ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2021

กรณีศึกษาการล้มละลาย Archegos Capital Management

  ถ้าเอ่ยถึง Fund Manager ที่กำลังร้อนแรง(ก้นร้อน)ที่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้น Bill Hwang แห่ง Archegos Capital Management (ตอนนี้เว็บปิดล่มเข้าไม่ได้แล้ว แต่ข้อมูลจาก CNBC ระบุเป็น family office รายใหญ่ของเอเซีย บริหารเงิน $10 billion ) กับกรณีบังคับขายสถานะสัญญาเทรดอนุพันธ์(Block Trade) มูลค่ากว่า $20 billion (เฉพาะส่วนของ Goldman Sachs )หลังไม่สามารถหาเงินมารักษาสถานะได้หลังโดน margin call ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนเกิดแรงขายในหุ้นเทคโนโลยีอีกหลายสิบตัว คุณ Bill Hwang ไม่ธรรมดาว่ากันว่าเขาเป็นศิษย์สำนัก Tiger Cubs ของ Julian Robertson ประสบการณ์โฉกโชนมากตอนปี 2008 ก็โดน margin call จนต้องบังคับขายมาแล้ว ส่วนปี 2012 ตอนบริหาร Tiger Asia Management ก็เพิ่งจบคดีเคส insider trading ยอมจ่ายค่าปรับไป $44 millonโดนแบนห้ามเทรด 4 ปี ผ่านมาก็ระดมเงินแบบ private มาเปิด Family Fund ใหม่ รอบนี้ตอนปี 2018 ฟันด์ขยายและมีเงินทุนโตมากบวกกับเส้นสายที่มี ทำให้หลุด blacklist จน สถาบันการเงินดังๆเช่น Goldman Sachs,Morgan Stanley, Credit Suisse Group และอื่นๆ มาให้เครดิตเงินกู้ ในการลงทุน หลายพันล้านเหรี

George Soros’s CIO Revives His Legendary Risk Appetite

  วันนี้ผมนั่งฟังคลิปสัมภาษณ์ "George Soros’s CIO Revives His Legendary Risk Appetite" ทางรายการ Fontrow ของบลูกเบริก สัมภาษณ์คุณ Dawn Fitzpatrick เธอเป็น CIO ของ Soros Fund Management เธอถูกเลือกโดยคุณ Soros ให้มารับไม้ต่อบริหารเงินขนาด $27 Billion ที่ Soros Fund Management มีหลายประเด็นน่าสนใจมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง DNA ของ Soros Fund ยุคใหม่ ในช่วงที่คุณ George Soros วัย 90 ปีได้วางมือ ผมสรุปประเด็นหลักๆมาแชร์ เพราะอยากให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเพื่อการอยู่รอดและเติบโตในภาวะตลาดและเศรษฐกิจปัจจุบัน - Dawn Fitzpatrick เธอมีเส้นทางอาชีพที่น่าสนใจเข้าสู่โลกการเงินยุค 1992 ในฐานะ investment banker และนักกลยุทธ์ที่ชำนาญ alternative & quantitative investments Area , จากนั้นได้โปรโมทขึ้นมาเป็นGlobal Head of Equities, Multi-Asset ก่อนขึ้นมาเป็น Head of Investments ที่ UBS Asset Management -ปี 2017 เธอเข้ามาบริหาร Soros Fund Management เปลี่ยนสไตล์การบริหาร, โดยผลงาน return รอบ 12 เดือนบวกเกือบ 30% -เธอวางกลยุทธ์โดยใช้ ทีมในการบริหาร ไม่ขึ้นกับ portfolio manager แค่คนเดียว

