ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ investment

สรุป The Simple Path to Wealth by JL Collins

  ผมเขียนถึง JL Collins โพสก่อนหน้ามีคนถามเข้ามาถึงหนังสือของแกว่าดีหรือไม่? ส่วนตัวผมไม่เคยอ่านครับไม่กล้าแนะนำ แต่อ่านบทความจาก Blog ชอบเพราะเขาเขียนจากประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการไปสู่ Finacial Freedom และอ่านเข้าใจง่าย ดังนั้นเพื่อขยายภาพแนวคิด Passive Investing ของ JL Collins ผมจึงทำบทสรุปในรายการ Talks at Google หัวข้อ The Simple Path to Wealth | JL Collins มาแบ่งปัน ให้ท่านสนใจลองศึกษากัน 1. JL Collins ให้นิยามความหมายของ Wealthในมุมมองของเขาว่า มันมองได้สองมุม มุมแรกด้านจิตใจ ความมั่งคั่งตัวแทนของความปลอดภัยและอิสระด้านปลอดภัยเพราะช่วยปกป้องตัวเราจากผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น,รวมถึงความมีอิสระในการตัดสินใจและเลือกที่จะใช้ชีวิตของเรา -มุมที่สองด้านการเงิน จำนวนเงิน เขาไม่ได้ให้ความสำคัญการมีมากที่สุด แต่เขาอิงกับระดับความมีอิสระทางการเงินตามกฏ 4% Rule, หรือ การที่มีเงินหรือสินทรัพย์ ที่นำไปสร้างผลตอบแทนระดับ 4% มากพอจะดำรงชีพรายปี(ครอบคลุม cost of living ของตัวเรา) จุดนี้น่าสนใจเพราะ Colins บอกแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเท่ากันเสมอไป บางคนมั่งคั่งมีอิสรภาพทางการเงินได้ด้วยจำนวนเงินไม่สูง ขึ

Economics and Finance Online Course

เทรดเดอร์ เข้ามาตลาดอาจจะไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ ซึ่งหลายเรื่อง มันมีความสำคัญและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการออกแบบพอร์ตและการวางกลยุทธ์ ต่างๆ ผมมีแหล่งเรียนออนไลน์อันหนึ่งที่ดีมาก ของ Khan Academy หัวข้อครอส Economics and finance ผมเองก็ศึกษาจากที่นี้ โดยเฉพาะเรื่อง Macroeconomics และ Finance and capital markets ซึ่งอธิบายได้ดีและเข้าใจง่ายมาก อีกประการคุณ khan นี้เป็นอดีต hedge fund manager เก่าที่ออกมาทำประโยชน์ให้กับโลก แทนที่มุ่งหาเงิน คานเรื่ องความรู้ไม่ธรรมดาเขาเรียนจบปริญญาจาก MIT และ MBA จาก Harvard ดังนั้นเรื่องเนื้อหาคุณภาพสูง การอธิบายและยกตัวอย่างดีมาก อยาก แนะนำลองเข้าไปเรียนได้ที่ https://www.khanacademy.org/economics-finance-domain

ลงทุนด้วยหัวใจ ไม่ใช่อยากรวยเร็ว

ผมว่าเวลานี้คนที่เคยปรามาส ว่าตลาดหุ้นนั้นง่าย เหมือนเด็กสาวใจแตกคงต้องคิ ดใหม่กันอีกรอบ เพราะทุกวันนี้พระเอกที่เคย สร้างกำไร สร้างผลตอบแทนแบบเป็น กอบเป็นกำ ได้กลายร่างมาเป็นตัวร้ายที่จ้องสูบเงินออกจากพอร์ตขอ งเรา จากเนินเป็นดอยสูง จากกำไรเป็นขาดทุน จากสวรรค์เป็นนรก สับขาหลอกกันจนแมงเม่างงไปหมด บางคนเจ็บปวดทุกครั้งที่คนรอบข้า งถามถึงพอร์ต ถึงผลตอบแทนจากตลาดหุ้น หรือไม่ก็ต้องแกล้งโกหก ว่าตัวเองไม่เดือดร้อนจาก ภาวะเศรษฐกิจ วิกฤติหนี้ยุโรปที่มีผลต่อตลาด หุ้น จริงๆแล้ว ตลาดหุ้นไม่เคยง่าย ไม่ว่าจะมือเก่า หรือมือใหม่ เราก็คือรายย่อย วรรณะต่ำสุดในห่วงโซ่การลงทุน ด้อยทั้งอำนาจ เงินอำนาจการเข้าถึงข้อมูล และข่าว และอื่นๆ ดังนั้นเมื่อข้อจำกัดเยอะ เราต้องเรียนรู้ที่ต้องปรับ ตัวเอง ให้อยู่กับข้อจำกัดนั้น การลงทุนที่ดีไม่ว่าจะสั้นหรือยาว จะเก็งกำไรหรือเน้นปันผล จะต้องใช้ทั้ง หัว และใจ  หัวคือสมอง การคิด การวิเคราะห์ อย่าลงไปตามเกมส์ของทฤษฏีสม คบคิด ที่เขาปรุงแต่งให้เรา ไปตามเกมส์กระแสหลัก, หมั่นสังเกตและตั้งคำถามถึง สิ่งที่เกิด ,อย่าเชื่อเพียงเพราะมีหลาย คนเชื่อตามนั้น ,อย่าหลงไปกับความหวังสวยงา ม

