ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เทคนิคเดยเทรด :กลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย 2

หัวใจของกลยุทธ
เรื่องของกลยุทธการลงทุนที่ผมขอแชร์เทคนิคที่ตัวเองใช้ในการลงทุนแบบ Day Trade คือกลยุทธขี่ม้าเลียบค่าย หลักการใหญ่ใจความคือ การกินทีละน้อยหรือตอดกินเพื่อไม่ไปทำลายเกมส์ของรายใหญ่ เราต้องเข้าใจก่อนว่าหุ้น Day Trade มันวิ่งได้เพราะมีคนคุมเกมส์การซื้อ ขาย การที่เราโลภอยากได้มาก ลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก(ไม่มากถึงรายใหญ่ แต่ก็มากพอจะตบหมดช่อง) มันทำให้เกมส์และการคุมจังหวะของรายใหญ่เสียไป 


แน่นอนว่าคนที่คุมเกมส์จะมี Bid offer ที่เขาวางไว้ ดังนั้นเราต้องให้เกียติร์คือเล่นไปตามเทรนด์ กินตามรายใหญ่ อย่าทำอะไรที่ไปขัดใจ หรือโดนจับได้เพราะแทนที่จะได้เราอาจจะเสียและโดนเล่นงานโทษฐานไปขย่มเกมส์ของคนอื่น

อีกประเด็นของกลยุทธนี้คือ การสอนให้เรารู้จักพอกินคำเล็ก ไม่ละโมบเพราะเหยื่อที่รายใหญ่ใช้ตกปลาในเกมส์นี้คือความโลภ ถ้าเราไม่โลภกินพองามเราจะอิ่ม แต่ถ้าละโมบกินเยอะเราจะจุกและตาย ยกตัวอย่างเช่นหุ้นปกติถ้ามีการไล่ราคาให้บวกไปถึง 10% ในหนึ่งวัน ถ้าเราเล่นตามกลยุทธนี้ควรจะอิ่มและลงตั้งแต่ 6% แล้ว ถึงแม้จะปล่อยให้ Profit run ได้แต่ต้องไม่ลืมว่านี้คือเกมส์ระหว่างวัน มันมีโอกาสที่หุ้นจะลงได้ทุกเมื่อในรอบนั้นๆ(รอบย่อยระหว่างวัน) ที่สำคัญถ้าการรินขายจบ ไม้ปิดสุดท้ายจะโดนทุบเพื่อเก็บของคืน ดังนั้นถ้าเรารอกำไรจนสุดๆร้อยละแปดสิบเมื่อราคาลงเร็ว เราจะติดหุ้นและจะขายไม่ทัน (หุ้น Day Trade เวลาลงแบบโดนทุบ ความชันตั้งฉากลงเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว)


อีกข้อหนึ่งคือ ไม่เสียดายค่าคอม เล่นไปตามกลยุทธที่วางไว้ ถ้าหลุดแนวรับ ต้อง cutloss ก็ควรทำ

หาหุ้นลงทุน
หลักการเล่น Day Trade การหาหุ้นรายวันเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าเราขึ้นหุ้นถูกตัว โอกาสได้กำไรแบบพอควรนั้นมีอยู่แล้ว โดยปกติผมชอบตั้งกำไรที่จะได้ต่อรอบประมาณ 4% หรือประมาณ 6-8 ช่องต่อรอบ(แล้วแต่หุ้น บางตัว วันหนึ่งมีหลายรอบ) ดังนั้นการหาหุ้นที่มี volume เข้ามีการมาไล่ราคาแล้วขี่มันไปจึงเป็นหัวใจสำคัญ





โดยทั่วไปมักหาหุ้นจากข่าว จากคอลัมนิส ที่เชียร์ หรือไม่ก็ตามเว็บบอร์ดที่ใบ้หุ้นกัน แต่ถ้าเราเทรดเป็นระบบแล้วไม่ควรไปเสี่ยง ดังนั้นการใช้เครื่องมือเพื่อตีปลาหน้าไซ น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด(มาแน่ มาชัวร์) ผมเองใช้เครื่องมือ 2 ตัวของ efinace ซึ่งค่อนข้างจะมีประโยชน์มาในการติดตามหุ้น ดีกว่าการดูจาก ticker ด้วยตนเอง

