ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Time-Based Strategy

ภาพประกอบการบรรยายเมื่อวาน ให้กลุ่ม Robot trading เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากการบริหารเวลา Time Horizon กับภาวะ volatile market ในตลาด Gold ในภาพตัวระบบเทรดทดลอง ระบบเดียวกัน(trading strategies&MoneyManagement เดียวกัน)แต่กำหนด time horizon ในการ exit strategies ที่แตกต่างกัน ตัวโมเดลแรก 5 วัน โมเดลที่สอง 15 วัน สิ่งที่พบเหมือนที่ได้สรุปให้ฟังไป ความผันผวนระยะสั้น ที่เกิดกับตลาด ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนสมดุล หรือเกิดการเปลี่ยนของแนวโน้มใหญ่ในทิศทางราคา การขยายเวลาถือครอง ก็ลดผล กระทบจาก ความผันผวนระยะสั้นได้ ซึ่งจากผลการทดลองจะเห็น position ที่อาจจะผิดทางตอนแรก จาก volatility ที่เกิด สามารถกลับมาเป็นบวก เปลี่ยนจากขาดทุนกลายเป็นกำไรได้ ในช่วงเวลาต่อมา ดังนั้นการทำระบบเทรดใน ภาวะ volatile market ต้องวางแผน money management บริหารเงินให้ครอบคลุมการถดถอยของมูลค่าสถานะ จากภาวะความผันผวน ที่เกิด โดยรวม 3 factor สำคัญมาวางแผน Time , Volatility และ market sentiment นอกจากนี้ สามารถใช้ MFE, MAE วิเคราะห์ position ที่เทรดแล้ว เทรนโมเดลในการปรับปรุงระบบได้อีกด้วย

Moneyball for Hedge Funds

บทความนี้คือตัวอย่าง ที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อคืนนะครับ ถึงการทำ data analysis สำหรับการลงทุนอีกแบบโดย ทีมวิจัยพัฒนาของ alphaclone เขานำเอาพฤติกรรมผจก.กองทุน จากรายงาน SEC filings report มาสร้างโมเดลในการเลือก ประเมินให้คะแนน fund manager โดยนำข้อมูลหลัก มาจาก 13F dataset+ track record ย้อนหลังหลายปีที่มีการเก็บรวมรวมและประมวลผลข้อมูลเอาไว้ ไม่ใช่แค่การดู performance ผลตอบแทนของกองทุนอย่างเดียว แต่ดูถึง trading strategy , การใช้ leverage, market timing decision, stock selection skill และอื่นๆ ส่วนโมเดลการประเมินก็น่าสนใจเพราะนอกจากการทำ profile แล้ว ยัง clone พอร์ตและสไตล์การลงทุน ของแต่ละผจก. เพื่อทำ multiple simulations ในการประเมิน performance เพื่อขจัดเรื่องผลตอบแทนที่มาจาก ความโชคดี ในช่วงตลาดกระทิงหรือฟลุ๊กเลือกหุ้นถูกตัว แล้วสร้าง Clone Score ในการเปรียบเทียบกัน โดยแบ่ง level ตาม track recordที่มี อีกด้วย คล้ายการ ratting ผลงานของแต่ละผู้จัดการกองทุน หน้าตาคล้ายกับการเล่น fantasy football เลย แต่ประโยชน์ช่วยให้ นักลงทุน สามารถเลือกการนำเงินไปลงทุนในกองทุน hedgefund ที่มีจำนว

คำแนะนำด้านการเงินจาก Ray Dalio สู่เหล่า millennials

ไปเจอคลิปหนึ่งของคุณ ray dalio ค่อนข้างดีเลยทำสรุปมาฝาก โดยเฉพาะน้องๆ millennials ที่ติดตามอ่าน เริ่มต้นพูดถึง millennial ที่พบประสบการณ์ไม่ดีในช่วง Subprime Crisis ทำให้เกิดความกลัว พลาดโอกาสที่จะลงทุน (คล้ายกับยุคพ่อแม่ของเขาที่เจอ great depression ช่วง 1930s ทำให้ไม่กล้าลงทุน) ทางแก้มองภาพรวม เรียนรู้ crisis ทั้งหมดที่เกิดในอดีต เข้าใจ cycle คุณ ray dalio แนะนำทางการเงิน 3 ข้อสั้นๆสำหรับ millennials รั บมือสิ่งที่เกิด ดังนี้ 1. สร้างเงินออม(Saving) -คำนวณว่า เราสามารถออมเงินได้มากแค่ไหนต่อเดือนโดยคิดจาก รายได้ และรายจ่ายที่เกิดต่อเดือน กรณีถ้ามีหนี้(debt) ควรจะมีหนี้ที่ดี พวกที่สร้างโอกาส สร้างรายได้ในอนาคต ไม่ใช่หนี้เพื่อการบริโภคหรือซื้อวัตถุ สิ่งสำคัญควรสร้างเงินออมได้มาก ต่อเนื่อง 2.สร้างความมั่งคั่ง(wealth) -เรียนรู้ ศึกษาการนำเงินออม ไปใส่ใน asset ที่ก่อให้เกิดผลตอบแทนที่เติบโตระยะยาว เอาชนะเงินเฟ้อ -จัดการควรเสี่ยงด้วยการ diversification กระจายเงินออมไปใน asset หลากหลายประเภท, หลากตลาด,หลากหลายภูมิภาค โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องการเลือกให้ถูก หรือเน้นจะเจอแจ๊คพล๊อต สุดท้า

