่อนถึงกระทบค่าเงิน AUD

สัปดาห์ที่แล้วลองนำข้อมูลค่าเงินหยวนของจีนมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับค่าเงิน AUD ให้ดู อธิบายเรื่องความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ออสเตเรียพึ่งพาจีน ดังนั้นเมื่อจีนเล่นเกมส์ค่าเงินอ่อน เพื่อสู้กับสหรัฐ ค่าเงิน Australia ก็เจอแรงกดดันตามไปในภาพใหญ่ปีนี้ลงไป -4.95% โดยเฉพาะช่วงระยะเวลานี้(ลองดูตัวเลขเศรษฐกิจออสเตเรียไตรมาส 1 และ2 ประกอบ) ขณะที่ปีนี้ค่าเงินหยวน CNY ลดลง -5.01% เทียบกับ USD ลองอ่านบทความ  why falling yuan raises economic jitters Australia นี้เพื่อดูรายละเอียดตัวเลขในหมวดต่างๆได้ มันอาจจะไม่ใช่บทสรุปหรือความสัมพันธ์แบบสมบูรณ์ 100% ตลอดเวลา แต่เรื่องพวกนี้เรานำมาใช้ประเมินความเสี่ยงและวางแผนรับมือได้ครับ ศึกษาเพิ่มเติมจาก link  https://m.scmp.com/week-asia/geopolitics/article/2158248/why-falling-yuan-raises-economic-jitters-australia?amp=1

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

ภาพรวมเศรษฐกิจโลกการเติบโตยังแข็งแรง(Robust) แต่ต้องระวังปัจจัยเชิงลบและความเสี่ยง ซึ่งยังคงเพิ่มระดับความร้อนแรงขึ้น จากภาพสรุปของ Deutsche Bank Securities จะพบประเด็นมาแรงและน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายประเทศคือ Trade War ของโดนัล ทรัมป์ นั้นเอง ส่วนเศรษฐกิจกลุ่ม EM ผลงานล่าสุดยังดูดีอยู่ อีกประเด็นปัจจัยเสี่ยงที่ตอนนี้พูดกันหนา คือเรื่องการถดถอย การปรับฐานใหญ่ของตลาดหุ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการลงทุน อันนี้ต้องจับตามองต่อ อ้างอิงจาก http://ritholtz.com/2018/07/growth-robust-but/

อีกด้านหนึ่งของ การใช้ชีวิต Slow Life

เจอมาเยอะมากกับประเภทที่ตัดสินคนกลุ่มวิถีชีวิตแบบ slowlife จากมุมมองความเชื่อเฉพาะบุคคล ไปติดภาพของการทำอะไรช้าๆ การนั่งกินกาแฟ แต่ถ้าเราได้พบได้รู้จักคนที่ยึดวิธีชีวิตของ slow life เข้าใจ principle ในการดำเนินชีวิตของเขา เราจะเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น มันไม่ได้ง่ายกับการต้องใช้ชีวิตแบบการมีทรัพยากรที่จำกัด ต้องพึ่งพาตัวเอง ซึ่งอาศัยทั้งวินัยและความรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง ต้องคิดต้องวางแผนเยอะมาก ในสิ่งที่จะทำ(ไม่ใช่จะทำอะไรก็ทำ ตามใจหรือใช้เงินไปตามอารมณ์) แต่สิ่งสำคัญมันเป็นเรื่องของการให้ค่าความสำคัญในชีวิตกับสิ่งที่จะต้องยึดติดและสิ่งที่ควรปล่อยวาง ผมเองยังไม่ได้ slow life มากถึง 50% แต่รู้จักพี่ๆหลายคนที่ใช้ชีวิตแบบนี้ ทั้ง slow life ทั้ง minimalism ไม่ได้ร่ำรวยไม่มีเงินหลายร้อยล้าน แต่ด้วยความที่พอประมาณ ไม่ได้คาดหวังอะไรเกินตัวมันทำให้ความสุขในแต่ละวันของพวกเขาเรียกว่าเต็มเปี่ยมเลย(นั้นคือเป้าหมายและรางวัลของการใช้ชีวิตแบบ slow life) ที่น่าสนใจหลายคนที่ผมรู้จักหันไป slowlife หลังจากผ่านจุดที่ได้มาซึ่งความสำเร็จระดับหนึ่งแล้วทั้งนั้น แต่พอได้ชื่อเสียงมาเยอะมีรายได้เงิน