ตัวแรกคือ "Spread Price Analysis" เป็นเครื่องมือ Scan การเคลื่อนตัวของราคาแบบต่อเนื่อง 1 2 3 ช่อง ในช่วงเวลา (หน่วยนาที) ที่เรากำหนด เช่นดังรูปผมกำหนดที่ 3 นาที ระบบก็จะวนหาหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงของ ช่วงราคาแบบรวดเร็ว โดยเราสามารถแปลความได้ว่า หุ้นตัวที่มีการเคลื่อนไหวของราคาแบบผิดปกติ แสดงว่ามีการไล่ซื้อกันเกิดขึ้นแล้วโอกาสจะเป็นหุ้น Day Trade ที่น่าลงทุนมีสูง แต่แน่นอนว่าเราต้องดูสัญญาณอื่นประกอบด้วย


ภาพตัวอย่างเป็นข้อมูลเก่าปี 53 เริ่ม track ตอนเปิดตลาดดูแบบนี้รู้ทันทีว่า BROCK มีการไล่ราคาแน่นอน

ตัวที่สอง คือ "Most Active by Period" เป็นเครื่องมือหาหุ้นที่กำลังเป็นที่นิยมในการเทรด ณ ขณะเวลานั้นๆ โดยจะหาหุ้นที่กำลัง active ในช่วง 1 2 3 4นาที แบบต่อเนื่องเพื่อใช้หาหุ้นที่จะเข้าเทรด หลักการที่ผมใช้ผมใช้โหมด Trade โดยถ้าหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องของราคาจำนวนดีลที่มากแปลว่าน่าสนใจลงทุน ก็จะเริ่มเข้าไปดูกราฟรายนาทีต่อไป


การวิเคราะห์กราฟเทคนิค
ตัวสุดท้ายคือพระเอกของผมนั้นคือ กราฟรายนาที จริงแล้วการเทรดแบบนี้ ความรู้ความเข้าใจทางเทคนิคเป็นสำคัญ การที่เราสามารถดูกราฟเทคนิคเพื่อกำหนด จุดซื้อ จุดขาย แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีกลยุทธที่แตกต่างไป แต่ผมขอแชร์ระบบเทรดพื้นฐาน(ไม่ใช่ทั้งหมดที่ผมใช้) เอาไปเป็นไอเดียในการเทรดแบบรายวัน

ผมเลือกใช้กราฟ 3 นาที ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา คำถามที่พบบ่อยๆคือว่าต้องใช้กราฟกี่นาทีจึงจะเหมาะสม ผมเองให้ข้อคิดง่ายๆแบบนี้คือ กราฟราคายิ่งเร็วมากไป โอกาสการแกว่งและเกิด noise ก็จะมาก แต่ถ้าช้าไปก็ย่อมไม่ดี เพราะจะทำให้ไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง ความเหมาะสนก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและการตัดสินใจของผู้เทรดเอง แต่จงอย่าลืมเทคนิคที่กล่าวไปในตอนแรกคือเรื่องของจินตนาการ เราต้องจินตนาการภาพของแท่งเทียนแบบ รวมและแยกให้ออก เพื่อความรวดเร็วในการตัดสินใจในช่วงเวลานั้นๆ หัวใจสำคัญคือต้องมีเวลาติดตามกราฟ ในขณะที่ท่านกำลังเล่นในรอบนั้นๆอยู่ อาจจะไม่ต้องทั้งวันเพราะโดยทั่วไปรอบหนึ่ง จะกินเวลาไม่เกิน 30 - 60 นาที จบแล้วออกข้างไปขึ้นรอบใหม่

