ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

รีวิว TFEX Gold Online Futures

สินค้าใหม่ของ TFEX วันนี้น้องมาร์เก็ตติ้ง โทรมาแนะนำสินค้า Gold Online Futures(GO) ตัวนี้ จะเริ่มเทรด 5 พ.ย. 2561 ได้ข้อมูลเยอะพอสมควร บวกกับลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มจากเว็บ TFEX ขอนำเอาจุดเด่นมาสรุปให้ดูกัน สินค้านี้ชื่อย่อ GO จุดแตกต่างจาก GF คือเทรดราคาทองคำอิงราคาสากลของโลก หน่วยในสกุล USD (หลังจากรอมานานและเคยมีการพูดถึงหลายรอบในอดีต) โดย GO ใช้สินค้าอ้างอิงเป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.5% ราคาไม่ต้องไปเชื่อมกับค่าเงินบา ทและใช้สมการการคำนวณแบบ GF นั้นหมายความว่า ไม่ต้องไปรับความเสี่ยงจากค่าเงินบาท แถมราคาจะเคลื่อนที่ตามทิศทางตลาดโลก (แน่นอนว่าจะมี GAP ช่วงการเปิดตลาดในตอนเช้า) เช่นเดียวกับ สามารถใช้ระบบเทรดแบบเดียวกับ ราคาทองคำในตลาดโลกโดยตรง โดย GO 1 สัญญามีมูลค่า 300 เท่าของราคาทองคำ ขนาด Tick ระดับ $0.1 คิดเป็นมูลค่าจุดละ 30 บาทต่อสัญญา (ราคาทองคำขยับ $1 คิดมูลค่า 300 บาทต่อสัญญา) ตัวนี้ Trading Session เหมือนกับ GF คือมีทั้งเช้าและกลางคืน(19:00 – 23:55) รูปแบบสัญญาซีรีย์ละ 3 เดือนหมดอายุทุกๆไตรมาส และส่งมอบเป็น Cash Settlement ด้านค่าคอมค่อนข้างพอควร เทรดผ่านอินเตอร์เน็ตไปกลับ 1

40 แก่ไปไหมที่จะเริ่มเป็นเทรดเดอร์

คำถามกลุ่มหนึ่งที่พบบ่อยมากๆทาง email คือปรึกษาเรื่องอายุ เช่นอยากเข้ามาเทรดหุ้น อยากเริ่มเทรดทองคำ อายุ 40 แก่ไปไหม เริ่มช้าจะเสียเปรียบเด็กอายุน้อย จะสำเร็จยากหรือเปล่า? สำหรับผมยังไม่ 40 คงไม่ได้ตอบในฐานะคนอายุเยอะ แต่ตอบในมุมมองของข้อมูลและความเป็นจริงที่เกิด ผมมีโอกาสได้อ่านบทความ Research: The Average Age of a Successful Startup Founder Is 45 ของ Harvard Business Review ผู้เขียนเขาอ้างงานวิจัยข้อมูลจาก VC และ Media  ต่างๆพบว่า ผู้ก่อตั้งบริษัท startup ที่ประสบความสำเร็จในอเมริกา มีอายุเฉลี่ยราวๆ 40 ปี ในกลุ่ม software และอายุเฉลี่ย 47 ปีในทุกประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม ถ้าจำแนกลงไปกลุ่ม 0.1% บริษัท Startup ที่เติบโตทำกำไรต่อเนื่องช่วง 5 ปีแรก อายุเฉลี่ยของ Founder อยู่ช่วง 45ปี นี้คือข้อมูลที่รวบรวมจากงานวิจัยของ Harvard ซึ่งพบว่าแตกต่างจากบริษัท startup ยุคแรกกลุ่ม extreme outlier ที่ประสบความสำเร็จ founder อายุช่วงต้น 20 ปี เช่น Bill Gates, Steve Jobs, Jeff Bezos, Sergey Brin และ Larry Page แต่พอวิเคราะห์แง่ market cap growth rate ของกิจการ บริษัทเหล่านี้ก็มา Peak ในช่ว

3 lessons on decision making from a poker champion

Liv Boeree นักโป๊กเกอร์อาชีพหญิงระดับโลกเจ้าของแชมป์รายการ European Poker Tour 2010 และเป็นแชมป์ WSOP 2017 ประเภท Tag Team เธอขึ้นเวที Ted Talks แชร์เรื่องราวแง่คิดเกี่ยวกับการตัดสินใจ(Decision Making) ของเธอซึ่งเธอได้เรียนรู้จากการเล่นโป๊กเกอร์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 1. Luck & Skill เธอเล่าให้ฟังเรื่องของดวงหรือโชคดี ที่บ่อยครั้งมันเข้ามามีผลต่อชีวิต ต่อเกมส์การเล่น แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ไปยึดติดหรือพึ่งพาโชคมากจนเกินไป เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้ายในชีวิต มันล้วนย่อมเกิดจากผลการตัดสินใจและการกระทำของตัวเรา บ่อยครั้งถ้าติดกับโชค ติดกับผลที่ได้จากโชคดี(เช่นกำไรที่ได้จากช่วงตลาดกระทิงขาขึ้น เทรดที่แย่แต่ก็ยังได้กำไร) มันจะยิ่งทำให้เราประมาท มี ego และมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ยิ่งทำให้เสี่ยงสูง สุดท้ายล้มเหลวหรือหายนะได้ นอกจากนี้ผลตอบแทนที่ได้จากโชค(Luck) มันแตกต่างจากผลตอบแทนที่ได้จากทักษะ(skill)หรือฝืมือ ซึ่งถ้าเราฝึกฝนจนชำนาญ ความสามารถในการทำซ้ำ หรือทำให้ได้ต่อเนื่องระยะยาวมันก็จะเกิดได้ สร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป 2. Quantification ข้อนี้เธอแนะนำใ