โป๊กเกอร์กับการเล่นหุ้นเก็งกำไร 2

ตอนที่สองนี้ผมขอนำเอากลยุทธการเล่นโป๊กเกอร์มายกตัวอย่างเพื่อให้ได้เห็นภาพของการเล่นจริง ปกติอย่างที่ผมกล่าวอยู่เสมอการเล่นหุ้นและการเล่นโป๊กเกอร์ถ้ามีระบบ เข้าใจความเสี่ยงไม่เล่นไปตามอารมณ์ก็ไม่นับว่าเป็นการพนันแต่อย่างไร โป๊กเกอร์และหุ้นเก็งกำไร จะชนะได้แบบยั่งยืนผู้เล่นต้องเข้าใจเรื่องความน่าจะเป็นและมีความอดทน เพื่อรอทำกำไรหรือสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลาที่ได้เปรียบ กล่าวคือถ้าเป็นหุ้นก็คือการเล่นเสี่ยงบนแนวโน้มขาขึ้น ปล่อยให้กำไรเกิดตามแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของราคา ถ้าเป็นโป๊กเกอร์ก็คือการที่เรากล้าเสี่ยงการเพิ่มเดิมพันเมื่อไพ่ในมือและไพ่บนโต๊ะจับคู่ออกมาดี มีความน่าจะเป็นที่จะชนะสูง และรู้จักหมอบเมื่อเห็นโอกาสที่จะแพ้ กลยุทธพื้นฐาน หลักการดังที่ผมอธิบายไปแล้ว ต้องอดทนรอไพ่ที่ดี ผมขอสรุปกลยุทธพื้นฐานที่ดังนี้  1. ประเมินไพ่สองใบที่ได้รับ ถ้าหน้าไพ่สูงมีโอกาสดี เช่นอาจจะเกิดตอง อาจจะเกิดฟลัช(Flush) อาจจะเกิดคู่สูง หรือสเตรท เป็นต้น เราก็สามารถ Call หรือวางเดิมพันเพื่อดูไพ่และเล่นต่อไป ถ้าไพ่ต่ำความน่าจะเป็นน้อยก็ควรหมอบ 2. เมื่อไพ่สามใบ กลางโต๊ะออก ให้ประเมินความน่าจะเป็นของไพ่ที่เหนือกว่า