ส่วนเงื่อนไขของระบบเทรดนั้น ผมกำหนดการซื้อขายจาก TRIX หรือ Triple Exponential เพื่อใช้ในการขจัดค่าผันผวนและดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของราคา เพื่อหาสัญญาณซื้อ ขาย โดยผมใช้ STO ในการสนับสนุนการตัดสินใจของ Buy Signal และ Sale signal แน่นอนว่าการพิจารณา OB OS ย่อมมีผลในการตัดสินใจ ซื้อ ขายด้วย


อีกส่วนคือการแก้สถานการณ์ปัจจุบัน ผมใช้แนวคิด trend rider ท่องไปตามคลื่น โดยพิจารณาตาม แนวรับ แนวต้าน ที่เส้น Trend Line ผ่าน กรณีที่ราคาเปลี่ยนเทรนด์ หลุดมาทดสอบแนวรับแล้วราคาเกิดหลุดแนวรับ ก็จะทำการขายออก กรณีที่ราคาไม่ลงจนสุดแล้วเกิดกลับใจทดสอบแนวต้าน(แนวรับเดิมที่จากมา) แล้วผ่าน ยืนเหนือแนวนั้นได้ก็จะทำการซื้อกลับ ดังนั้นการเทรดแบบรายวันจะต้องอาศัยทั้ง indicator ในการนำทาง และอีกส่วนคือการอ่านแนวโน้มและขี่ไปตามแนวโน้มนั้น บางครั้งต้องผสมผสานทั้งจิตวิทยา ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบ Bid Offer ที่ปรากฏ การสังเกตจึงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่ต้องมีและฝึกจนเชี่ยวชาญ เพื่อให้เราชนะในเกมส์รายวัน เกมส์ที่รวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา



การจัดการเงินลงทุน
การจัดการเงินทุนเป็นเรื่องใหญ่ ในการลงทุนในรูปแบบนี้ เพราะแน่นอนว่า ความผันผวนและโอกาสที่จะแพ้ชนะในแต่ละครั้งย่อมเกิดขึ้น การไม่ทุ่มแท่งหมดหนัาตัก ย่อมจะเป็นผลดีที่สุด สูตรของผมคือผมแบ่งเงินจากการลงทุน Day Trade เป็น 3 ก้อน นั้นคือ กองหน้า กองกลาง และกองหลัง ขนาด 30-40-40 โดยปกติ ผมจะเลือกที่ทยอยลงทุนในรอบนั้น กรณีที่ผ่านแนวต้าน 1 ไปได้ก็จะทยอยลงทุนต่อในกองกลาง และกองหลัง ที่สำคัญคือ ลงทุนเฉพาะเกมส์ที่เรามั่นใจ

นอกจากนี้กฏสำคัญคือ อย่าคิด ถั่วเฉลี่ยถ้าคุณติดดอยจาก Day Trade เพราะหุ้นพวกนี้บางทีราคาต่ำกว่า 1 บาท มันมีสภาพคล่องน้อยถ้า ไม่มีคนเล่นโอกาสเงินจะจมและติดนานมีสูง เพราะฉนั้นถ้าพลาดต้องรีบ Cutlose เพื่อป้องกันความเสี่ยง ที่สำคัญอย่าได้คิดจะถือยาวเอาปันผลเพราะหุ้นพวกนี้พื้นฐานและปันผล มีน้อยแทบจะหาไม่ได้ นอกจากนี้ถ้าหมดฤดูกาล ราคาจะดิ่งลงได้ถึง 30% และ sideway เป็นหลายเดือนทีเดียว เพราะฉนั้นเมื่อมันคือเกมส์ เราต้องรู้จักแพ้ รู้จักมีวินัยในการลงทุน

