ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

vollib(python library opensource)

เมื่อวานสอนเรื่องการเทรด option เบื้องต้น ผมใช้ quantlib ในการสาธิตการสอนการคำนวณ option pricing ด้วย Black-Scholes , implied volatility และ greeks parameter ซึ่ง quantlib กับ python อาจจะดูทรงพลัง แต่เยอะและยุ่งยากมาก(เมื่อวานพูดไป 3 ชม. หมดแรงเลย) ดังนั้นถ้าน้องเทรดเดอร์เพิ่งหัด วิเคราะห์ราคาหรือทำกลยุทธ์การเทรด options ผมแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกชื่อ vollib เป็น python library opensource และมีการอธิบายวิธีการคำนวณและการใช้งานแค่ละโมดูล ได้ชัดเจนดี สะดวกและสามารถคำนวณค่าต่างๆ ได้ในไม่กี่ขั้นตอนผ่าน vollib package ข้อเสียคือโปรเจคนี้หยุดพัฒนาต่อแล้ว แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ ใครสนใจลองเข้าไปเรียนรู้และทดลองใช้ได้ที่ http://vollib.org/documentation/python/0.1.5/index.html 

The Ivy Portfolio

มีคนขอให้แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการบริหารจัดการพอร์ตเข้ามา จริงๆแล้วมีหลายเล่มมาก เล่มหนึ่งที่คิดว่าอ่านง่ายและเหมาะกับมือใหม่คือ The Ivy Portfolio ของคุณ Mebane T. Faber เขาผู้บริหารพอร์ตลงทุนของ Cambria Investment Management หนังสือออกช่วงปี 2011 ทำให้มีกลิ่นไอของวิกฤติการเงินในเนื้อหา และมีตัวอย่างการบริหารเงิน บริหารความเสี่ยงเยอะ โดยเฉพาะกรณีศึกษาของพอร์ต Endowment ดังๆเช่น Yale Endowment , Harvard Endowment ที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงกรณีศึกษาของเฮ็ดฟันด์ที่ผลงานดีเช่น Greenlight Capital , Blue Ridge Capital และกล่าวถึงแนวคิด ผลงานของเหล่า Academic Fund Managers เก่งๆที่ประสบความสำเร็จจริงๆอีกหลายคนเช่น James Simons , David E Shaw , Richard Thaler เป็นต้น ด้าน Portfolio Strategies ที่มีการยกถึงแนวทางการพัฒนา All-Weather Policy Portfolio ที่ผสานความเสี่ยงและการทำกำไรตามภาวะตลาดอีกด้วย รวมถึงการเลือกใช้กลยุทธ์ใน Quantitative System และการทำ Rotation System ผสมสร้าง Portfolio structure ขึ้นมาใน asset class ต่างๆ ค่อนค้างหนาและแน่น เหมาะสำหรับการเรียนรู้มากครับ https://www.amazon.com/I

Reinforcement Learning for Trading

ปีกว่าๆแล้วที่ใช้ Reinforcement learning ในการพัฒนาระบบเทรด(เสริมกับระบบเดิมก่อนหน้าเป็น VAE-LSTM Model ) วันนี้ใช้โอกาสเรียนฟรีของ coursera ลงเรียน หลักสูตร Reinforcement Learning for Trading Strategies ของ NYU ซึ่งครอสนี้ให้ตัวอย่างการใช้ value-based policies กับ momentum trading strategy เพิ่งเรียนได้ week ที่ 2 ยังไม่จบ ไม่รีบด้วยเพราะมันฟรี แต่เดี่ยวผมเรียนจบ จะมารีวิวให้ ส่วนน้องคนไหนพัฒนา Quant สาย AI แนะนำให้ลองเรียนครับ อาจารย์ที่สอนอธิบายเข้าใจง่ายมาก และมีเราสามารถเขียนโปรแกรมตามแบบฝึกหัดออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก ด้วย https://www.coursera.org/learn/trading-strategies-reinforcement-learning

Commodity Super Cycle

เมื่อวานมีน้องเทรดเดอร์ คนหนึ่งถามเรื่องการลงทุนระยะยาวในสินค้าคอมโมดิตี้ ผมเลยเอาบทความ Commodity Super Cycle นี้มาแบ่งปันให้ลองอ่านเพิ่มเติม โดยสรุปมีใจความหลัก -สินค้า commodity มีหลายประเภท และมีลักษณะของ Cycle และรูปแบบของราคาที่แตกต่างกันไป -ราคาของ สินค้า commodity แปรผันตาม Demand และ supply ที่เกิดในช่วงเวลาใดๆ ซึ่งหลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการบริโภค จะมีความสัมพันธ์กับ ภาวะเศรษฐกิจ -บทความนี้จำแนกการแกว่งของ cycle เป็น 2 แบบคือ upswings และ downswings. - upswings รอบการการแกว่งขาขึ้น ที่มาจาก demand ที่มากกว่า supply - downswings รอบการการแกว่งขาลง ที่มาจาก supply ล้นมากกว่า demand ในตลาด -ภาวะราคาสินค้า commodity ปรับตัวเป็น cycle หรือการ swing เพราะเมื่อมี demand มาก เวลาผ่านไปผู้ผลิตมีการปรับตัวเพิ่ม supply เข้ามาในตลาด หรือความต้องการซื้อจากปัจจัยเร่งหรือภาวะทางอารมณ์หายไป จุดนั้นราคาจะมีการปรับตัว ลดลง เป็นต้น -ในคาบเวลาระยะยาว การนิยาม Commodity super cycles สามารถใช้โมเดล Bank of Canada Commodity Price Index (BCPI) เพื่อติดตามภาพให