โป๊กเกอร์กับการเล่นหุ้นเก็งกำไร 1

เอ่ยถึงโป๊กเกอร์หลายคนอาจจะเบือนหน้าหนี เพราะคิดว่าผมกำลังจะมาสอนเรื่องการพนัน แต่แท้จริงแล้วผมอยากแนะนำการฝึกหัดทักษะการเล่นหุ้น ด้วยไพ่โป๊กเกอร์ให้เพื่อนๆได้รู้จักมากกว่า เพราะโป๊กเกอร์นั้นเป็นเกมส์การพนันที่ต่างจากการพนันทั่วไปที่อาศัยดวงในการชนะ เช่น หวย ไฮโล รูเล็ต สล็อต เป็นต้น ด้วยโป๊กเกอร์นั้นต้องอาศัยทั้งทักษะการคำนวณความน่าจะเป็น, จิตวิทยา และการบริหารจัดการเงิน ดังนั้นถ้าอยากเล่นหุ้นเก็งกำไรให้ดีและเก่ง โป๊กเกอร์ก็เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะทั้ง 3 ของเราได้เป็นอย่างดี โป๊กเกอร์ เป็นเกมส์ไพ่ที่ไม่ซับซ้อน แจกไพ่ให้ผู้เล่น 2 ใบและไพ่กองกลางอีก 5 ใบ จากนั้นจับคู่ 5 ใบของใครใหญ่กว่าก็ชนะไป เกมส์ที่ต้องต้องอาศัยไหวพริบ การวางแผน การหลอกล่อ และการอ่านจิตใจของคู่แข่ง ผ่านสีหน้า ท่าทาง และคำนวณความน่าจะเป็นโอกาสที่ชนะ รวมถึงกลยุทธการจัดการเงิน การวางเดิมพันที่จะสร้างผลประโยชน์ให้เราได้มากที่สุด เข้าสโลแกนคือถ้าไพ่ดีชนะต้องได้กำไรที่สมน้ำสมเนื้อ ในขณะเดียวกันถ้าไพ่ไม่ดีต้องแพ้ก็ต้อง เสียเงินให้น้อยที่สุด  รูปตัวอย่างการเล่นจาก Wiki ปัจจุบันโป๊กเกอร์เป็นเกมส์ไพ่ที่มีความนิยม

ขาดทุนเพราะอะไร???

คำว่าขาดทุนดูจะเป็นคำแสลงของนักลงทุนเก็งกำไรแทบทุกคน เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดการขาดทุนเป็นแน่แท้ แต่การลงทุนไม่ว่าจะสั้นหรือยาว อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่สามารถล่วงรู้ทุกสิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้าได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องยอมรับกับคำว่าขาดทุน เหนือสิ่งอื่นใดเราจำเป็นต้องรู้จักความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขาดทุน และเรียนรู้ที่จะหาวิธีควบคุมการขาดทุนไม่ให้เกิดบานปลาย เสียหายใหญ่โตต่อเงินลงทุนของเราเอง ถ้าถามว่าทำยังไงให้ไม่ขาดทุน อาจจะพบว่าคำตอบคือเป็นไปได้ยาก ไม่มีการลงทุนไหนที่จะเชื่อมั่นได้ 100% ทุกอย่างในโลกการลงทุนผมว่ามันเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น การลงทุนเก็งกำไรในจังหวะที่ความน่าจะเป็นที่จะชนะสูง ย่อมหมายถึงโอกาสที่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นดังเราหวังได้เช่นกัน พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงหนังเรื่อง limitless ที่พระเอกเป็นนักเขียนธรรมดาที่ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จ สมองตีบตันขาดไอเดียและขาดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน พอได้ไปกิน NZT ยาที่ทำให้คุณกลายเป็นอัจริยะข้ามคืน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ 100% ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดาย เช่

10 Golden Trading Rules

ถ้าจัดกลุ่มคำถามจากอีเมลที่เพื่อนๆส่งเข้ามาถาม คำถามกลุ่มใหญ่ที่พบมากที่สุด คือการขอ"เคล็ดลับการเล่นหุ้น" จับอารมณ์ได้ว่าหลายคนที่พยายามเข้ามาในตลาดหุ้นเก็งกำไร ด้วยความคิดผิดๆที่โดนเป่าหูว่ามันคือตู้ ATM ที่สามารถเข้ามากดเงินออกไปได้ แต่พอได้ลิ้มรสความจริงได้ ลองขาดทุนจริง เจ็บจริงก็ได้รู้ซึ่งว่ามันไม่ง่ายแบบที่เขาโฆษณา ผมค่อนข้างเป็นห่วง นักเก็งกำไรหน้าใหม่ที่อาจจะหลงกับความหอมหวานของกลิ่นเงิน จนทำให้หน้ามืดตามั่วลงทุนไปด้วยความโลภ สุดท้ายแล้วเมื่อหมดตัวก็ต้องล้มหายตายจากไป นึกถึงคำลุงฉโลกที่เปรียบคนที่ประมาทคิดแต่จะหากำไร เหมือนดั่งกับการเข้าไปเดินเล่นในกรงเสือ เมื่อถามถึงเคล็ดลับ ผมก็มีเคล็ดลับมาฝากกัน เป็นเคล็ดลับการลงทุน เรียกว่ากฏทองคำ 10 ข้อของเทรดเดอร์ โดยคุณ Adam Hewison ซึ่งเป็นเซียน forex trader ,ผู้จัดการ hedge fund และเป็นที่ปรึกษาการเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหาร INO.com เว็บไซต์ลงทุน futures และ Option แบบออนไลน์ในหลายประเทศทั่วโลก กฏทองคำ 10 ข้อที่ว่านี้ค่อนข้างน่าสนใจ ผมเลยขอสรุปจาก คลิปวีดีโอที่คุณ  Adam Hewiso n บรรย