ถ้าจะเสี่ยงจงเอากำไรไปเสี่ยง หัวใจสำคัญของนักลงทุนต้องรู้จักประเมินความเสี่ยงในแต่ละครั้งให้ได้ ไม่ใช้ว่าเคยได้มาทุกรอบ รอบสุดท้ายแทงหมดตัว เจ๊งครับ เพราะคุณไม่มองความเสี่ยงที่จะเกิด ต้องประเมินเป็น % ให้ได้ เสี่ยงมากลงทุนน้อย หรือเอากำไรไปลงทุน จะปลอดภัยที่สุดครับ


สิ่งที่ไม่ได้พูดถึง
แน่นอนว่า ผมแค่ปูแนวคิดพื้นฐานของการลงทุนแบบ Day Trade ให้ท่านผู้อ่านได้ไปศึกษาต่อ และอยากจะกระตุ้นไอเดียให้เห็นว่าการลงทุนแบบ Day Trade ไม่ได้เป็นการพนันเสมอไป สิ่งที่ผมไม่ได้สอนแต่ต้องใช้นั้นคือ การพิจรณา Volume และ การดู Bid-Offer ซึ่งสองตัวนี้มันไม่เป็นระบบที่ตามตัว และต้องใช้ประสบการณ์ในการพิจรณา เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิคถ้าดูแต่ราคาอย่างเดียวโอกาสโดนหลอกจะมีได้ ที่สำคัญ การขึ้นลงของราคาหุ้น มันอยู่ในกฏของ Demand Supply จากคนสองกลุ่มซึ่งจะสามารถสะท้อนออกมาจาก Volume และการวาง Bid Offer ได้ หัวใจสำคัญคือต้องซื้อในช่วงที่หุ้นเริ่มวิ่ง หรือในช่วงสะสมหุ้นปลายๆ ถ้าช้าหรือค่อมจังหวะไม่ควรเสี่ยงเข้าไปลงทุน ควรรอรอบถัดไป จำไว้ว่าตลาดหุ้นไม่หนีท่านไปไหนมีหุ้นแบบนี้ทุกวันที่เปิดทำการ

สรุป
สิ่งที่ผมเขียนมานี้ ไม่ได้มุ่งเน้นให้ท่านผู้อ่านลงทุนแบบ Day Trade เป็นในชั่วข้ามคืนแต่เพียงอยากแชร์ไอเดียว่าการลงทุนแบบ Day Trade มันไม่ใช่การพนันเสมอไป มันคือเกมส์ที่คุณมีโอกาสชนะได้ ถ้าเราเตรียมตัวมาพร้อม และไม่โลภ ความโลภ ความอยาก มันคือเครื่องมือที่ใช้ล่อแมงเม่า การมีสติ สามารถตัดเวทนา ตัณหา และอุปทานที่เกิด จากการจ้องมอง ราคาหุ้นได้ จะทำให้เราอยู่ในเกมส์ของเรา และลงทุนแบบเป็นระบบ

Day Trade เป็นการกินคำเล็กกินบ่อยๆ เมื่อท่านมีเวลาติดตามข้อมูล ถ้าทำได้สม่ำเสมอทุกวัน วันละ 2% ชนะสัก 70%(ถูก 7 ผิด 3) ทั้งเดือน รายได้ก็ไม่เลวเลยทีเดียวครับ ที่สำคัญ Day Trade ยังช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนตอนช่วงตลาดซึม ไม่มีปัจจัยดีใหม่มาเสริมตลาดได้

สุดท้ายนี้ของย้ำอีกครั้งว่า วิธีนี้ไม่สามารถรับประกันได้ว่าท่านจะไม่ขาดทุน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์ การฝึกฝนและวินัยในการลงทุน ที่ผู้ลงทุนต้องเรียนรู้และสะสมเอง ถ้าคุณลงทุนมาสักสองปี เล่น Day Trade ทุกวันจะรู้ว่าประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเสมอ หุ้นตัวเดิมก็มี Market maker เดิมๆมี signature เดิมๆ ถ้าเข้าใจก็จะขี่เทรนด์ทำกำไรแบบพอสมควรไปได้ ข้อสำคัญคืออย่าโลภ นั้นเอง