แนะนำหนังสือ "Options, Futures, and Other Derivatives"

  เมื่อวานมีน้องเทรดเดอร์ขอให้แนะนำหนังสือเรื่องการเทรด อนุพันธ์ ความคิดเห็นส่วนตัวถ้าเริ่มต้นแนะนำให้อ่าน "Options, Futures, and Other Derivatives" ของคุณ John C. Hull ปัจจุบัน แล้ว หนังสือเล่มนี้เหมาะกับการใช้อ้างอิงและเป็นหนังสือให้แนวคิด เริ่มต้นสำหรับเทรดเดอร์ได้ดีมาก มีเนื้อหาที่ครอบคลุมและอธิบายหลายประเด็นที่เป็นเรื่องซับซ้อน ให้เข้าใจง่ายในประโยคสั้นๆ โดยเฉพาะในด้านการเทรด options ซึ่งคุณ Hull ทำได้ดีมาก เช่นเรื่อง Greeks, Volatility smiles, Value at risk, Estimatin g volatilities และ Black-Scholes-Merton model ส่วนของ Futures ก็มีบทหัวข้อ Hedging strategies using futures ที่อธิบายไว้ได้ดี จุดเด่นอีกเรื่องคือ หนังสือเล่มนี้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง ปัจจุบัน 10th Edition ทำให้หลายตัวอย่างค่อนข้างทันสมัย เช่นเคสวิกฤติการเงิน 2007-2008, ด้านเนื้อหาลึกและแน่นมาก(เป็นหนังสือตำราตั้งใจเขียนจริงๆ) สนใจแนะนำลองหาซื้อมาอ่านกัน https://www.amazon.com/Options-Futures-Other-Derivatives-10th/dp/013447208X/

Inside the House of Money

 เมื่อวาน ผมพูดถึงหนังสือ Inside the House of Money วันนี้เลยอยากนำคลิปเก่าที่เคย รีวิวหนังสือ Inside the House of Money: Top Hedge Fund Traders on Profiting in the Global Markets ของ Steven Drobny มาแชร์อีกรอบ โดยคลิปนี้ผมรีวิวภาพรวมของหนังสือและไฮไลท์สำคัญ ประวัติผู้เขียน รวมถึง นำเอา Hedgefund manager สาย Global Macro economic 2 คนที่ให้สัมภาษณ์ไว้ได้น่าสนใจ มาสรุปให้ฟัง คือคุณ Jim Leitner แห่ง Falcon Management และ Scott Bessent แห่ง Bessent Capital เป็นการเรียกน้ำย่อย ให้พวกเราลองไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้อ่านกัน ปล. เล่มนี้อ่านง่ายและได้ประเด็นแนะนำให้ลองหามาอ่านกันครับ ลองเข้าไปรับฟังได้ที่ https://youtu.be/Rd69II7_X_E

Rule of 72 กับ การพัฒนาระบบเทรด

  สำหรับผมระบบเทรดที่ดี คือระบบที่เราสามารถเทรดและทำมันได้ทุกวัน สร้างผลตอบแทนที่ต่อเนื่องและ บริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมอยู่รอดในทุกสภาวะตลาด มันอาจจะไม่ต้องเป็นระบบที่ wining rate 100%, ทำกำไร 200 300% ต่อปีขนาดนั้น เพราะยิ่งคาดหวังมาก ยิ่งพยายามจะทำอะไรให้มันเกินจริง สุดท้ายมันยิ่งเละ และใช้ไม่ได้จริง เจอมากมายระบบเทรดที่ over fiting หรือ พวก Data-Mining Bias พยายามทำให้ back testing ดีเกินจริง มาอวด มาโชว์ แต่ใช้จริงในตลาดไม่ได ้ ส่วนตัวผมทำระบบเทรด ใช้สูตร 12 * 36 พยายามจะสร้าง return เฉลี่ยให้ได้ 12% บนเงื่อนไขของการยอมให้มี max dd ที่ไม่เกิน 36% ของเงินทุน ซึ่งระบบมี 2 ส่วนงานคือส่วนทำกำไร และส่วนที่บริหารจัดการความเสี่ยง(ควบคุม DD) ดังนั้น ไม่ว่าตลาดมันจะผันผวนขนาดไหน หรือวิ่งไปทางใด ระบบมันก็รอดได้ ทำงานของมันได้ตามแผน ขณะเดียวกันบน Rule of 72 ถ้าระบบรันตามแผน ค่าเฉลี่ย 12% ต่อเนื่อง ราวๆ 6 ปีก็สามารถสร้างเงินทุนเพิ่มเป็น 1 เท่าได้ แน่นอนว่ามันอาจจะช้า แต่มั่นคง ขณะที่เวลาผ่านไป เราสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นได้ไปอีก ควบคู่กับการเติบโตของพอร์ต พลังของอัต