สารคดี The Madoff Affair

  เมื่อคืนได้ดูสารคดี The Madoff Affair ของ FRONTLINE ซึ่งเป็นช่วงที่ข่าวการตายของ Bernie Madoff ในวัย 82 ปี ผมติดตามอ่านเรื่องของ madoff มาหลายบทความ เพราะมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ กับการโกงได้ระดับ $64.8 billion ที่ทำเอาลูกค้าระดับ เศรษฐีอเมริกา, เศรษฐีไฮโซ คนดังในยุโรป,, ธนาคาร, hedgefund ,มูลนิธิ ต่างๆขาดทุนมหาศาล , แถมเป็นการโกงที่หลอกคนจำนวนมากได้นานกว่า 20 ปี,แม้มีคนออกมาแฉ มาเปิดโปงแต่ SEC ยังไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบเอาผิดได้ จนมาระเบิดเมื่อ เกิด subprime crisis ที่สถาบันการเงินและธนาคาร ต้องการถอนเงินคืน ทำให้กองทุน Ponzi scheme ของ madoff ต้องล้ม และโดนดำเนินคดี ในสารคดีนี้มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการที่ Madoff หลอกคนรวย เช่น กองทุน,สถาบันการเงิน,เฮ็ดฟันด์ ให้เข้าร่วมเป็น feeder ส่งเงินให้ madoff บริหาร โดย madoff ใช้ความเป็นชาวยิวและนักขาย เขาให้ฟันด์และสถาบันการเงินดังๆ เช่น Fairfield Greenwich Group, Ascot Partners, Tremont Capital Management , Aurelia Finance, Union Bancaire Privee จูงใจคนเหล่านั้น ที่ต้องการรวย หาเงินจากลูกค้าส่งให้เขา โดยมีเงื่่อนไข ห้ามถามว่าท

ผู้สนับสนุนของเทรดเดอร์

 ผม ได้อ่านเจอโพสนี้น่าสนใจดี ประเด็นมาจากช่วง Bitcoin ทำ ATH ก็มีเทรดเดอร์ใช้ชื่อว่า "Parking_Meater" ไปโพสใน Reddit ว่า ภรรยาหนีออกจากบ้าน หลังทะเลาะกัน เพราะสามี(เทรดเดอร์) ไม่เชื่อเธอไม่ยอมขาย Bitcoin ตอนราคาไป $60000 ตอน 13 มีค. จนราคามันลงมาเรื่อยๆหลุด 52000 ช่วง 26 มีค. มาโกรธจัดตอนจับได้ว่าสามียังอัดเงินเข้าซื้อเพิ่มตามสไตล์ Buy the Dip (แต่ในข่าวไม่ได้ระบุว่าซื้อ BTC จำนวนเท่าไหร่) ภรรยาหนีออกจากบ้านไปอยู่กับพี่สาว แต่สามีบอกว่าครอบครัวเราสบาย ไม่ได้ต้องการเงินสด เขาเลยไม่ต้องการขาย bitcoin ออกมา นั้นคือเหตุผล ในโพสกระทู้นี้ ไม่มีอะไรมากคอมเมนต์ไปทางเฮฮา หลายคอมเมนต์บอกว่าเดี่ยวบิตคอยก็กลับมาดังนั้นเปลี่ยนภรรยาใหม่ดีกว่า , บ้างแนะนำให้ปรึกษาหาทนายความเตรียมหย่ากันเลย กระทู้นี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ลึกมันสะท้อนปัญหาหนึ่งของเทรดเดอร์ครับ เพราะ ทัศนคติมุมมองต่อ ผลกำไร/ขาดทุน ของตัวเทรดเดอร์ กับ คนทั่วไปรอบข้าง(คนในครอบครัว) มันจะแตกต่างกัน เวลาคุยกันมันเปราะบางมากโอกาสเข้าใจผิดหรือเกิดผลลบ นี้เกิดได้ บางทีตอนราคาบิตคอย/ ราคาหุ้น ที่เทรดขึ้นมีกำไร อาจจะเผลอไปบิ้ว ไปคุยอวดเม

