ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เครดิตภาษีเงินปันผล ผลประโยชน์ที่ถูกมองข้าม

กำลังจัดทำการวิเคราะห์ผลตอบแทนหุ้นปันผลในพอร์ตระยะยาวอยู่ เลยต้องมีการคำนวนเครดิตภาษี ผมว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่เราต้องตระหนักถึงเช่นกัน เพราะถึงแม้จะเจอหุ้นปันผลที่ดีแล้ว การศึกษาถึงสิทธิของเครดิตภาษีก็เป็นเรื่องจำเป็นไม่น้อย ผมขอนำบทความของ คุณ ธันวา เลาหศิริวงศ์ จาก ThaiVI มาแนะนำเพื่อศึกษาเพิ่มเติมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจกับเรื่องการเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลไม่มากนัก ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัทที่ทำงานประจำได้คำนวณภาษีจากฐานเงินได้สุทธิและนำภาษีที่หัก ณ. ที่จ่าย ส่งกรมสรรพกรเป็นประจำทุกเดือน สิ่งที่ทำก็คือการกรอกรายละเอียดให้ถูกต้องและยื่นแบบการเสียภาษีให้ทันช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกๆ ปี การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ value investor นั้น นอกจากการลงทุนในกิจการที่เห็นว่าต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานเพื่อหวังส่วนต่างของราคาหุ้นในระยะยาวแล้ว เงินปันผลก็เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าให้ความสำคัญอย่างมาก ช่วงเดือนเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่นักลงทุนมีความสุขกันทั่วหน้า เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้ทยอยส่งเช็คเงินปันผลมาให้ผู้ถือหุ้นทุกคนถึงบ้าน ทั้งนี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอ

เทคนิคเดยเทรด :กลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย 2

หัวใจของกลยุทธ เรื่องของกลยุทธการลงทุนที่ผมขอแชร์เทคนิคที่ตัวเองใช้ในการลงทุนแบบ Day Trade คือกลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย หลักการใหญ่ใจความคือ การกินทีละน้อยหรือตอดกินเพื่อไม่ไปทำลายเกมส์ของรายใหญ่ เราต้องเข้าใจก่อนว่าหุ้น Day Trade มันวิ่งได้เพราะมีคนคุมเกมส์การซื้อ ขาย การที่เราโลภอยากได้มาก ลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก(ไม่มากถึงรายใหญ่ แต่ก็มากพอจะตบหมดช่อง) มันทำให้เกมส์และการคุมจังหวะของรายใหญ่เสียไป  แน่นอนว่าคนที่คุมเกมส์จะมี Bid offer ที่เขาวางไว้ ดังนั้นเราต้องให้เกียติร์คือเล่นไปตามเทรนด์ กินตามรายใหญ่ อย่าทำอะไรที่ไปขัดใจ หรือโดนจับได้เพราะแทนที่จะได้เราอาจจะเสียและโดนเล่นงานโทษฐานไปขย่มเกมส์ของคนอื่น อีกประเด็นของกลยุทธนี้คือ การสอนให้เรารู้จักพอกินคำเล็ก ไม่ละโมบเพราะเหยื่อที่รายใหญ่ใช้ตกปลาในเกมส์นี้คือความโลภ ถ้าเราไม่โลภกินพองามเราจะอิ่ม แต่ถ้าละโมบกินเยอะเราจะจุกและตาย ยกตัวอย่างเช่นหุ้นปกติถ้ามีการไล่ราคาให้บวกไปถึง 10% ในหนึ่งวัน ถ้าเราเล่นตามกลยุทธนี้ควรจะอิ่มและลงตั้งแต่ 6% แล้ว ถึงแม้จะปล่อยให้ Profit run ได้แต่ต้องไม่ลืมว่านี้คือเกมส์ระหว่างวัน มันมีโอกาสที่หุ้นจะลง

เทคนิคเดยเทรด :กลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย 1

หลายคนมักถามผมว่า ผมเป็นนักลงทุนประเภทไหน? จริงๆแล้วผมเองไม่เคยคิดจำแนกหรือจำกัดวิธีการลงทุนของตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าทุกแบบย่อมมีทั้งข้อดี และข้อด้อยเสมอ การที่เราพยายามจะจำแนกตนเองด้วยอุดมการณ์หรือความเชื่อที่มีอคติ บางครั้งมันก็เป็นอุปสรรค์ในการเดินทางไปถึงเป้าหมายได้เช่นกัน โดยเฉพาะการสูญเสียโอกาส การเป็นนักลงทุนจะเป็นประเภทไหนไม่สำคัญ เท่ากับการเข้าใจถึงแก่นหรือปรัชญาการลงทุนในประเภทนั้นๆ เพราะการเข้าใจอย่างแท้จริงจะทำให้เราประยุกต์ใช้หลักการลงทุนในรูปแบบต่างๆ นำจุดแข็งมาใช้ในสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม ผมเองคงเป็น VSOP ตามนิยามของพี่คลายเครียด เพราะผมเองชื่นชอบความเป็ นเหตุเป็นผลของการลงทุนระยะยาวแบบเน้นคุณค่า(นำเอาข้อได้เปรียบของการลงทุนนี้มาใช้ช่วงตลาดขาลง) และก็นิยมการสร้างผลตอบแทนแบบเพิ่มพูนจากการลงทุนแบบเก็งกำไร (นำเอาข้อได้เปรียบของการลงทุนนี้มาใช้ช่วงตลาดขาขึ้นและออกข้าง) ซึ่งสามารถจำกัดความเสี่ยงได้จากการบริหารจัดการเงินทุน ดังนั้นการจัดพอร์ตการลงทุนของผมจึงผสมผสานการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวแบบสมานฉันท์กลมเกลียว โดยนำกำไรจากการเก็งกำไร มาลงทุนระยะยาวแบบเน้นมูลค่า ทำให้เกิ

