ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

trading psychology 101

ชวนมาเรียนเรื่อง trading psychology สัปดาห์นี้ผมเตรียม vdo เรื่องจิตวิทยากับการเทรด จำนวน 8 ตอนความยาวกว่า 3 ชม. ไว้ให้สมาชิกได้ศึกษากัน  สามารถเข้าไปชมได้ที่ช่องจา ก link ด้านล่างครับ https://www.youtube.com/playlist?list=PLm21We5eSHK82y_r0MLnUWl4ResegbJJ-

เทรดหุ้นโดยไม่ต้องตัดขาดทุน

มีคำถามมาทางกล่องข้อความ อยากให้แนะนำวิธีเทรดหุ้นโด ยไม่ต้องตัดขาดทุน(stoploss ) จริงๆต้องเริ่มต้นทำความเข้ าใจเรื่อง stoploss ก่อนนะครับ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่มีห รือไม่มี stoploss ประเด็นหลักมันอยู่ที่การจั ดการกับการขาดทุนที่เกิด ถ้าจะเอา stoploss ออกจากสมการง่ายมาก เราก็ต้อง จัดการความเสี่ยง(Risk) ที่เกิดจากความผิดพลาดให้ได ้ก่อน  วิธีการเอาแบบ basic กำปั้นทุบดินไม่ต้องพูดถึงป ระสิทธิ์ภาพการใช้เงิ นเลยนะ step1 >> คิดว่าเรามีเงินทุน(balance ) เท่าไหร่ step2 >> คำนวณค่าเรารับการขาดทุนสูง สุดได้เท่าไหร่ (ขาดทุนแล้วนอนหลับ ไม่หมดตัว ไม่เครียด) step3>> เทรดหุ้นเท่าจำนวนเงิน ขาดทุนที่รับได้ ตย. คุณมีเงิน 1,000,000 รับการขาดทุนได้ 30000 บาท หรือก็คือ 3% ของเงินทั้งหมด ดังนั้น ก็ไปเทรดหุ้น aa ด้วยเงินแค่ 30000 บาทราคาหุ้นละ 100 บาทซื้อได้ 300 หุ้น >> สมมติเกิดขาดทุน worst case คือหุ้นมูลค่าเป็นศูนย์ หรือบริษัทล้มละลาย ก็จะเสียเงินสูงสุด 30000 บาทเท่านั้น เลือกหุ้นหรือสินค้าที่เทรด ดีๆถ้ามันเกิดได้ยากก็แปลว่ าโอกาสขาดทุนหมดเงินก็จะต่ำ ลง แถมทำให้ ไม่ต้องรีบ stoploss

trading view & back testing tool

มีคนถามถึง โปรแกรมทดสอบระบบ อย่างง่าย ฟรี และไม่ต้องเขียนโปรแกรมยุ่ง ยาก(แหม ช่างอยากได้จริงๆ) ผมแนะนำ trading view ครับ เพราะมันทดสอบระบบ กลยุทธ์การซื้อขายเบื้องต้น ได้ ง่ายด้วย script ไม่กี่บันทัด เรียกใช้ indicator มาผูกรวมกันได้ กรณีอยากรู้ว่า logic หรือ idea ของเงื่อนไขซื้อขาย มัน OK ไหมลองดูได้ อีกข้อดีคือ product เยอะ ตามสไตล์ trading view เพราะข้อนี้ผมถึงได้มาลองใช ้ เนื่องจากจะทดสอบกับ ETF ก ็เลยมาลองเล่นของเจ้านี้ Strategies tester เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ trading view เพิ่งออกมาไม่นาน โดยเพิ่มจาก pine script เดิมที่มีซึ่งเปิดให้นักพัฒ นาไปเขียน code สร้าง indicator หรือ model บน platform (แต่ปัจจุบันยังสู้ MT4 MT5 เพราะ pine script มันมีข้อจำกัดในการ implement ระบบขั้นสูง ) การทำงานก็ง่ายเขียน code และ compile จากนั้น build ใส่ในกราฟ มันจะทดสอบกับข้อมูล ย้อนหลังให้ระดับหนึ่ง และ ก็รัน real time mode แบบ forward test บน web application ให้ด้วย รวมๆสำหรับ ของฟรีก็ OK มากเลย อย่างในภาพผมก็เขียน code ทดลองซื้อขายแบบง่ายๆแบบ pyramid trading ก็ได้ผลดังภาพ จาก code ไม่ถึง 10 บรรทัด รวมๆก

การใช้งาน trailing stop

เรียนเรื่องการใช้ trailing stop ในการเทรดกัน โดยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มประ สิทธิภาพการเทรดและลดการขาด ทุนกำไรจากความผันผวนของราค าได้ โดยบทเรียนแบ่งเป็น 3 ตอน ดังนี้ - introduction - Type of trailing stop  - Trailing stop method เข้าชมได้จาก link ด้านล่าง https://youtu.be/ XzVdzoTUCz4 https://youtu.be/ rfSUBRtyLIk https://youtu.be/ 0YNJiHI4bQA

