ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Jessica Alba กับบทบาทใหม่นักธุรกิจพันล้าน

Jessica Alba เป็นผู้หญิงสวยและเก่งจริงๆ ล่าสุดบริษัท startup ของเธอ กำลังเข้าตลาดหุ้น มูลค่าระดับพันล้าน เ ธอกับหุ้นส่วนร่วมสร้าง  The Honest ธุรกิจขายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เพื่อสุขภาพแบบออร์แกนิค ประเภท nontoxic product มีสินค้ากว่า 120 รายการ สำหรับเด็กและผู้หญิง ใช้ organic cotton และ plant-based polymer รวมถึงบรรจุด้วย bio-plastic ไอเดียแรงบันดาลใจ เธอบอกว่าได้มาจากตอนมีลูก แล้วเกิดแพ้ สินค้า่ทั่วไปที่มีสารเคมีปน และเกิดเป็นพิษ Honest เป็นสินค้าแพง เพื่อสุขภาพ ที่จับกลุ่มตลา ดบนและทำได้ผล จากการปั้นแบรนด์ ด้วยชือ่เสียงของเธอเองด้วย ล่าสุดทำยอดขายได้มากถึง $150 million เติบโตสามเท่าตัวจากปีก่อนหน้า แน่นอนว่าเมื่อโต ก็เป็นที่ต้องตาของ wallstreet ล่าสุดกำลังเข้าทำ IPO เพื่อระดมเงินขยายกิจการและบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดกันว่าจะมีมูลค่าบริษัทระดับพันล้านเลยทีเดียว  คนไทยเคยคุ้นตาผลงานของเธอจาก สาว F4 คนก่อนที่สวย ดุ และเซ็กซี่ วันนี้เธอก้าวไปอีกขั้นในบทบาท ใหม่ที่ ไม่ธรรมดาเลยกับเส้นทางของดาราสาวคนนี้  อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.marketwatch.com/story/jessica-alba-t

Oil Oil Oil

น้ำมันกับจุดต่ำสุดใหม่รอบ 6 ปี น้ำมันสเน่ห์อย่างหนึ่งคือ มันคาดเดาไม่ค่อยได้ แต่คนก็พยายามไปคาดเดา พยายามจับ logic ต่างๆมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายเชื่อว่าขึ้น และฝ่ายเชื่อว่าลง ก็มีเหตุผลมาสนับสนุนการเดาของตัวเอง ถ้าจำกันได้รอบแรกของการร่วงลงมาของราคา สื่อใหญ่ระดับโลก เสนอว่าเป็นเกมส์ของอเมริกากับซาอุ กดดัน IS(ผู้ก่อการร้าย) ที่ยึดบ่อน้ำมันในอิรักและแอบขายน้ำมัน บวกกับกดดันรัสเซียและอิร่าน คือเรื่องราวเล่นข่าวกันมาหลายวัน น่าเชือ่ถือมาก มารอบนี้ เฮ้ย ทำไมกลายเป็น ซาอุ ท ำสงครามราคาน้ำมัน แพ้อเมริกา ไปซะแล้ว ในเมื่อรอบแรกจาก $100 มา $45 ข่าวยังเขียน กูรูยังออกมาบอกว่าเป็นเกมส์สมคบคิด เพื่อร่วมกันถล่มรัสเซียและอิหร่าน อยู่เลย ยิ่งตามยิ่งสนุก เพราะเราจะมี story ให้เสพเรื่อยๆ เหมือนผมเขียนบทความให้อ่านก่อนว่า story is everything มันเป็นตัวกระตุ้นความโลภ ความกลัว และการมโนของคน ตอนนี้คนเห็นน้ำมันลงมาแถว 45 ก็เริ่มออกมา bullish divergence กันอีกแล้ว(คือหาอะไรมันมา divergence ได้เรื่อย ไม่มี timeframe ใหญ่ก็ไปเอาสัญญาณใน timeframe เล็กมาเดา มาสนับสนุนความคิด) แต