ตกผลึกความคิดจากเรื่องเล่า

  เห็นภาพนี้แล้วอดนึกถึงเรื่อง ชาวประมง กับ นักธุรกิจไม่ได้ , เรื่องเล่าคลาสสิกที่ว่า (โดยสรุป) นักธุรกิจคนหนึ่งผู้ประสบความสำเร็จ พยายามแนะนำวิธีหาเงินเยอะให้ชาวประมง ด้วยการกู้เงินมาซื้อเรือลำใหญ่จ้างลูกน้อง ออกทะเลเพื่อให้จับปลามาขายได้เยอะๆ จากนั้นเปิดโรงงานแปรรูปส่งออก สร้างผลประกอบการดีๆแล้วนำบริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น เพื่อให้กลายเป็นมหาเศรษฐี สุดท้ายใกล้เกษียณได้ใช้เวลาว่างมาพักผ่อน ดูฟ้า ดูน้ำทะเล ตกปลาสบายใจ มีอิสระแบบผม(นักธุรกิจร้อยล้าน) !! ชาวประมงตอบกลับว่า นั้นมันก็สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันไงครับ ใช้ชีวิตเรียบง่าย อย่างมีความสุข มีเวลาให้กับครอบครัว ได้นั่งตกปลาหาปลาแค่พอกินอย่างสบายใจ ในทุกวัน (ไม่ต้องรอให้รวยก่อน)..... เรื่องนี้ คนสรุปไปหลายทาง สำหรับผมไม่ว่าจะเลือกเป็น นักธุรกิจ หรือเลือกจะรักอิสระเป็นชาวประมงพอเพียง สุดท้ายมันขึ้นกับเป้าหมาย และความต้องการชีวิตของเรา ประเด็นคือ เราหาตรงนั้นเจอหรือยัง จุดที่เราพอใจและพอเพียง ถ้าหาจุดนั้นเจอ ที่เหลือก็แค่วางแผนชีวิตและลงมือทำ (ไม่ต้องไปเสียเวลา เปรียบเทียบรูปแบบชีวิต ฐานะและชื่อเสียงของเรากับคนอื่น) แต่สิ่งสำคัญ ต้องอย่า

Hanzawa Naoki

  วันหยุดสัปดาห์นี้ได้ใช้เวลาวันหยุดนั่งดูซีรีย์ญุี่ปุ่นชื่อ "Hanzawa Naoki" ที่รุ่นน้องแนะนำมาว่าเป็นสุดยอดซีรีย์การเงินและการธนาคาร อันดับต้นของเอเซียเลย เขาแนะนำตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ผมชอบซีรีย์ฝรั่ง เช่น billions มากกว่าเลยดองไว้ พอมีโอกาสได้ดู ต้องบอกเลยครับของเขาดีจริงๆ Hanzawa Naoki มีสองซีซั่นได้รับเรตติ้งการดูสูงสุดอีกเรื่องในญีุ่่ปุ่น คนเขียนบทนี้สุดยอดเนื้อเรื่อง สนุก ลุ้นทุกตอน นักแสดงก็แสดงได้อารมณ์สุดๆซีรีย์เล่าเรื่องของ คุณ Hanzawa Naoki ชายมุ่งมั่นจะเป็นนายธนาคาร จากปมในใจที่พ่อของเขาต้องฆ่าตัวตายจากธุรกิจที่ล้มเหลวขาดทุนหนักและธนาคารไม่ยอมปล่อยสินเชื่อให้กู้ต่อเป็นปมขับดันทีทำให้ Hanzawa อยากเปลี่ยนโลกธนาคารให้ดีใหม่ หลังคุณ Hanzawa จบมหาลัยก็เริ่มทำงานในธนาคารใหญ่ใช้เวลาสิบกว่าปีไต่เต้าจนก้าวขึ้นมาในระดับหัวหน้าของสาขา แต่ต้องมารบกับความฉ้อฉลในการปล่อบกู้, การชิงดีชิงเด่น เล่นพรรคเล่นพวกและการเอาเปรียบจากหัวหน้าสารพัดสารเพ แต่ด้วยสโลแกนที่ว่า "ถ้าใครทำร้ายฉันล่ะก็ จะเอาคืนเป็นสองเท่า" ก็ทำให้เขาเอาชนะมาทุกคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน เนื้อเ

