ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2020

Reinforcement Learning for Trading

ปีกว่าๆแล้วที่ใช้ Reinforcement learning ในการพัฒนาระบบเทรด(เสริมกับระบบเดิมก่อนหน้าเป็น VAE-LSTM Model ) วันนี้ใช้โอกาสเรียนฟรีของ coursera ลงเรียน หลักสูตร Reinforcement Learning for Trading Strategies ของ NYU ซึ่งครอสนี้ให้ตัวอย่างการใช้ value-based policies กับ momentum trading strategy เพิ่งเรียนได้ week ที่ 2 ยังไม่จบ ไม่รีบด้วยเพราะมันฟรี แต่เดี่ยวผมเรียนจบ จะมารีวิวให้ ส่วนน้องคนไหนพัฒนา Quant สาย AI แนะนำให้ลองเรียนครับ อาจารย์ที่สอนอธิบายเข้าใจง่ายมาก และมีเราสามารถเขียนโปรแกรมตามแบบฝึกหัดออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก ด้วย https://www.coursera.org/learn/trading-strategies-reinforcement-learning

Commodity Super Cycle

เมื่อวานมีน้องเทรดเดอร์ คนหนึ่งถามเรื่องการลงทุนระยะยาวในสินค้าคอมโมดิตี้ ผมเลยเอาบทความ Commodity Super Cycle นี้มาแบ่งปันให้ลองอ่านเพิ่มเติม โดยสรุปมีใจความหลัก -สินค้า commodity มีหลายประเภท และมีลักษณะของ Cycle และรูปแบบของราคาที่แตกต่างกันไป -ราคาของ สินค้า commodity แปรผันตาม Demand และ supply ที่เกิดในช่วงเวลาใดๆ ซึ่งหลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการบริโภค จะมีความสัมพันธ์กับ ภาวะเศรษฐกิจ -บทความนี้จำแนกการแกว่งของ cycle เป็น 2 แบบคือ upswings และ downswings. - upswings รอบการการแกว่งขาขึ้น ที่มาจาก demand ที่มากกว่า supply - downswings รอบการการแกว่งขาลง ที่มาจาก supply ล้นมากกว่า demand ในตลาด -ภาวะราคาสินค้า commodity ปรับตัวเป็น cycle หรือการ swing เพราะเมื่อมี demand มาก เวลาผ่านไปผู้ผลิตมีการปรับตัวเพิ่ม supply เข้ามาในตลาด หรือความต้องการซื้อจากปัจจัยเร่งหรือภาวะทางอารมณ์หายไป จุดนั้นราคาจะมีการปรับตัว ลดลง เป็นต้น -ในคาบเวลาระยะยาว การนิยาม Commodity super cycles สามารถใช้โมเดล Bank of Canada Commodity Price Index (BCPI) เพื่อติดตามภาพให

แนะนำหนังสือ "Options, Futures, and Other Derivatives"

  เมื่อวานมีน้องเทรดเดอร์ขอให้แนะนำหนังสือเรื่องการเทรด อนุพันธ์ ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเริ่มต้นแนะนำให้อ่าน "Options, Futures, and Other Derivatives" ของคุณ John C. Hull ปัจจุบัน แล้ว หนังสือเล่มนี้เหมาะกับการใช้อ้างอิงและเป็นหนังสือให้แนวคิด เริ่มต้นสำหรับเทรดเดอร์ได้ดีมาก มีเนื้อหาที่ครอบคลุมและอธิบายหลายประเด็นที่เป็นเรื่องซับซ้อน ให้เข้าใจง่ายในประโยคสั้นๆ โดยเฉพาะในด้านการเทรด options ซึ่งคุณ Hull ทำได้ดีมาก เช่นเรื่อง Greeks, Volatility smiles, Value at risk, Estimatin g volatilities และ Black-Scholes-Merton model ส่วนของ Futures ก็มีบทหัวข้อ Hedging strategies using futures ที่อธิบายไว้ได้ดี จุดเด่นอีกเรื่องคือ หนังสือเล่มนี้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ปัจจุบัน 10th Edition ทำให้หลายตัวอย่างค่อนข้างทันสมัย เช่นเคสวิกฤติการเงิน 2007-2008, ด้านเนื้อหาลึกและแน่นมาก(เป็นหนังสือตำราตั้งใจเขียนจริงๆ) สนใจแนะนำลองหาซื้อมาอ่านกัน https://www.amazon.com/Options-Futures-Other-Derivatives-10th/dp/013447208X/

