ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Gligtch

เรื่อง ชวนหัวประเด็นร้อนเรื่องหนึ่งใน wallstreet อเมริกา อยากนำมาเล่า เรื่องนี้เกี่ยวกับความผิดพลาด(glitch) ของ app จากโบรกเกอร์ Robinhood ที่ User ประเภท premium สามารถใช้ leverage ได้ไม่จำกัด หรือ Infinite leverage (ยืมเงินโบรกเกอร์มาเทรด เปิดสถานะได้โดยไม่มีขีดจำกัด) ความสนุกมันเกิด เมื่อ Trader คนหนึ่งทำได้ก็ทำสูตรวิธีการไปแจกต่อในกลุ่ม Wall Street Bets บน reddit ประมาณว่าเชิญผู้กล้ามาถล่ม ซึ่งมีหลายคนเข้ามาอ่าน บางคนทำตาม เพราะนั้นหมายถึงการเสี่ยงโชควัดดวงคร ั้งใหญ่ บางคนใช้ leverage 50x 100x 500x มี Trader รายหนึ่งมีเงินกว่า $3,000 อัดใช้ leverage ขยายไป $1.7 million เช่นเดียวกับหลายคน หลายเทรดเดอร์ที่รายงานเข้ามา ส่วนใหญ่เทรดคืนเดียวล้วนลอง position ขนาดใหญ่หลักล้านเหรียญเล่นกันเลย แน่นอนการใช้ leverage สูงได้ ไม่ได้การันตรีว่าจะได้กำไร หรือมี edge เสมอไป เพราะความเสี่ยงสูง ย่อมมีทั้งที่ทำเงินได้หลายหมื่นเหรียญ และขาดทุนหมดเงินต้น ก็มีเช่นกัน แต่นี้เป็นอีกหนึ่งความไม่ปกติที่เกิดและเข้ามากระทบต่อตลาด จากความผิดพลาดของซอฟท์แวร์เทรดของโบรกเกอร์ อ้างอิง ht

ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์

การศึกษาของ Microsoft Japan ระบุว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นั้น ช่วยเพิ่ม productivity ได้เพิ่มถึง 40% โดยผลการศึกษาเทียบกับปีเดือน สค. 2018 พบว่า การทำงาน 4 วันช่วยลดค่าไฟฟ้าลง 23%, ลดจำนวนกระดาษลง 59% นอกจากนี้ข่าวระบุว่ารัฐบาลญุี่ปุ่นมีแผนปรับลดชั่วโมงทำงาน แก้ปัญหา over work บางบริษัทพนักงานต้องทำงานหนัก และต้องทำงานกว่า 6 วันต่อสัปดาห์ แผนการปรับลดเวลางาน เพิ่ม work life balance น่าจะการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยตามไปด้วย (แรงจูงใจในการมีครอบครัว มีบุตร รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น) อ้างอิง https://www.theguardian.com/technology/2019/nov/04/microsoft-japan-four-day-work-week-productivity https://www.dailymail.co.uk/news/article-7644931/Microsoft-Japan-brings-three-day-weekends-sees-40-CENT-increase-productivity.html

ไทยกับสู่ยุคอัตราดอกเบี้ยขาลง

วันนี้ไทยเข้าสู่ยุคอัตราดอกเบี้ยถูก โดยผลประชุมคณะกรรมการ กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.25 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเข้าสู่จุดต่ำสุดรอบหลายสิบปี ด้านตัวเลขน่าสนใจเพราะระดับนี้ คือระดับที่ ธปท. ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจตอนปี 2009 หลังการเกิดวิกฤติการเงิน subprime ของสหรัฐ กนง. แถลงการลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมให้เหตุผลการตัดสินใจจากเรื่องเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จาก story นี้ส่งผลลบต่อ หุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่ ที่ต้องปรับลดดอกเบี้ยตามมา ทำให้รายได้จากอัตราดอกเบี้ยรับและ NIM ลดลง ส่วนหุ้นรับอานิสงค์บวกได้แก่ กลุ่มเช่าชื้อ-ลิสซิ่ง ต้นทุนการกู้ยืมต่ำลง(ผลดีโดยเฉพาะบริษัทที่มีหนี้ระยะสั้นมากกว่าหนี้ระยะยาว) อสังหาริมทรัพย์ นี้เรียกว่ารอความหวังจาก story นี้เลยซึ่งการลดดอกเบี้ยอาจจะมาช่วยกระตุ้นยอดขาย จากการขยายกำลังซื้อของลูกค้าและการระบายของ นอกจากนี้หลายโบรกยังมอง เหมือนกันคือ คิดว่าหุ้นปันผล น่าจะมีเม็ดเงินกลับเข้ามาไล่ซื้อ ชดเชยผลตอบแทนจากตราสารหนี้ , fix income ที่อัตราดอกเบี้ยลดลง

Ultimate trader career guides by Citadel

บทความจากมืออาชีพของ Citadel LLC (ฟันด์ของ Ken Griffin AUM $32 billion ) ถ่ายทอดประสบการณ์และการเตรียมตัวเป็น Trader ใน Quant Fund ระดับโลก เขาพูดถึงการเตรียมตัว ทั้งเรื่องความรู้ ประสบการณ์ และการพัฒนา skill (ทั้ง hard และ soft skills) ผมว่าน่าสนใจและมีประโยชน์มาก ลองเข้าไปอ่านบทความแบบละเอียด ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จาก link  https://lnkd.in/eaNEqtV ชมคลิป vdo ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของ Senior Trader at Citadel https://www.youtube.com/watch?v=6yN5eVFZ77E