Trader Book Club โปรเจคล่าสุดของ cway

ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เพราะผมเชื่อว่าการอ่าน จะทำให้เราได้เปิดโลก เมื่อพบมาเห็นมาก ทำความเข้าใจได้มาก มันนำมาซึ่งปัญญา ปัญญา จะช่วยให้ เราตัดสินใจ วางแผน แล้วนำไปสู่การปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น ในต่างประเทศ มีหนังสือดีๆเกี่ยวกับการเทรดมากมาย เป็น ร้อยเล่ม (เยอะจริงๆ) หนังสือที่เป็นหนังสือจริงๆ ที่ผู้เขียนลงมือทำงาน หารวบรวมข้อมู, รวมถึงการวิจัย ต่างๆมาถ่ายทอด ไม่ใช่หนังสือ ที่เน้นการสอนให้รวยเร็วๆ หรือสร้างความยากรวย ให้กับ เทรดเดอร์เพียงอย่างเดียว แต่แน่นอนว่า ภาษา อังกฤษ คืออุปสรรค ใหญ่ ทำให้การอ่าน Text book ดีๆ กลายเป็นเรื่องยาก และ ไม่สนุก แถมกว่าจะอ่านจบ บางทีใช้เวลาเป้นหลายเดือน (ยังไม่นับอุปสรรคเรื่องการตีความ ที่ต้องอาศัยประสบการณ์เสริม) ผมเลยคิดอยากลอง จัดรายการ Trader Book Club ขึ้นมาใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ในช่วงวันจันทร์ 20.00 เนื้อหาสาระ ก็จะนำหนังสือดีๆ มาแนะนำ แล้วจับเอาหัวข้อ เกี่ยวกับการเทรด ด้านต่างๆ เช่น mindset , Technical analysis , trading system , money management psychology และ อื่นๆ ลองแวะเข้าไปขม EP01  The mental strategies of top trader เข้าชมย้อนหลังได

pay-per-minute café

อ่านบทความนี้จาก manager แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ แนวคิด pay-per-minute café การทำร้านกาแฟ ที่เก็บเงินตามเวลาที่นั่ง ลองไป google ดูเจอเยอะเลยในต่างประเทศ เช่น Ziferblat เปิดหลายสาขาที่ในยุโรป หลายอย่างฟรี กาแฟถูกคิด £2.25 เมื่อเลย 15 นาที จะเริ่มคิดค่าบริการตามเวลาที่ลูกค้ามาอยู่ในร้าน การนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ฟังเพลง(ร้านมีแผ่นเสียงบริการด้วย) ใช้ wifi เขาพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจ ทำให้คนอยากนั่งนานๆ ส่วนตัวผมว่าร้านกาแฟ ไม่เหมาะกับการทำงานเท่าไหร่นะ เพราะมันไม่นิ่ง และบางร้านพลุกพล่านมาก ทำให้สมาธิ เกิดยาก งาน focus อาจจะไม่ค่อยเหมาะ แต่ถ้าชอบความไดนามิก หรือใช้ติดต่องาน ผมว่าน่าจะดี ปัจจุบันร้านกาแฟ ส่วนใหญ่คิดค่าเวลา ร่วมไปในกาแฟ อยู่แล้ว เพราะขายกันแก้วละ 50 บาท ขึ้นไปถึงหลักร้อย คนนั่งแช่นานๆ มีอยู่จริง แต่จำนวนไม่น้อยกลายเป็น ขาประจำ ที่อยากมา พักผ่อน มานั่งชิว ไม่ต้องเร่งรีบ เมื่อเขาพอใจ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะจ่ายต่อเนื่องระยะยาวให้ ร้านกาแฟ แถมได้ความผูกพัน ได้ลูกค้าที่ภักดีเพิ่มไปอีก อนาคต ถ้าร้านกาแฟ เก็บเงินค่านั่ง เป็นตามช่วงเวลาการใช้งาน อาจจะทำให้ ความถูก และความสะดวก หมดลง

