มีน้องคนหนึ่ง เพิ่งจบ ม.6 เข้ามาปรึกษา อยากมาเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลา จะไม่เรียนมหาลัยแล้ว จะลุยเลย ...
ก่อนเริ่มผมอยากหยุดคิดทำความเข้าใจก่อนคือ มันไม่ได้หมายความว่าการเทรดคือ วันๆนั่งส่องกราฟอยู่บ้าน อ่านกราฟเป็น ดูเส้นตัดกัน เฝ้าจอได้ไม่ต้องศึกษาอะไรแล้วก็จบ
การเทรด โดยเฉพาะถ้าพัฒนาระบบขั้นสูงเพื่อประสิทธิภาพ ความรู้ ความเข้าใจ สำคัญมาก ความรู้จะเกิดได้ทางหลัก เช่น จากการอ่านการศึกษา อันนี้บอกเลยว่า ถ้าขาดทักษะทางวิชาการก็ยากจะต่อยอด จะมาอ่านบทความภาษาไทย เรียนแบบเวอร์ชั่นไทย ถ้าพื้่นฐานพอมีแต่ขั้นสูงบอกเลยว่า แทบไม่มีครับ
ถ้าอยากพัฒนาเร็วก็ต้องอ่านบทความต่างประเทศ ดังนั้นทักษะภาษาอังกฤษก็ต้องมี บทความส่วนใหญ่เป็นวิชาการ โดยเฉพาะพวก การบริหารเงิน บริหารความเสี่ยง ตรงนี้ทักษะคณิตศาสตร์ สถิติก็ต้องได้พอประมาณ
อีกทางของความรู้ด้านการเทรด มันมาจากการทดลองการวิจัย ตรงนี้อาศัยทักษะของการทำงาน การคิดเป็นระบบ อาศัยความรู้ด้านคอมพิวเตอร์(ระดับหนึ่ง) มันจึงไม่ใช่ ว่าไม่รู้อะไรเลยแล้วจะไปได้รุ่งไปได้ไกล ในยุคที่ต้องแข่งขันสูง แถมคนต้องแข่งกับพวก คอมพิวเตอร์(algorithmic trading)
น้อง หรือใครๆก็ตามจะมาเป็น fulltime trader คิดให้ดี คือ เรื่องของครอบครัว หาทางดีล กับทัศนคติของ คนในครอบครัว คนรอบข้างให้ได้ ก่อน ไม่งั้น เจอปัญหาปวดตับ ตามมาอีก
ถ้าถามว่าในต่างประเทศมีคนทำได้ไหม ก็มี เด็กฝรั่งทำได้ แต่เขามีครอบครัว สนับสนุน พวกนี้เหมือนนักกีฬาอาชีพ เริ่มมาตั้งแต่ 14 เลย ฝึกหนัก ใช้ยา เป็นเด็กของ ชมรม หรือสมาคม ที่มีบริษัทสนับสนุน มีเส้นทางอาชีพรอ แบบนี้โอกาสสำเร็จ สูงและเร็ว เพราะชีวิตเขาออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ดังนั้นถ้าให้ผมแนะนำจริงๆ ถ้าวุฒิภาวะไม่ดี ไม่มีวินัยการบังคับตัวเองได้ดี เรียนมหาวิทยาลัยก่อนก็ดี ใช้เวลาเพาะบ่มก่อน ไปหัดทักษะ กระบวนคิด การวิเคราะห์แก้ปัญหา (อันนี้สำคัญมาก)
รวมถึงสะสมประสบการณ์ทำงาน การควบคุมอารมณ์ พัฒนาธาตุทรหด ก่อนก็จะดี เพราะเมื่อมาเทรด เราต้องรับมือดราม่าทางอารมณ์เยอะ
ถ้าไม่มีคนสนับสนุน ค่อยไปครับ ระหว่างเรียนก็หาหนังสือมาอ่าน หัดเทรดไปด้วยก็ได้ แต่อย่างรีบร้อน เข้ามาเทรดเพราะคิดว่ามันง่าย มันรวยเร็ว มัน slowlife ของแบบนี้ไม่มีจริงตามโฆษณาหรอกครับ
