ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ขาดทุนเพราะอะไร???

คำว่าขาดทุนดูจะเป็นคำแสลงของนักลงทุนเก็งกำไรแทบทุกคน เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดการขาดทุนเป็นแน่แท้ แต่การลงทุนไม่ว่าจะสั้นหรือยาว อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่สามารถล่วงรู้ทุกสิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้าได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องยอมรับกับคำว่าขาดทุน เหนือสิ่งอื่นใดเราจำเป็นต้องรู้จักความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขาดทุน และเรียนรู้ที่จะหาวิธีควบคุมการขาดทุนไม่ให้เกิดบานปลาย เสียหายใหญ่โตต่อเงินลงทุนของเราเอง ถ้าถามว่าทำยังไงให้ไม่ขาดทุน อาจจะพบว่าคำตอบคือเป็นไปได้ยาก ไม่มีการลงทุนไหนที่จะเชื่อมั่นได้ 100% ทุกอย่างในโลกการลงทุนผมว่ามันเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น การลงทุนเก็งกำไรในจังหวะที่ความน่าจะเป็นที่จะชนะสูง ย่อมหมายถึงโอกาสที่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นดังเราหวังได้เช่นกัน พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงหนังเรื่อง limitless ที่พระเอกเป็นนักเขียนธรรมดาที่ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จ สมองตีบตันขาดไอเดียและขาดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน พอได้ไปกิน NZT ยาที่ทำให้คุณกลายเป็นอัจริยะข้ามคืน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ 100% ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดาย เช่

Thaitrade2014 Contest C2

ทำเล่นให้เป็นจริง

ผมว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในยุคที่มีทีวีสีใช้งาน ย่อมโตมาพร้อมกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ทั้งรูปแบบเครื่อง แฟมมิค่อม เครื่องซุปเปอร์ เกมส์บอย เกมส์เพลย์สเตชั่น เอ็กบ๊อค  เป็นต้น เกมส์เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้ชาย ผูกผันสนุกไปกับมัน ระหว่างกลุ่มเพื่อน รวมไปถึงการมีวันที่ดีกับกิจกรรมการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ แต่เมื่ออายุอานามมากขึ้น ภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบมากขึ้น เด็กผู้ชาย กลายเป็นผู้ใหญ่เราก็เริ่มจะออกห่างจากมัน ไปสู่โลกของการดำรงชีวิตจริง การมีครอบครัว ทำงานหาเงิน และอื่นๆ  จะมีใครสักกี่คนที่จะคิดว่าเราสามารถทำงานหาเงิน สร้างฐานะรวยเป็นเศรษฐีจากเกมส์คอมพิวเตอร์ได้บ้าง ผมว่าในโลกนี้คงมีไม่มากนัก ผมมีเรื่องราวการประกอบธุรกิจที่น่าสนใจ ของชายหนุ่มผู้รักในการเล่นเกมส์ และเดินตามฝันจนมาถึงความสำเร็จมาฝากกัน วันนี้ถ้าเอ่ยชื่อเกมส์ "Draw Something" เกมส์ยอดฮิตบนโซเซียลมีเดียแบบเฟสบุ๊คและบนโทรศัพท์มือถือบนระบบแอนดรอยด์ และไอโฟน(ระบบ IOS) หลายคนคงรู้จัก เกมส์ที่ให้ผู้เล่นวาดรูปแบบสเก็ต ตามคำศัพท์และแชร์ให้เพื่อนๆเข้ามาเดาว่าเป็นรูปอะไร โดยมีตัวอักษรแบบสุ่มมาเป็นคำใบ้ให้ ความสนุกมันอยู่ที่ไ