Yuan effect

สรุปความจาก BloomBerg มากให้อ่านกัน การจีนเริ่มโยนหินถามทางด้วยการลดค่าเงิน Yuan ของตัวเองลงที่ 1.9%(ตรงนี้เหมือนจุดเริ่มต้นเท่านั้นเพื่อดูว่าจะมีผลอะไรตามมา) ทางนักวิเคราะห์ต่างชาติของค่ายใหญ่ๆเขาก็พากันมองหา ผลกระทบด้านบวกและลบ ที่จะเกิดขึ้น  ** ล่าสุดมีการลดลงมาเพิ่มรอบที่สอง จากวันแรก รวมแล้ว 4% จากค่ากลาง ด้านลบ 1.กลุ่มธุรกิจของจีน ที่มีหนี้เป็น US dollar ต้นทุนการชำระหนี้ก็จะสูงขึ้น อันนี้เมื่อวานเห็นชัดจากการร่วงลงของราคาหุ้นในบริษัทใหญ่ หรือ สายการบิน 2. กลุ่มธุรกิจ ที่ส่งสินค้าไปขายยังจีน จับจีนเป็นตลาดใหญ่ เช่น luxury car รวมไปถึงสินค้าแบนด์เนม  จากยุโรปต่างๆ ที่แน่นอนว่า ราคา ย่อมสูงขึ้น อาจจะมีผลกระทบยอดขายในจีน กลุ่มนี้ยุโรปส่งสินค้าไปขายในจีนมากที่สุด หลายบริษัทที่มีรายได้จากฐานลูกค้าในจีน ก็คงหนีไม่พ้นผลกระทบที่จะตามมา 3. ราคาคอมโมดิตี้ เช่นกลุ่มเหล็ก หยวนอ่อน กระทบต้นทุนการนำเข้า มีโอกาสที่ ความต้องการซื้อสินค้านำเข้า จะลดลง เมื่อวานกลุ่มเหล็ก อย่างเช่นบริษัท Vale SA บริษัทผลิตเหล็ก ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลง  5.7 เพราะมีฐานลูกค้ามาจากจีนถึง 37%ของรา

Commodity trader

สัปดาห์ล่าสุดจาก cwayinvestment channel สัปดาห์นี้มาพบกับเซียน commodity trader ชื่อดังอย่าง Larry Williams ผมชอบความที่ชายคนนี้ไม่ได้เป็นเทรดเดอร์ธรรมดา แต่เขายังเป็นนักวิจัยและนักทดลอง ที่สรา้งเครื่องมือเทคนิคอล รุ่นใหม่ ให้่เทรดเดอร์รุ่นหลังได้ใช้งานหลายตัว - ประวัติ เส้นทางสายอาชีพ - แนวคิดสำคัญของการเทรด - เคล็ดลับการเทรด (Trend following) - money management และการบริหารอารมณ์ - E = Mc2 กับ emotion control - Trend and Gravity - R&D - William %R - synthetic VIX (William VIX FIX) รับชมได้ฟรี ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ut-c_Sp4iM0

Quantum Physic for Trading

ต่อจากเรื่อง modelling ที่ผมบรรยายเกี่ยวกับ jame simons นี่นะครับ ที่ผมเล่าให้ฟัง หัวข้อวิจัยที่ผมเคยไปเรียนจากเพื่อนเทรดเดอร์คนหนึ่งที่รู้จักกันในเว็บบอร์ด พูดเรื่องนี้ เหมือนว่าสาย Quant เขาพัฒนาอะไรไปไกลเยอะมาก มากกว่ากราฟเทคนิคอลธรรมดา ที่เอามานั่งลากเป้า เดาคลื่น ดูเส้นตัดกันเยอะมาก อันนี้ความรู้ที่ถอดเป็นหนังสือแล้วนะ แปลว่ามันเป็น common knowledge แล้ว เราอาจจะยังไปไม่ถึงครึ่งที่เขาถ่ายทอดในกลุ่มเขาเลย ศาสตร์การเก็งกำไรพวกนี้อยู่ใน Lab กลุ่มเฉพาะ และมักถูกใช้ในกองทุนใหญ่ หรือกองทุนเฮ็ดฟันด์ ตัวอย่างหนึ่งที่เราจะเห็น ในหัวของของ James simons เป็นต้น เล่มนี้ผมยังไม่ได้ซื้อ แต่มีคนแนะนำมา ใครมาสาย physics อยากรู้ว่า ไซมอนใช้โมเดลสไตล์ไหนลองหามาอ่าน ได้ Quantum Trading ใช้ กลศาสตร์ควันตัม มาสร้างโมเดล หาสัญญาณซื้อขาย ผมสรุปคราวๆให้ฟังนิด เพื่อจะได้เห็นมุมมอง ศาสตร์ด้านนี้เขาไม่ได้ focus ไปที่ direction หรือ trend เขาดู การสั่น หรือการเปลี่ยน state ของราคา อันนี้เป็นเรื่องของแรงและพลังงาน ไม่เข้าใจดูเทฟจาก link นี้ได้ มาคำนวณหาความถี่ที่เกิด ไม่ขออธิบายเยอะ เพราะผมก็ยังใหม