Jerry Seinfeld ความสำเร็จที่ไม่ได้เกิดในข้ามคืน

Jerry Seinfeld เกิดในครอบครัวชาวยิว ขั้นกลาง เขาชอบเล่าเรื่องตลกมาตั้งแต่เด็ก สนใจอยากเป็น stand-up comedian และเริ่มฝึกจริงจัง ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจากการแสดงในชมรมละคร บวกกับการใช้เวลากลางคืนเดินสายแสดงฟรีตามคลับในคืน open-mic nights หลังเรียนจบปริญญาตรี เขาไม่ได้ทำงานประจำตามแบบสังคมชาวยิว Jerry Seinfeld เลือกเดินตามฝัน ออกหางานแสดงตลก ตามคลับและเข้าคัดเลือกบทในรายการตลกทางทีวี เริ่มต้นฝีมือไม่ดี ชื่อชั้นไม่มี ทำให้ต้องแสดงฟรีตามคลับเปิดไมค์ เพื่อหาประสบการณ์ ส่วนกลางวันใช้เ วลาทำงานหาเงินจากการเป็นเด็กเสริ๋ฟในร้านอาหาร  เขาใช้เวลา 2-3 ปีอยู่อย่างยากลำบาก ทำงานอย่างหนักในเมืองนิวยอร์ค กว่าจะได้โอกาสแสดงในรายการทีวีในบทเล็กๆ และมีโอกาสได้ขึ้นไปเล่ามุขตลกในรายการ talk show หลังข่าวดังอย่าง The Tonight Show ของ Johnny Carson แค่ 5 นาที เขาซ้อมหนักและทำมันได้ดี จนสามารถแจ้งเกิดได้ เส้นทางอาชีพเขาก็เริ่มต้นขึ้นมีงานเข้ามาและได้ทำรายการโชว์ทางทีวีของตัวเองอย่าง "Seinfeld" ทางช่อง NBC จนเป็นที่รู้จักโด่งดัง ได้รับรางวัลและเงินทองมากมาย(รายได้ต่อปีช่วง 2017 ที่ $69 million)

บทเรียนความผิดพลาดของ Soros

วันนี้ไปเจอโพสหนึ่งที่อ้างอิงบทความข่าวย้อนอดีตปี 1998 ของ independent ที่เล่าถึงการขาดทุนใหญ่ และเรียกว่าเป็นอีกปีที่ย่ำแย่ของคุณ George Soros โดยปี 1998 โซรอสมองว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะปรับตัวลงและลงหนักทำให้เขา betting ทางนั้น ปรากฏว่าช่วงปลายปีนั้น ดัชนี DJ30 บวกเพิ่มกว่า 13% หรือ 1000 จุด ทำให้ soros ขาดทุนจากการ short positions ในตลาดฟิวเจอร์ (ตลาดมันถล่มหลัง bullish เพียงแต่มันเกิดปี2000 หลังจาก soros ทำนายและ Short 2 ปีถัดมา) เช่นเดียวกันมีการขาดทุนจากตลาด Hong Kong ( รวมถึงมีข่าวว่าขาดทุนหนักอื่นๆระดับ 2 พันล้านเหรียญ แต่ตัวเลขนี้ไม่มีการออกมายืนยัน) ปีนั้นเรียกว่าเป็นปีที่ยากลำบากของ soros fund ซึ่งมีการชี้แจงในจดหมายถึงผู้ร่วมลงทุน soros ยังมีการแจ้งพิเศษกับนักลงทุนรายใหญ่ของฟันด์ว่า ลาพักชั่วคราว ("taking a temporary medical leave of absence") แหล่งข่าวอย่างคุณ Nicholas Roditi ผู้ลงทุนในกองทุน Quantum Fund ออกมายืนยันโดยระบุว่าปีนั้นผลตอบแทน -14% หลังได้ผลตอบแทน +50% จากปีก่อนหน้า เนื้อหาเพิ่มเติมยังค้นหาจากเว็บอื่นๆได้อีก ช่วงนั้นจะมีประเด็นของ Druc