The Trinity Portfolio A Long-Term Investing Framework

เช้านี้นั่งอ่าน paper เก่าของ Meb Faber ชื่อ The Trinity Portfolio A Long-Term Investing Framework ไปสะดุดกับภาพหนึ่ง น่าสนใจดี เพราะบางทีมันถ้าเราเข้าใจพฤติกรรมของตลาด เราก็สามารถหาประโยชน์จากมัน Trinity Portfolio น่าสนใจเพราะเขาใช้หลัก portfolio management เป็นตัวนำ ในการจัดการความเสี่ยง เริ่มตั้งแต่การ diversification จากนั้นทำ multi strategies ผสมทั้ง Trend / TSMOM และ Value เพื่อหาโอกาสในสร้าง risk adjusted return ให้เหมาะสม และเพิ่มการอยู่รอด ของพอร์ต ประเด็นนี้มันเ ป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เห็นการปรับตัวของ Trend Following ในตลาดยุคใหม่ ที่สำคัญ มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ต้องมานั่งเถียงกันเอาเป็นเอาตายว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะทุกกลยุทธ์ ต่างมีจุดเด่นในภาวะตลาดที่แตกต่างกันเสมอ(อันนี้คือ fact ไม่ใช่ opinion ) สิ่งที่น่าสนใจใน paper มีอีกหลายส่วน สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=2801856

Pasadena IBD Meetup Investing

เมื่อสุดสัปดาห์ผมไปร่วมสนทนากับกลุ่ม canslim trader มา กลุ่มนี้เน้นการทำ algorithmic trading สไตล์ของ วิลเลียม โอนีล (William O'Neil) และใช้ Technical ผสม fundametal ได้น่าสนใจดี ผมนำระบบเทรดที่ใช้เทคนิค cross-sectional momentum ร่วมกับ time series momentum(tsmom) ทำให้ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ก่อนเลือกหุ้นเข้าเทรด ในแต่ละช่วงเวลาของตลาดไปแชร์ให้ฟัง ส่วนวงสนทนามีการแชร์และนำมาคุยกันคือ slide งาน IBD Meetup ของ mike scott ซึ่งมีหลายประเด็นที่เขาแชร์ไว้น่าสนใจ ทั้งเรื่องมุมอง และเรื่องของกลยุทธ์ เช่นประเด็น market cycle , Demographic และ economic ที่กระทบตลาด , เรื่อง Time Frame Risk ( Secular &Cyclical ) ด้านกลยุทธ์การเทรด สไตล์โมเมนตัม ใช้ Coppock curve , A/D bar, adv volume และ Stock Behavior ซึ่งหลายเรื่อง ถ้าใครเคยอ่านหนังสือของ วิลเลี่ยม โอนีล น่าจะคุ้นดีแต่งานนี้ เขานำข้อมูลหุ้นและตลาดสหรัฐช่วงปัจจุบัน มาอธิบายต่อ ผมแชร์ได้แค่บางส่วน ใครสนใจลองไปดาวน์โหลดสไตล์ได้ที่ คิดว่าถ้าแกะดู กลยุทธ์การเทรด ทำความเข้าใจ แล้วลองมาปรับใช้ ก็น่าจะมีประโยชน์

7 ข้อคิดดีๆจากนักเก็งกำไรระดับตำนานของวอลสตรีท

ผมมีโอกาสได้กลับอ่านหนังสือ "Lessons from the Greatest Stock Traders of All Time" เขียนโดยคุณ จอห์น บอยค หนังสือเล่มนี้ เป็นเหมือนรายงานสรุปแนวทางของตำนานเทรดเดอร์ 5 คนที่มีชื่อเสียงประสบความสำเร็จในตลาด ยุค 1900 ได้แก่ Jesse Livermore(1917), Bernard Baruch, Gerald Loeb(1920), Nicolas Darvas(1960), and William O'Neil ซึ่งเนื้อหาของหนังสืออธิบายเหตุการณ์ วีรกรรมการตัดสินใจเทรด กลยุทธ์การเทรด และการผ่านพ้นวิกฤติก ารเงิน Wall Street ของเหล่าตำนานเทรดเดอร์ ผมทำสรุปข้อคิดดีๆที่เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ มือใหม่ ลองเข้าไปฟังได้จาก trader talk ep 8 ครับ https://www.youtube.com/watch?v=oSzDz8-ARIk

"Math, Money, and Making a Difference"

Fireside Chat Series กับ Dr. James Simons สุดยอด hedgefund อันดับต้นของโลก(World's Most Successful Hedge Fund Manager) คลิปนี้เป็นพาร์ทแรก เกี่ยวกับ Mathematics ความยาว 1.20 ชม. เนื้อหาสาระน่าสนใจมาก โดยเฉพาะมุมมองและแนวทางเส้นทางอาชีพของคุณ James Simons ช่วงก่อตั้งและบริหารงาน Renaisance Technologies ซึ่งเขาบอกว่าสูตรความสำเร็จของบริษัทคือ "is a great computing system, good scientists and low turnover" พนักงานระดับหัวกระทิ ที่ร่วมทำงาน นอกจากได้เงินเดือน ยังได้ผลตอบแทนจากส่วนแบ่งกำไรและโอกาสลงทุนกองทุนปิด Medallion ที่มีผลงานสุดยอดอีกด้วย สิ่งคนอยากรู้คือเรื่องของ Medallion strategy แต่ simons พูดสั้นๆว่า key คือเรื่องของการปรับปรุง(reinvent) อยู่ตลอดเวลา ตามภาวะตลาดและเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนแปลงในช่วง 20 ปีแต่ยังคงส่วนแกนหลักเอาไว้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องถามตอบที่น่าสนใจ จากผู้ฟังที่ คุณ James Simons ในวัย 78 ปียังสามารถตอบคำถามและให้ประเด็นเปิดมุมมองได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ Math ในธุรกิจบริษัทเฮ็ดฟันด์และสร้างผลตอบแทนจาก market ส่วนพาร์ทอื่นๆ Finan