ชนะอย่างไม่เสี่ยงเกินตัว

คำเปรียบเปรยเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ได้พบได้บ่อยที่สุดคือ "ตลาดหุ้น" เปรียบเหมือนกับ "สนามรบ" เพราะความน่ากลัว ความร้ายกาจของคนที่คอยจ้องจะทำกำไรจากเงินลงทุนของผู้อื่น อยู่ทุกเวลา ตลาดหุ้น มีการแข่งขันทำกำไรด้วยเม็ดเงินมหาศาล มีกลยุทธเทคนิคและรูปแบบการเอาชนะที่หลายหลาย มีคู่แข่งขันทั้งรายใหญ่ สถาบัน กองทุน กองทุนต่างชาติ และนักลงทุนรายย่อย ที่ล้วนแต่จ้องจะทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นในสนามแห่งนี้ แต่จริงๆแล้วคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดนั้นไม่ใช่อื่นใด แต่เป็นตัวของเราเอง เริ่มเข้ามาในตลาดส่วนใหญ่ทุกคนล้วน เข้ามาเพื่อการแสวงหากำไร ด้วยความคิดที่ว่าจะต้องเข้ามาทำกำไรจากส่วนต่างราคาของหุ้น ดังนั้นภาพของแมงเม่าในตลาดหุ้น จะเหมือนกันคือ พยายามวิ่งหาหุ้นเด่น สแกนหา หรือไม่ก็รอกูรู ผู้รู้มาชี้ทาง ให้จากนั้นก็แห่กันเข้าไปไล่ซื้อ หวังทำกำไร แต่ผลลัพธ์มันไม่สุขสมอารมณ์หมาย แบบในนิยายสามเล่มร้อย มิเช่นนั้นคนร้อยละ 80 ในตลาดหุ้นคงกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านกันไปหมดแล้ว แต่ส่วนใหญ่ในโลกของการเก็งกำไร แมงเม่ากับขาดทุน ล้มหายตายจาก โทษดินโทษฟ้า โทษเจ้ามือ โทษคนอื่นที่ทำให้ต้องขาดทุน หรือไม่ก็จัดหาก

แพ้ให้ได้ ผิดให้เป็น

ธรรมชาติของมนุษย์เราทุกคนย่อมต้องการเป็นที่ยอมรับ แน่นอนว่าการจะเป็นที่ยอมรับ และมีความน่าเชื่อถือได้นั้น ความคิดและการตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญ เรามักพึงพอใจกับผลการตัดสินใจที่ "ถูก" มากกว่า "ผิด" เพราะเมื่อเราเป็นคนถูกนั้นหมายถึงสภาวะทางจิตใจได้ถูกตอบสนองทางบวก สภาวะทางอารมณ์ก็อิ่มเอมเปรมปีร์ ตามมาด้วย ความสุขความสมหวัง แต่ตะกอนตกค้างจากทางจิตที่เราได้รับก็คือ "อัตตา" หรือการเกิดของตัวตนจากการยึดติดในความคิด ยึดติดในการตัดสินใจที่ต้องถูกต้องเสมอ  ไม่ใช้เรื่องแปลกเพราะถ้าย้อนกลับไปดูที่ระบบการศึกษา และการเลี้ยงดูส่วนใหญ่เราถูกเลี้ยงดูและปลูกฝั่งให้เป็นคนที่มีความฉลาด เป็นคนเก่ง โดยถูกสอนให้รอบคอบให้ตัดสินใจให้ดีและถูกต้อง ประกอบกับการให้รางวัลหรือคำชมเมื่อเรา "ถูก" และทำให้ได้เป็นที่ยอมรับในคนรอบข้าง มันจึงทำให้พื้นฐานความคิดและจิตใจของเรา ชอบเป็นคนที่ "ถูกต้องเสมอ" เกือบในทุกเรื่อง แย่ที่สุดถึงแม้จะผิดเราก็มักจะหาเรื่องกลบเกลื่อนหรือประเด็นที่มาบิดบังความผิด แก้ตัวหรือโบ้ยให้เป็นแพะรับบาปกันไป ซึ่งนั่นคือกลไกการปกป้องตัวเองโดยอัตโนมัติ