Inside the House of Money

 เมื่อวาน ผมพูดถึงหนังสือ Inside the House of Money วันนี้เลยอยากนำคลิปเก่าที่เคย รีวิวหนังสือ Inside the House of Money: Top Hedge Fund Traders on Profiting in the Global Markets ของ Steven Drobny มาแชร์อีกรอบ โดยคลิปนี้ผมรีวิวภาพรวมของหนังสือและไฮไลท์สำคัญ ประวัติผู้เขียน รวมถึง นำเอา Hedgefund manager สาย Global Macro economic 2 คนที่ให้สัมภาษณ์ไว้ได้น่าสนใจ มาสรุปให้ฟัง คือคุณ Jim Leitner แห่ง Falcon Management และ Scott Bessent แห่ง Bessent Capital เป็นการเรียกน้ำย่อย ให้พวกเราลองไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้อ่านกัน ปล. เล่มนี้อ่านง่ายและได้ประเด็นแนะนำให้ลองหามาอ่านกันครับ ลองเข้าไปรับฟังได้ที่ https://youtu.be/Rd69II7_X_E

Rule of 72 กับ การพัฒนาระบบเทรด

  สำหรับผมระบบเทรดที่ดี คือระบบที่เราสามารถเทรดและทำมันได้ทุกวัน สร้างผลตอบแทนที่ต่อเนื่องและ บริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมอยู่รอดในทุกสภาวะตลาด มันอาจจะไม่ต้องเป็นระบบที่ wining rate 100%, ทำกำไร 200 300% ต่อปีขนาดนั้น เพราะยิ่งคาดหวังมาก ยิ่งพยายามจะทำอะไรให้มันเกินจริง สุดท้ายมันยิ่งเละ และใช้ไม่ได้จริง เจอมากมายระบบเทรดที่ over fiting หรือ พวก Data-Mining Bias พยายามทำให้ back testing ดีเกินจริง มาอวด มาโชว์ แต่ใช้จริงในตลาดไม่ได ้ ส่วนตัวผมทำระบบเทรด ใช้สูตร 12 * 36 พยายามจะสร้าง return เฉลี่ยให้ได้ 12% บนเงื่อนไขของการยอมให้มี max dd ที่ไม่เกิน 36% ของเงินทุน ซึ่งระบบมี 2 ส่วนงานคือส่วนทำกำไร และส่วนที่บริหารจัดการความเสี่ยง(ควบคุม DD) ดังนั้น ไม่ว่าตลาดมันจะผันผวนขนาดไหน หรือวิ่งไปทางใด ระบบมันก็รอดได้ ทำงานของมันได้ตามแผน ขณะเดียวกันบน Rule of 72 ถ้าระบบรันตามแผน ค่าเฉลี่ย 12% ต่อเนื่อง ราวๆ 6 ปีก็สามารถสร้างเงินทุนเพิ่มเป็น 1 เท่าได้ แน่นอนว่ามันอาจจะช้า แต่มั่นคง ขณะที่เวลาผ่านไป เราสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นได้ไปอีก ควบคู่กับการเติบโตของพอร์ต พลังของอัต

Be hustle, Be humble

ระหว่างกินข้าวเที่ยว พี่ชายที่เคารพถามเรื่องวิธีสอนการเงินให้กับลูกที่กำลังจะจบมหาวิทยาลัย แนะนำไปหลายแนวทาง แต่ปัจจุบันมีทั้งหนังสือ ทั้งเว็บดีๆให้ความรู้ และมีเครื่องมือเช่น app ต่างๆมากมายช่วยอำนวยความสะดวก เหลือแค่ วินัย ในการบังคับตัวเองให้อดออม ให้ยั้งคิดในการใช้เงิน หรือบังคับอดทนรอเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน สมัยผมเริ่มต้น ผมเริ่มจากเงินสี่ด้าน(Cashflow Quadrant)จากหนังสือพ่อรวยสอนลูก แต่กว่าจะทำได้แต่ละด้าน ต้องใช้เวลาต้องรอ แถมสมัยก่ อนต้องเผชิญกับความเชื่อ ทัศนคติ ของคนรุ่นเดิมไม่น้อย ปัจจุบัน คนยุคมิลเลเนี่ยล มี leverage จากอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยี มาช่วยเพิ่มโอกาส ทำให้อาจจะไม่ต้องรีบเลือก สามารถทำทั้ง 4 ด้าน พร้อมกันได้เลย(แล้วค่อยๆขยายสเกลต่อไป) เช่น -E: เรียนจบทำงานประจำไปก่อน เพื่อเก็บเงิน รักษาฐานรายได้ที่มั่นคง -S: หาเงินเพิ่มในช่วงเวลาว่าง เช่น การขายของออนไลน์, ขายขนม,รับจ้างฟรีแลนซ์,เปิดช่องยูทูป,ไกด์นำเที่ยวออนไลน์ ,ตัวแทนขายประกัน เป็นต้น -B: มีเงินพอ ลองทำธุรกิจแบบ weekend entrepreneur (ใช้เงินไม่มาก,บางส่วน outsource ได้ และใช้เวลาไม่เกินไป)ทำได้ดีพอ เก่งพอ ล