volatility analysis

พูดถึงการทำ volatility analysis กับการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาเชิงสถิติขั้นสูง แนะนำ Volatility Laboratory (V-Lab) ไป พวกเราที่สนใจเข้าไปดูได้ที่ link ด้านล่าง ทดลองใช้งาน app ได้ฟรี มี data set ทั้ง Currency, Commodity, Stock Index ,ETFs และอื่นๆให้ลอง Volatility Laboratory (V-Lab) ผลงานทีมวิจัยพัฒนาของ Stern NYU (ที่นี้ด้าน Quant ดังอยู่แล้ว) เขาเน้นเครื่องมือวิเคราะห์ volatility และ correlations บนโมเดลหลายประเภท แถมมี เอกสาร ให้อ่านเรื่องของทฤษฏีและการคำนวณของแต่ล ะโมเดลด้วย เช่นเรื่อง Value at Risk (VaR), Volatility Analysis,Volatility Clusters, Fat Tail เป็นต้น เว็บจะอธิบายแนวคิดหลักและยกโมเดลอย่าง GARCH , EGARCH มาประกอบ ตรงนี้อยากเห็นผลการคำนวณการกดเข้ารัน application ได้สะดวกมากไม่ต้องมาเขียน code รันโมเดลเอง อยากศึกษาเรื่องของ volatility เพิ่มเติมก็ลองเข้าไปใช้งาไนด้ฟรีจาก link ด้านล่าง https://vlab.stern.nyu.edu/ ปล. ภาพด้านล่างเป็นการอนุมาน Volatility ของ SET50 เราจะเห็นเลยว่าช่วงสองเดือนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ปล. GARCH(p,q) คงไม่สอนนะครับอธิบายยาวไปอ่านดูใ

นวัตกรรมที่อยากให้เกิดในตลาดหุ้นเมืองไทย

วันนี้มีพี่ท่านหนึ่ง ถามว่าอยากเห็นนวัตกรรมไหนเกิดขึ้นมากสุดในบ้านเรา จริงๆจะว่าไป นวัตกรรม นี้มันคงหมายถึงการสร้างขึ้นใหม่ พัฒนาขึ้นใหม่ ไม่ใช่การลอกเลียนหรือทำตาม แต่คงไม่เสียหายถ้าเราจะทำตามหรือลอกแบบดีๆของฝรั่งมา ส่วนตัวอยากเห็นระบบบริการข้อมูลอย่างของ IEX (โด่งดังมากในยุค Flash Boys ของ Michael Lewis) มีการพัฒนาระบบเข้าถึงข้อมูลแบบเปิดผ่าน IEX-API ให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลราคาและการซื้อขายที่เกิดในตลาด อย่างเรียกว่าฟรีและไม่มีขั้นตอนของเอกสารอะไร เพราะเขามองว่าข้อมูลพวกนี้คือข้อมูลสาธารณะ แถมเตรียมระบบ Realtime Data Service ประสิทธิภาพสูงไว้ให้ เชื่อมต่อผ่าน API สถิติที่แสดงก็น่าสนใจเพราะระบบรองรับบริการข้อมูลสูงถึง 262 TB ต่อเดือน 3.5 million messages ต่อวินาที ฐานข้อมูลระดับ 1.1 trillion record หรือ 72 TB ผมมีโอกาสได้นำข้อมูลมาใช้ และทดลองทำอะไรเยอะพอควรแล้วเลยอยากมาแนะนำ สำหรับคนสนใจลองเข้าไปดูโดยเฉพาะงานวิจัยที่ใช้ Market data พวก Bid Offer , volume และมีข้อมูลระดับละเอียดเฉพาะหุ้น รวมไปถึงข้อมูลพื้นฐานงบการเงิน ซึ่ง IEX-API ใช้งานสะดวกเชื่อมต่อ รองรับได้หลายภาษา