บทเรียนของปีเก่า

กลิ่นของปีใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ผมชอบบรรยากาศปลายปีแบบนี้จัง อากาศเย็น บรรยากาศของความสุข สนุกสนานของงานเลี้ยง และวันหยุดยาว ผู้คนต่างจับจ่ายซื้อของขวัญให้กัน บางคนเตรียมตัวสำหรับเดินทางไกลไปท่องเที่ยวหรือกลับบ้านที่ต่างจังหวัด  ผมเชื่อว่าหลายอาชีพสัปดาห์นี้คงจะไม่มีกระจิตกระใจทำงานกันแล้ว จิตใจคงจดจ่ออยู่กับวันหยุดและการฉลองเทศกาลปีใหม่มากกว่า รวมถึงอาชีพนักลงทุน บรรยากาศของตลาดหุ้นช่วงสัปดาห์นี้ก็เงียบเหงา มีสลับตื่นเต้นบ้างบางวัน แต่โดยรวมความคึกคักก็หายไปมาก ที่น่าชมเชยคงจะเป็นหุ้นเล็ก หุ้นมีของขยันวิ่งกันมากมายทุกวัน ทำเอาคอเดยเทรดไม่มีเบื่อกันเลย แท้จริงแล้ว ชีวิตเราก็คือการลงทุน พ่อแม่ลงทุนในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาลูก, ทำบุญก็คือรูปแบบของการลงทุนเพื่อจะให้ได้ไปสวรรค์ เป็นต้น สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการลงทุนนั้นคือ "ความคาดหวัง" เมื่อมีความคาดหวังย่อมมีทั้ง สมหวัง และ ผิดหวัง ควบคู่กัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมีสติและเรียนรู้จากความผิดหวังเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง เพื่อไปสู่เป้าหมายตามที่คาดหวังไว้ การลงทุนในตลาดหุ้นสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ก

ติดอาวุธให้นักรบกองทุน

นอกจากจะลงทุนในหุ้นแล้ว ผมมีพอร์ตการลงทุนในกองทุน โดยบริหารการลงทุนให้กับเงินของครอบครัว มิใช่ว่าเชื่อใจในฝีมือของ Fund manager แต่อย่างใด แต่ที่ใช้บริการเพราะว่าสะดวกกว่าการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าระยะยาว เพราะสามารถดึงเงินกลับได้ทุกเวลา และปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นเก็งกำไร ซึ่งเหมาะกับเงินของครอบครัวที่รับความเสี่ยงได้จำกัด แน่นอนว่าผมทำการซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมพวก Passive Fund ที่อ้างอิงราคากับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แบบลูกค้าทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำก็คือเอาการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้นเข้ามาใช้ โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลดัชนี เพื่อประกอบการกำหนดจังหวะการซื้อ ขายหน่วยลงทุน โดยเป้าหมายการลงทุนของผมก็คือที่ปีละ 20% ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป การวางเป้าหมายแบบสบายๆจะทำให้เราไม่ต้องไปเสี่ยงและเร่งรัดกับแผนการลงทุนจนมากไป ผมขอแบ่งปันเทคนิคเบื้องต้นในการวิเคราะห์แนวโน้มของดัชนี สำหรับการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน นั้นก็คือการใช้ค่าเฉลี่ย EMA5 และ EMA10 มาช่วยกำหนดจังหวะการซื้อ ขาย หน่วยลงทุน เนื่องด้วยราคาของหน่วยลงทุนนั้นจะเคลื่อนที่อิงอยู่กับดัชนีของตลาด ดังนั้นแนวโน้มของดัชนี SET ก็จะเป็นแน

"จอร์จ ตัน" เซียนเหนือเซียน

ชอบบทความนี้ครับ พอได้อ่านแล้วอยากนำมาเก็บไว้ ผมว่ามันทำให้เราตาสว่างและได้มีโอกาสเห็นในมุมของรายใหญ่บ้าง จริงเท็จแค่ไหนตอบไม่ได้ครับ แต่ก็ฟังหูไว้หูบ้างก็ไม่เสียหาย -------------------------------------------------------- ตอน..กลยุทธ์หักเหลี่ยมโค่น "เซียน" ที่มา: Bangkok Biznews "จอร์จ ตัน" คือชื่อที่ "เอกยุทธ อัญชันบุตร" โด่งดังในมาเลเซีย และสิงคโปร์ ในฐานะมือบริหาร "เฮดจ์ฟันด์" (กองทุนบริหารความเสี่ยง) มือฉกาจ ที่เล่นกับความเสี่ยงทุกชนิด ทั้งหุ้น ค่าเงิน และความผันผวนของราคาน้ำมัน "ผมเล่นหุ้นทั่วโลกเล่นมาเป็น 10 ปีแล้ว" เอกยุทธให้คำนิยามตัวเองว่าเป็น ?นักธุรกิจ? ที่แสวงหาโอกาสจากความเสี่ยง และผลกำไร ที่มาเลเซีย และสิงคโปร์ เขาบอกว่าเพื่อนๆ จะให้เกียรติเรียกว่า "ไต่กอ" หรือ ?Big Brother? ภาษาไทยแปลว่า?พี่ใหญ่? "เพื่อนฝูงผมเยอะมากทุกวงการจนบางคนเขามองผมว่าเป็น "มาเฟีย? ถ้าคุณไป สิงคโปร์ มาเลเซีย วันนี้ไปถามชื่อผมว่า "จอร์จ ตัน? เมืองไทย นักธุรกิจทุกคนรู้จักผม ไม่มีทางลืมชื่อผม? เอกยุทธกล่าวด้วยความมั่นใจ เอกยุท