Expedition Happiness

ถ้าถามถึงนิยามของคำว่า "ความสุข" เชื่อว่าแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปร้อยแปดพันเก้า แต่สำหรับ คุณ Felix Starck (จาก Pedal The World) และคุณ Selima Taibi มันคือการเดินทาง การออกไปพบปะสิ่งใหม่ๆ ทั้งผู้คนและสถานที่ เพื่อการเรียนรู้ และทำความเข้าใจชีวิต ผมมีโอกาสได้ดู Expedition Happiness หนัง สารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของคู่รักชาวเยอรมันทั้งสอง พร้อมหมาคู่ใจ(Rudi) ที่เดินทางข้ามทวีป North America ด้วยรถโรงเรียน(American school bus) จุดเริ่มต้ นจาก North Carolina(เมืองที่ซื้อรถโรงเรียนและลงแรงสร้างให้มันกลายเป็นบ้านติดล้อ) ไป Canada, Alaska, ผ่าน U.S. West Coast, Mexico เป้าหมายปลายทางคือจะไปประเทศ Argentina ทั้งสองเผชิญอุปสรรคและประสบการณ์ต่างๆ มากมายระหว่างการเดินทาง มีทั้งรอยยิ้มและคาบน้ำตา เรียกว่าทำให้ดูสนุกและคุ้มค่ากับเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง มันไม่ใช่หนัง art หรือหนัง hippy ทั่วไป แต่ภาพมุมสูง การตัดต่อ และเพลงประกอบนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ถ้ากำลังมองหาความหมายในชีวิต แนะนำ "Expedition Happiness" ครับ https://www.youtube.com/watch?v=PKRvZLjkRJA

การนอน กับอาชีพเทรดเดอร์

การนอน นี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับ เทรดเดอร์ โดยเฉพาะการเทรดในตลาดค่าเงิน(FX),ทองคำ หรือตลาดต่างประเทศ(US , DAX) ยิ่งถ้าต้องรีบตื่นไปทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัวในตอนเช้า การเทรดดึก กว่าจะได้นอนตี 2 - 3 มันจะทำให้เหนื่อยมาก(บางวันขาดทุนหนัก เทรดพลาด หมกหมุ่นนอนไม่หลับเอาง่ายๆได้อีก) และถ้าทำต่อเนื่องหลายเดือน มันจะล้าสะสม มีผลต่อสุขภาพ บวกกับอาจจะทำให้ performance การเทรดและการตัดสินใจ ของเราแย่ลง ได้ บางวันเครื่องดับไปดื้อก็ได้ ดังนั้น ถ้าเป็น part-time trader ไม่มีเวลาพ ักงีบระหว่างวัน ต้องวางแผนเวลา การนอนและการเทรดให้ดี เช่น -อาจจะเลือกกลยุทธ์การเทรดรอบกว้างขึ้นที่เหมาะกับเรา, -อาจจะเทรดสินค้าบางตัวที่ active ในเฉพาะช่วงเวลา ไม่เกิน เที่ยงคืน -หรืออาจจะเทรดแบบวัน เว้นวัน เทรดตามเป้าเช่นตั้งเป้าสัปดาห์ละ 1% ทำยอดได้ ก็พัก เป็นต้น มีหลายวิธีเคยอธิบายไว้ลองอ่านบทความย้อนหลังได้ ในภาพเอาตัวอย่างตารางการนอนและเวลาตื่นที่เหมาะสมต่อสุขภาพแบบ กฎนอนหลับ 90 นาที มาฝากครับ https://health.mthai.com/howto/health-care/24127.html https://www.jeab.com/fit-firm/fit-life/sleep-90-min-rules