เริ่มช้าหรือเร็วไม่ใช่ประเด็น ไม่ต้องรวยพันล้านหมื่นล้านตั้งแต่ 30 ก็ได้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเริ่มอย่างมั่นคง ดีที่สุด
รูปจาก
Dreamstime.com
ก่อนเริ่มผมอยากหยุดคิดทำความเข้าใจก่อนคือ มันไม่ได้หมายความว่าการเทรดคือ วันๆนั่งส่องกราฟอยู่บ้าน อ่านกราฟเป็น ดูเส้นตัดกัน เฝ้าจอได้ไม่ต้องศึกษาอะไรแล้วก็จบ
การเทรด โดยเฉพาะถ้าพัฒนาระบบขั้นสูงเพื่อประสิทธิภาพ ความรู้ ความเข้าใจ สำคัญมาก ความรู้จะเกิดได้ทางหลัก เช่น จากการอ่านการศึกษา อันนี้บอกเลยว่า ถ้าขาดทักษะทางวิชาการก็ยากจะต่อยอด จะมาอ่านบทความภาษาไทย เรียนแบบเวอร์ชั่นไทย ถ้าพื้่นฐานพอมีแต่ขั้นสูงบอกเลยว่า แทบไม่มีครับ
ถ้าอยากพัฒนาเร็วก็ต้องอ่านบทความต่างประเทศ ดังนั้นทักษะภาษาอังกฤษก็ต้องมี บทความส่วนใหญ่เป็นวิชาการ โดยเฉพาะพวก การบริหารเงิน บริหารความเสี่ยง ตรงนี้ทักษะคณิตศาสตร์ สถิติก็ต้องได้พอประมาณ
อีกทางของความรู้ด้านการเทรด มันมาจากการทดลองการวิจัย ตรงนี้อาศัยทักษะของการทำงาน การคิดเป็นระบบ อาศัยความรู้ด้านคอมพิวเตอร์(ระดับหนึ่ง) มันจึงไม่ใช่ ว่าไม่รู้อะไรเลยแล้วจะไปได้รุ่งไปได้ไกล ในยุคที่ต้องแข่งขันสูง แถมคนต้องแข่งกับพวก คอมพิวเตอร์(algorithmic trading)
น้อง หรือใครๆก็ตามจะมาเป็น fulltime trader คิดให้ดี คือ เรื่องของครอบครัว หาทางดีล กับทัศนคติของ คนในครอบครัว คนรอบข้างให้ได้ ก่อน ไม่งั้น เจอปัญหาปวดตับ ตามมาอีก
ถ้าถามว่าในต่างประเทศมีคนทำได้ไหม ก็มี เด็กฝรั่งทำได้ แต่เขามีครอบครัว สนับสนุน พวกนี้เหมือนนักกีฬาอาชีพ เริ่มมาตั้งแต่ 14 เลย ฝึกหนัก ใช้ยา เป็นเด็กของ ชมรม หรือสมาคม ที่มีบริษัทสนับสนุน มีเส้นทางอาชีพรอ แบบนี้โอกาสสำเร็จ สูงและเร็ว เพราะชีวิตเขาออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
รวมถึงสะสมประสบการณ์ทำงาน การควบคุมอารมณ์ พัฒนาธาตุทรหด ก่อนก็จะดี เพราะเมื่อมาเทรด เราต้องรับมือดราม่าทางอารมณ์เยอะ
ถ้าไม่มีคนสนับสนุน ค่อยไปครับ ระหว่างเรียนก็หาหนังสือมาอ่าน หัดเทรดไปด้วยก็ได้ แต่อย่างรีบร้อน เข้ามาเทรดเพราะคิดว่ามันง่าย มันรวยเร็ว มัน slowlife ของแบบนี้ไม่มีจริงตามโฆษณาหรอกครับ
เริ่มช้าหรือเร็วไม่ใช่ประเด็น ไม่ต้องรวยพันล้านหมื่นล้านตั้งแต่ 30 ก็ได้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเริ่มอย่างมั่นคง ดีที่สุด
รูปจาก
Dreamstime.com