หลุมพรางของแมงเม่า

ปัญหาอย่างหนึ่งที่เหมือนๆกันเวลามีคนเข้ามาปรึกษาผมเกี่ยวกับการเล่นหุ้นเก็งกำไร คือ ตัวเค้าเองรู้สึกว่าเล่นหุ้นแล้วไม่มีความสุข เครียด บางคนก่อนเล่นเคยวาดฝันไว้ว่าจะสามารถหาเงินจากตลาดหุ้นได้แบบตู้ ATM ได้เงินทุกเดือน เดือนละเท่านั้นเท่านี้ แต่เมื่อลงมาสัมผัสของจริง มีแต่เสียเยอะสลับกับได้น้อย เล่นเอาเครียดไม่มีความสุข จนทุกวันนี้เหมือนทำงานหาเงินมาเติมพอร์ตหุ้น กลายเป็นว่าทำงานหาเงินมาให้คนอื่นเอาไปใช้อีก ได้ลิ้มรสชีวิตแมงเม่าที่มืดหม่นเข้าไปอีก ถ้าเราลองสังเกตดีๆ ยังมีคนแบบนี้อยู่มากเกินกว่าครึ่งในตลาดหุ้นครับ เพราะคนเหล่านี้คือคนที่ทำให้ระบบเก็งกำไร เดินอยู่ได้เป็นคนทำเงินให้ผู้ชนะ เป็นคนที่ไล่ซื้อหุ้นเวลาราคาแพง เรียกว่าเป็นผู้รับไม้ต่อให้ผู้ชนะทำกำไร แถมยอมทนติดดอย ลูกแล้วลูกเล่าด้วยความหวังว่าสักวันจะได้ลง พร้อมกับปลอบใจตัวเองดังๆ ว่าไม่ขายไม่ขาดทุน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เมื่อเราเริ่มลงทุนเราจะติดอยู่กับวัฏจักรของแมงเม่า ภายใต้ทฤษฎีสมคบคิดในตลาดหุ้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใครจะเป็นยังไง แต่ปัญหาจริงๆอยู่ที่ว่าเราเลือกจะเป็นอย่างไรมากกว่า  คนส่วนใหญ่มักเล่นหุ้นเพราะหวังรวย หวังได้เงิน เม

เรียนหุ้นจากหนัง: พิชัยยุทธการลงทุน

หยิบหนังจีนเรื่องโปรดอีกเรื่องมาเขียน เพราะว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังดูแล้วจะได้ข้อคิดดีๆนำไปใช้ในการลงทุนได้อีกด้วย หนังจีนเรื่องนี้ชื่อเรื่อง  A Battle of Wits (มหาบุรุษกู้แผ่นดิน) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำสงครามที่ไม่ได้เน้นที่การรบแบบบู๊ระห่ำ แต่เน้นไปที่กลอุบาย กลศึก แบบพิชัยยุทธจีน ที่แสนจะเลื่องลือ A Battle of Wits หรือ มหาบุรุษกู้แผ่นดิน เข้าฉายในตอนปี 2006 เป็นหนังจีนฟอร์มยักษ์ที่นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว เรื่องราวของการทำสงครามสมัย 370 ก่อน คริตศักราช ระหว่างแคว้นจ้าวและแคว้นเหลี่ยง โดยแคว้นเจ้าเป็นแคว้นใหญ่ตั้งใจจะยกพลไปทำศึกจึงต้องผ่าน แคว้นเหลี่ยงจึงเสนอทางเลือกให้กับแคว้นเหลี่ยง 2 ทางคือการ ทำศึก กับ การยอมสยบ แน่นอนว่า กษัตริย์ของแคว้นเหลี่ยงกลัวที่จะถูกฆ่า จึงไม่ต้องการยอมแพ้ และได้เลือกใช้บริการของ "เก้อหลี่" ศิษย์เอกสำนัก ม่อจื้อ ผู้ที่ชำนาญด้านกลศึกและปรัชญา ชายคนนี้มีแนวคิดตามแบบ ม่อจื้อ คือรักสันติ มีความรักให้กับประชาชนทุกวรรณะ ไม่แบ่งชนชั้น  เนื้อเรื่องดำเนินได้สนุก เก้อหลี่ต้องนำทัพเหลี่ยงที่มีทหารไม่ถึงหมื่