work-life balance

วันนี้ได้คุยกับน้องที่รู้จัก เป็นเข้าทำงานเป็นเทรดเดอร์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง สักประมาณ 2 ปี สิ่งที่สัมผัสได้คือน้องเขาดูเหน็ดเหนื่อยมาก ทั้งจากชั่วโมงทำงานและความเครียดต้องเร่งทำผลงานด้วย เขาเล่าว่าทำงานบางวันเริ่มตั้งแต่เช้าไปจบยังเที่ยงคืน แม้ไม่ได้นั่งติดจอตลอดแต่ก็ต้องตามดู ตามอ่านข่าว คิดแล้วรวมๆ 9-10 ชม. ต่อวันเลย ซึ่งถือว่าหนักมาพอควร แต่ด้วยความที่ยังอายุไม่มาก อยู่ในช่วง prime time ของชีวิต 22-30 ก็น่าจะผ่านไปได้ (ถ้าสุขภาพไม่พังไปก่อน) พอพูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึง บทความที่ได้อ่าน คือประเทศเกาหลีใต้กำลังทำโครงการ 52 hour work คือสร้างการรณรงค์ลดการโหมงานหนัก หรือทำงานมากไป(overwork) สร้าง work-life balance ซึ่งเกาหลีใต้ตัวเลขจากการสำรวจพบชั่วโมงการทำงานต่อปี สูงมากกว่า ค่าเฉลี่ยและมากกว่าประเทศอเมริกา และยุโรปจำนวนมาก โดยรัฐบาลออกเป็นกฏเพื่อรักษาสิทธิ์ของประชาชนไม่ให้ถูก บังคับหรือทำให้แข่งขันทำงานหนัก โดยสูงสุดไม่เกิน 52 ชม.ต่อสัปดาห์ ค่าปกติ 40 ชม.+ Over time 12 ชม. ลดจากเดิมที่ 68 ชม.ต่อสัปดาห์ ถ้าบริษัทไหนให้ลูกจ้างงานเกินจะโดนค่าปรับจากรัฐ ราวๆ $17,815 และอาจ

Fearless Girl on Wall Street

คิดว่าเรื่องนี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายคนได้ดี เป็นเรื่องราวของ Lauren Simmons วัย 23 ปีเธอเป็น full-time trader ที่ตลาด NYSE ของ Rosenblatt Securities ความน่าสนใจคือเธอเป็น Floor trader ผู้หญิงคนเดียวในตอนนี้ และเป็นเทรดเดอร์ที่มี Licence อย่างเป็นทางการของ NYSE ที่อายุน้อยที่สุด โดย Lauren Simmons เธอจบปริญญาดรีด้าน Genetics สาขาโทด้าน Statistics จาก Kennesaw State University ตอนปี 2016 เมื่อเรียนจบแทนทำงานด้านการแพทย์ เธอเลือกจะลองทำงานในด้านการเงิน ที่เธอสนใจมาตั้งแต่เด็ก ผมเห็นน้องบางคนอยากเข้าไปเทรดในอเมริกาใน wallstreet ปัจจุบันโอกาสก็ยังเปิดกว้างอยู่ถ้ามีความสามารถจริงๆ ลองเข้าไปอ่านสัมภาษณ์ถึงเส้นทางอาชีพของ Lauren เมื่อเธอมีความสนใจงานด้านนี้ เธอเริ่มศึกษา จากนั้นใช้ LinkedIn ที่เป็นเหมือนช่องทางในการเข้าถึง connection ก่อนได้รับโอกาสเข้าไปสอบสัมภาษณ์งานที่บริษัท Rosenblatt Securities จนได้รับเข้าทำงานและสอบข้อเขียนผ่านได้รับใบอนุญาติ(ของ floor brokers) ซึ่งเธอบอกว่ายากมาก สำหรับคนที่ไม่ได้เรียน ไม่มีประสบการณ์หรือมีพื้นฐานความรู้ด้านการเงินมาก่อน นอกจากนี้เธอยังได้

Machine learning & High frequency trading

วันนี้ได้นั่งอ่านบทความเรื่อง Machine learning & High frequency trading มุมมองของ Dr. Henri Waelbroeck อดีตนักวิจัยด้าน นิวเคลียร์ฟิสิกส์ที่หันมาทำงานด้าน Quant เกี่ยวกับ HFT ยุคใหม่รวมถึงการพัฒนา AI ในการเทรด มีหลายประเด็นน่าสนใจเช่น ไอเดีย Alpha Profiling ที่ Lab วิจัยของ Portware, LLC ใช้ Machine learning ด้วยเทคนิค Decision Trees Algorithms และ Bayesian scoring ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลการเทรด ร่วมกับ real-time market data เพื่อ optimize เรื่องของ time ในตัว trading execution บนกลยุทธ์การเทรดของ Trader หรือ Portfolio manager รวมไปถึงประเด็นเรื่อง prediction กับ noise data ที่เกิดในข้อมูลราคาบน dynamic system ที่คุณ Henri Waelbroeck ให้มุมมองจากประสบการณ์วิจัยกว่า 10 ปีได้น่าสนใจมาก บทความอาจจะเก่า แต่มีหลายประเด็นที่มีประโยชน์ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก link ด้านล่าง https://www.ibtimes.co.uk/former-nuclear-physicist-henri-waelbroeck-explains-how-machine-learning-mitigates-high-frequency-1551097