Teaching traders to code in Python

บทความนี้ของ Saeed Amen ดีงามมากเขาแชร์ประสบการณ์การสอนการเขียนโปรแกรม Python ให้กับเทรดเดอร์ใน Bank / Financial firms โดยสรุปใจความสำคัญ คือมันเป็นเรื่องดีที่จะเรียนรู้ Python Programming เพราะ python เป็น tools ที่ดี แต่สิ่งเป็นปัญหาคือ การเขียนตามตัวอย่าง จากคนสอนอย่างเดียว อาจจะได้ตัวอย่าง basic การเขียนโปรแกรม Python แบบทั่วไป แต่ไม่พอเพราะส่วนใหญ่ การไปใช้จริง ต้องมาจากโจทย์/องค์ความรู้จริงจากประสบการณ์การเทรดจริงในตลาด เพื่อนำมาประยุกต์ ซึ่งเทรดเดอร์จะมีความได้เปรียบในการเข้าใจ data แบบเชิงลึกช่วยการพัฒนาระบบได้ดีกว่าโปรแกรมเมอร์สาย IT ทั่วไป ดังนั้นเทรดเดอร์ต้องทำงานหนัก ฝึกฝน หัดเขียนโปรแกรม หัดประยุกต์ (ไม่ใช่แค่ copy&paste) Saeed Amen แนะนำให้เน้นการวิเคราะห์ข้อมูล(มากกว่าการไปใช้ python เพื่อสร้างโมเดลทำนายอนาคตซึ่งมันใช้จริงไม่ได้) ทำความเข้าใจกับ market ช่วยในการพัฒนาระบบเทรด เช่นเดียวกันไม่ต้องกังวลที่จะเปลี่ยนตัวเองจากเทรดเดอร์ไปเป็น coding guru เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็น(ในบริษัทใหญ่ เขาก็จ้าง Programmer อาชีพมาทำแหละ แต่เทรดเดอร์ที่เข้าใจ logic และการลำ

Introduction to Volatility Trading

นั่งหาคลิปใน youtube ฟังไปเจออันนี้ของ Christopher Quill คนนี้เป็น Quant Analyst ของ ITPM บรรยายเรื่อง volatility ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะตลาดปัจจุบันมันไม่เหมือนอดีต Trend มันไม่ใช่พระเอกละ กลายเป็น Volatility สไตล์ volatility trading ก็กำลังมาแรงและถูกนำมาใช้กันมาขึ้นระยะ 2-3ปีที่ผ่านมา เช่น Mean reversion , Scalping เป็นต้น คลิปยาวนะแต่อธิบายดี พูดภาพรวมการใช้เทรด สอนคำนวณทั้ง Implied volatility และ Historic volatility(Time series) เข้าไปฟังได้จากคลิปด้านล่าง https://www.youtube.com/watch?v=eqmTHLgZzqQ

ทำไมความรู้ด้านการเงินและการลงทุนจึงสำคัญในโลกปัจจุบัน

DW เป็นช่องสารคดีของเยอรมนี เขาทำสารคดีชื่อว่า How the rich get richer - money in the world economy ถ่ายทอดหลายประเด็นที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะปัญหาที่คนวัยเกษียณในยุโรปเจอ ในสารคดีเล่าเรื่องชายชนชั้นกลาง คนหนึ่งทำงานกว่า 40 ปี เกษียณได้เงินบำนาญก้อนหนึ่ง แต่ปัญหาคือ อัตราดอกเบี้ยติดลบ ทำให้ความฝันที่จะไม่ต้องทำงานนอนกินดอกเบี้ยวัยเกษียณแบบที่เคยเชื่อไว้ ไม่เป็นจริง แถมเจอดอกเบี้ยติดลบทำให้เงินก้อนที่มีถดถอยไปอีก , เมื่อมารู้ มาตระหนักตอนนีั ก็สายละเพราะทางเลือกไม่มากที่ปรึกษาการเงินแนะนำให้ไปซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่นหุ้น(stock) แต่ต้องจ่ายราคา premium ที่สูง พร้อมภาวนาให้ไม่เกิด economic downturn อีกประเด็นก็น่าสนใจ เพราะนโยบายผ่อนคลาย กระตุ้นเศรษฐกิจของ ecb อัตราดอกเบี้ยต่ำทำให้ คนมีเงิน(สารคดีเรียกว่าพวกนายทุนหรือคนรวย) ใช้เงินกู้ดอกต่ำ ไปไล่ซื้อ อสังหาริมทรัพย์ ดันราคาบ้านและที่อยู่ จนขึ้นสูงในช่วงหลังปี 2010 ปัญหา ตามมาคือ คนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือน ต้องการซื้อบ้านก็ต้องจ่ายในราคาที่แพง มหาศาล ตามด้วยการเป็นหนี้ระยะยาวกับธนาคาร(30-40 ปี) จุดนี้กลายเป็นความเสี่ย