ปีหน้าฟ้าใหม่

ปีใหม่กลายเป็นเทศกาลที่พิเศษ เมื่อเรามีโอกาสที่ได้หยุดอยู่กับที่ได้ออกจากวงจรการทำงานประจำ ซ้ำๆเดิมๆเหมือนดังเช่นที่ผ่านมาตลอดปี ได้มีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว หรือบางคนเลือกใช้เวลานี้กับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมบรรยากาศที่แตกต่างไปจากทุกวันในรอบปี แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมคือการใช้เวลาวันหยุดในการอยู่กับตัวเองทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในปีที่แล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนก้าวเดินต่อไปในอนาคต วิธีหนึ่งคือการเจริญมรณสติ แบบที่คุณสตีฟ จ๊อป ศาสดาแห่ง Apple ทำเป็นประจำ ด้วยการสนทนากับเสียงข้างในจิตใจของตนเอง โดยตั้งคำถามถามตัวเองว่า "ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเขา เขาจะยังคงต้องการทำสิ่งที่กาลังจะทำในวันนี้หรือไม่" ถ้าหากคำตอบเป็น “ไม่” ติดๆ กันหลายวัน แน่นอนว่าเขาก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลง ผมว่าแนวคิดนี้ค่อนข้างดีมาก และนำมาประยุกต์ได้หลายหลาย ทั้งในเรื่องการทำงาน การเรียน ความรัก และการลงทุน  โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน การลงทุนไม่ว่าจะแนว VI หรือ VS ล้วนแต่ต้องอาศัยความเชื่อในการลงทุนทั้งนั้น เชื่อในระบบ เชื่อในวิถีทาง และเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถสุดโต

ถ้ารู้(กู)รวยไปแล้ว

ช่วงนี้ตลาดหุ้นบ้านเราดูเหมือนจะออกแนวอินดี้นอกกรอบ ทำตัวแบบเด็กวัยรุ่น 16 17 หัวขบถนิดๆไม่ค่อยตามใคร สังเกตได้จากการที่ข่าวความวิตกเรื่องปัญหาหนี้สินยุโรปออกมาเป็นทิวแถว แต่ SET ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนนิ่งเฉย นิ่งเตะไม่ไหวติงไม่ออกอาการลง(แดง) แบบตลาดรอบโลก ล่าสุดแม้ดาวน์โจนแดงต่อเนื่อง ก่อนจะลบไปเกือบสองร้อยจุดกว่า เล่นเอาหลายคนคิดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ไม่รอดสงสัย บ้างก็ว่าเม่าตายแน่ทุบแน่ทุบแล้ววันนี้(24-11-2011) ผลปรากฏว่าหุ้นไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก นอกจากไม่ลบแล้วปิดบวกหน้าตาเฉย  ประเด็นที่เขียนมาในตอนต้นไม่ได้บอกนะครับว่า ตลาดบ้านเราจะขึ้นต่อเนื่อง(ผมก็ไม่รู้และไม่คิดจะไปเดา) แต่แค่อยากสะท้อนว่าตลาดหุ้นมันเป็นอะไรที่ยากจะเดา การจับเอาข้อมูล ข่าว เอาตัวเลขต่างๆมาร่วมกันทำนาย พยากรณ์(เดา) อนาคตมันยากจะที่ถูก โดยเฉพาะคนที่ชอบนำเรื่องนี้ไปเล่นในตลาด TFEX ผมเห็นเจ็บหนักกันถ้วนทั่ว เพราะความรู้สึกมันขัดกับสิ่งเกิดขึ้น ยิ่งมีอคติ(Bias)ไปปนกันข้อมูลที่เขาฉีดมาให้เราเสพ ผลก็คือเรายิ่งเดาไปในทางที่เราต้องการ ผมมีเรื่องสนุกๆสไตล์ชาวบ้านมาเล่าให้ฟัง มีลุงคนหนึ่ง ชื่อ ดำ ที่เชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่ง