10 Golden Trading Rules

ถ้าจัดกลุ่มคำถามจากอีเมลที่เพื่อนๆส่งเข้ามาถาม คำถามกลุ่มใหญ่ที่พบมากที่สุด คือการขอ"เคล็ดลับการเล่นหุ้น" จับอารมณ์ได้ว่าหลายคนที่พยายามเข้ามาในตลาดหุ้นเก็งกำไร ด้วยความคิดผิดๆที่โดนเป่าหูว่ามันคือตู้ ATM ที่สามารถเข้ามากดเงินออกไปได้ แต่พอได้ลิ้มรสความจริงได้ ลองขาดทุนจริง เจ็บจริงก็ได้รู้ซึ่งว่ามันไม่ง่ายแบบที่เขาโฆษณา ผมค่อนข้างเป็นห่วง นักเก็งกำไรหน้าใหม่ที่อาจจะหลงกับความหอมหวานของกลิ่นเงิน จนทำให้หน้ามืดตามั่วลงทุนไปด้วยความโลภ สุดท้ายแล้วเมื่อหมดตัวก็ต้องล้มหายตายจากไป นึกถึงคำลุงฉโลกที่เปรียบคนที่ประมาทคิดแต่จะหากำไร เหมือนดั่งกับการเข้าไปเดินเล่นในกรงเสือ เมื่อถามถึงเคล็ดลับ ผมก็มีเคล็ดลับมาฝากกัน เป็นเคล็ดลับการลงทุน เรียกว่ากฏทองคำ 10 ข้อของเทรดเดอร์ โดยคุณ Adam Hewison ซึ่งเป็นเซียน forex trader ,ผู้จัดการ hedge fund และเป็นที่ปรึกษาการเก็งกำไรในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหาร INO.com เว็บไซต์ลงทุน futures และ Option แบบออนไลน์ในหลายประเทศทั่วโลก กฏทองคำ 10 ข้อที่ว่านี้ค่อนข้างน่าสนใจ ผมเลยขอสรุปจาก คลิปวีดีโอที่คุณ  Adam Hewiso n บรรย

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนลาออกครั้งสุดท้าย

ทุกวันนี้การใช้ชีวิตของคนในกรุงเทพก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปัญหาเรื่องสภาวะสิ่งแวดล้อม สภาพสังคม และเรื่องค่าครองชีพ แต่ด้วยค่านิยมของคนต่างจังหวัด ที่เรียนจบต้องมาหางานทำในกรุงเทพเพียงเพราะรายได้ดี มีตำแหน่งงานเยอะ จึงทำให้ต้องจำทนยอมรับสภาพชนชั้นกลางบนระบบสังคมแบบทุนนิยม ที่แน่นอนว่าความสุข อาจจะเป็นเรื่องที่หายาก พอๆกับการงมเข็มในมหาสมุทร ผมเองก็เป็นคนต่างจังหวัด ตอนเด็กก็เกิดมาวิ่งเล่นตามท้องนา ตามร่องสวน เสาร์ อาทิตย์ก็ไปทำบุญที่วัด วิถีชีวิตก็เป็นแบบคนต่างจังหวัด สนุกสนานและพึ่งพากันในหมู่บ้าน แต่พอเริ่มเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย ชีวิตก็เปลี่ยนเพราะต้องเข้ามาใช้ชีวิตแบบคนเมืองหลวง เรียนจบก็ทำงานในกรุงเทพ ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆทั่วไป รีบตื่น รีบกิน รีบทำงาน รีบนอน ทำงานหนักเพื่อเงินดีๆ ต้องต่อสู้ดิ้นรนรับใช้เจ้านาย เพียงเพื่อหวังความก้าวหน้า หวังเงินเดือนตอบแทน ทุกวันพอกลับบ้านหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย  กลางดึกคืนหนึ่งที่ผมกลับจากงานศพรุ่นพี่ซึ่่งตายเพราะโรคมะเร็งทั้งที่อายุมากกว่าผมแค่ 9 ปี พี่คนนี้เป็นคนทำงานเก่งมีบ้านหลังใหญ่ มีรถ มีครอบครัว แต่ความไม่แน่นอนก็พรากทุกอย่างไปแบบ