Non-fungible tokens(NFT)

  วันนี้อ่านเรื่องของ non-fungible tokens(NFT) หลายบทความ ซึ่งดูเหมือนกระแสรอบนี้จะทำให้เห็น use case น่าสนใจของเทคโนโลยีมากขึ้น แม้จะดูเหมือนมันเป็นกระแสร้อนและมูลค่าสินค้าน่าจะเป็นอะไรที่เกินจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า Technology มันมาแล้วย่อมคงยังดำเนินอยู่หลังการได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มันใช้งานได้และสามารถแก้ข้อจำกัดเดิมในอดีต รอบนี้คนหนึ่งที่ Win ในเกมส์กระแสร้อน NFT คือ คุณ Mike Winkelmann (ฉายา Beeple) เขาเป็น digital artist ที่ผลิตผลงานดิจิตอลอาร์ทมากกว่า 10 ปี รอบนี้เขาได้นำ NFT ของผลงานภาพชิ้นเอกชื่อ "Everydays: The First 5,000 days" ไปประมูลขายบนเว็บประมูล christies dotcom ได้ราคากว่า $69 million กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในข้ามคืน , เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าติดตามและศึกษา NFT มาสักระยะ แต่ก็ไม่คิดว่า งานของเขาจะขายได้มูลค่ามากมายขนาดนี้ , หลายเว็บมีการประมูล NFT กลุ่มดิจิตอลโปรดักซ์ หลายประเภท เช่น digital art, memes, music , รูปภาพ ,ของสะสมดิจิตอลต่างๆประเภทมีชิ้นเดียวในโลก เช่น NFTตัวสินค้าข้อความ first tweet ของ Jack Dorsey , ceo twitter เป็นต้น โดย Mike Winkelmann กล่าวว่

ให้เงินช่วยเราทำงาน

  วันนี้ได้อ่านสัมภาษณ์ของ Mark Cuban เขาพูดถึงเรื่องของ Wealth และ Financial independence มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ คุณมาร์ค แนะนำให้ความสำคัญกับ Time value มากกว่าจำนวนเงิน คือแทนจะตั้งเป้าเป็นเศรษฐีร้อยล้าน พันล้าน ให้มองความมั่นคงและการมีอิสระภาพทางการเงินตามความเป็นจริงที่เหมาะสม ซึ่งคุณมาร์คพูดถึงไอเดีย การเก็บออมสะสมเงินล้าน ลงทุนให้เติบโตเหมาะสม แล้วใช้ชีวิตให้มีค่าครองชีพประหยัดเหมือนเด็กมหาวิทยาลัย(บ้านไม่รวย) สามารถเกษียณก่อน 60 ได้แน่นอน ในที่นี้สรุปได้ว่า Key ของอิสระภาพทางการเงินคือ การมีมูลค่าเวลาเพิ่ม คือมี "เวลา" ไปใช้ทำสิ่งที่ต้องการทำ หรือใช้เวลาเพื่อสร้างประโยชน์ สร้างความสุขให้กับตัวเราเอง แทนที่ต้องเสียเวลาทำงานแลกเงิน เพื่อสร้างประโยชน์ให้นายจ้างหรือนายทุนเจ้าของบริษัท เอาจริงก็อาจจะไม่ค่อยง่าย ยิ่งถ้ามีครอบครัว หรือมีรายจ่ายเพิ่ม ทำให้เงินเก็บเงินออมแต่ละเดือนอาจจะทำได้ไม่มากหรือไม่สามารถย้ายไปอยู่อาศัยต่างจังหวัดที่ค่าครองชีพต่ำได้ ดังนั้นคงต้องปรับให้เหมาะกับชีวิตของแต่ละคน แต่ประเด็นสำคัญคือต้องมี "เป้าหมาย" และเริ่มทำทันที แม้จะเล็กน้อ