กลยุทธ์อะไรดีที่สุด

-ถ้าเราไปฟังคนใช้ "Trend Following" ก็จะได้ยินคำโฆษณาและพูดแต่ ข้อดีของมัน -ถ้าเราไปฟังคนใช้ "Swing Trading" ก็จะได้ยินคำโฆษณาและพูดแต่ ข้อดีของมัน -ถ้าเราไปฟังคนใช้ "แท่งเทียน ใช้กราฟเปล่า" ก็จะได้ยินคำโฆษณาและพูดแต่ ข้อดีของมัน - ถ้าเราไปฟังคนใช้ "Grid system" ก็จะได้ยินคำโฆษณาและพูดแต่ ข้อดีของมัน ดังนั้นสาระคงไม่ใช่ "การเชื่อ" เคลิ้มไปตามผู้พูด หรือการมานั่งเปรียบเทียบว่ ากลยุทธ์อะไรดีที่สุด แต่สาระคือ การเข้าใจ หาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับต ัวเรา  อย่าใช้กลยุทธ์เพียงเพราะเช ื่อว่ามันจะดี เชื่อมั่นตามคำบอกเล่าหรือ เชื่อเพียงเพราะท่องจำต่อๆก ันมา แต่ไม่เข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจก็มองไม่เห็น ข้อจำกัด ข้อเสียของกลยุทธ์ มองไม่เห็นความเสี่ยง สุดท้ายพอเจ๊งขาดทุน ก็โทษเครื่องมือ โทษระบบ เปลี่ยนสำนัก เปลี่ยนกูรู หากลยุทธ์ใหม่ วนซ้ำพายเรือในอ่างไม่รู้จบ  จนกว่าจำหมดแรงเลิกเป็นเทรด เดอร์ไป ถ้าอยากศึกษากลยุทธ์ อย่าไปฟังแค่สรรพคุณข้อดี จงตั้งคำถาม ถึงข้อเสีย ข้อด้อยของกลยุทธ์ แล้วทำความเข้าใจ ก่อนจะนำมันมาใช้ แล้วให้เวลาในการทดลองลงมือ ปฏิบัติ ให้มาก

Bear Market Survival Guide

แนะนำ paper หนึ่งให้ลองอ่านกันชื่อ Bear Market Survival Guide ของ vanguard  ที่ อยากให้อ่านเพราะอยากให้เห็นภาพว่าตอนวิกฤติมันเกิด ตลาดหมีมันมามันเป็นอย่างไร เราจะมีกลยุทธ์เอาตัวให้รอดอย่างไร  ผมว่าปัญหาของนักเก็งกำไรรุ่นหลังคือ เราเริ่มเรียนแต่จะหากำไร แต่มักจะละเลยเรื่อง การเอาตัวรอด หรือการเล่นเกมส์รับ การบริหารความเสี่ยง paper นี้พูดถึงวิกฤติตอน .dotcom ปี 2000–2001 ตอนนั้นตลาดสหรัฐวิ่งกระฉูดติดกันมานาน จนถึงจุดระเบิดร่วงลง -33% โดยผู้เขียนสรุปเทคนิค 6 ข้อสำคัญในการรับมือวิกฤติไว้ ประวัติศาสตร์มันสอนอะไรเราเยอะนะครับ การอยู่รอดมันไม่ได้มาจากการทำกำไรได้เยอะๆ เร็วๆ แต่มันมาจากการเข้าใจ และรู้จักวางแผน บริหารจัดการความเสี่ยง รับมือกับอนาคตที่เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิด ลองศึกษาดูครับ http://www.vanguard.com/pdf/bmsg.pdf

Wallstreet meet Silicon valley

ปัจจุบันมันกลายเป็น wall street ร่วมกับ silicon valley ไปแล้ว จะบอกว่ากลุ่มเนริ์ด ไม่มาทำอะไรแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้แล้วในตอนนี้ อย่างปัจจุบัน HFT ที่เน้นเร็ว เน้นได้เปรียบความเร็ว ก็ได้ทีมวิศวกร พัฒนาระบบประมวลผลและการรับส่งข้อมูลจากจนการ execute order มันเร็วขึ้นจาก microseconds ไป nano second ที่พัฒนาไปมากในช่วงปีนี้คือ HFT ไม่เน้นเร็วอย่างเดียว มันเน้นฉลาด เพิ่มความสามารถด้วย Machine learning เข้าไป บวกกับเทคโนโลยี Big Data การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมจากอินเตอร์เน็ตจาก social media ทำให้มันคิดประมวลผลสถานการณ์ที่เกิด ประเมิน sentiment ตลาดจากข่าว และจัดค่าน้ำหนักเพื่อคัดกรอง จากนั้นชิงตัดหน้าด้วยความเร็ว ในการเข้าซื้อขาย การเข้าออกที่เร็วและมีปริมาณมาก ทำให้เกิดผลต่อ volatility ตลาด เกิดการเคลื่อนที่ของพฤติกรรมราคา ทำให้ มีผลต่อการตัดสินใจ ของผู้เล่น อื่นๆในตลาดตามมา แล้ว HFT ก็ใช้ความได้เปรียบในการเข้าออก เพื่อเก็บกำไรที่ได้จากสถานการณ์ที่เกิด ตรงนี้มันกลายเป็นกลยุทธ์แล้วเป็นความได้เปรียบมหาศาลของ smart player ระดับนี้ แน่นอนว่าอนาคต ความยากในการเทรดคงจะเพิ่มมา