5 things I learned from Igor Tulchinsky

สัปดาห์นี้ได้อ่านบทความ Investing Lessons From the Top of a $7.3 Billion Quant Fund ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ของคุณ Igor Tulchinsky CEO และผู้ก่อตั้ง WorldQuant LLC (quantitative hedge fund , $7.3 billion) ออกมาในช่วงโปรโมทหนังสือเล่มใหม่ The UnRules: Man, Machines and the Quest to Master Markets ผมเป็นแฟนหนังสือของคุณ Igor Tulchinsky ตั้งแต่เล่มแรก พอได้อ่านบทความนี้จบคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เลยอยากสรุปประเด็นสำคัญให้ได้ศึกษากัน 1. Take risks and to remain an optimist - คุณ Tulchinsky อพยพหลบหนีจากโซเวียตมาใช้ชีวิตในสหรัฐตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เริ่มต้นจาก 0 ใช้ชีวิตในห้องเช่าเล็กๆ ประสบการณ์สอนเขาว่าคงมีไม่กี่สิ่งที่เสี่ยงมากไปกว่านี้แล้ว ทำให้ เขากล้าเสี่ยง มองมุมบวก มุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรค ผ่านช่วงที่เลวร้ายและความไม่แน่นอนไปได้ 2. Simulation อายุ 17 ปีเขาได้เริ่มเป็น video-game programmer สิ่งที่ได้เรียนรู้คือเรื่องของการคิดสร้างสรรอย่างเป็นระบบ การหาคำตอบบนความไม่แน่นอนด้วยการโมเดลปัญหาแล้วสร้าง simulation เพื่อหาผลลัพธ์หรือทางแก้ปัญหาที่เป็นได้มากที่สุด 3. Cutting losse

Optimal trading rule without overfitting

paper ที่ผมพูดถึงเมื่อคืน ตัวอย่างการหลีกเลี่ยง Overfitting ในการทำ optimization จาก backtest แนวคิดสไตล์นี้มีเยอะมาก ลองหาอ่านได้โดยเฉพาะเทคนิคใหม่ๆ ตัวอย่างนี้คุณ Marcos López de Prado เขาใช้ discrete Ornstein-Uhlenbeck process (stochastic process) สร้าง Data เพื่อทดสอบ trading strategy และทำการ optimization ค่า Sharpe ratio โดยทำการสุ่มปรับค่าของ SL และ TP เพื่อให้ได้ที่ดีที่สุดตามเงื่อนไข บน time seri es data ที่สร้างจาก O-U process แทนการใช้ข้อมูลในอดีต(Historical data) ขอไม่ลงรายละเอียดเชิงลึกมาก แต่อยากแนะนำให้ลองศึกษาดูเพราะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ และทดสอบกลยุทธ์การเทรดบนสภาวะ random walk ได้ดีทีเดียว ดาวน์โหลดได้จาก https://arxiv.org/abs/1408.1159

Gold and inflation Q3 2018

ทองคำช่วงนี้ราคายังอยู่โซนต่ำ แถวระดับ $1200 ความน่าสนใจช่วงนี้จะเริ่มเห็นแรงเชียร์ บทวิเคราะห์เชิงบวกมากขึ้นตลอดเดือนที่ผ่านมา อย่างล่าสุด Francisco Blanch หัวหน้า นวค.ของ Bank of America Merrill Lynch มอง Gold จะไป $1350 ในปี 2019 ท่ามกลางเหตุผลต่างๆนานาๆเชิงบวก อันนี้คงรอดูต่อไปว่าปีหน้าทองจะกลับมาได้หรือเปล่า วันนี้ผมได้อ่านบทความชิ้นหนึ่งของ Mark Rzepczynski พูดถึงความไม่ปกติแง่พฤติกรรมความสัมพันธ์ของราคาทองคำ กับเงินเฟ้อ(inflation) ที่ดูเ หมือนแตกต่างจากอดีตที่ผ่าน เนื่องจากข้อมูล CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Core inflation ทั้ง US และ EU ก็ปรับขึ้นมาระดับ 2% แต่ราคาทองคำในปีนี้ ยังอยู่ระดับที่ต่ำและมีสัญญาณการถดถอยอยู่ เช่นเดียวกันจากการทำ QE ที่ผ่านมาการเข้าซื้อ Bond จำนวนมหาศาลของ ECB และ Fed นั้นน่าจะทำให้ตลาด fixed income มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติ โดยสรุปคุณ Mark Rzepczynski ชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำปัจจุบันมีบางอย่างแตกต่างไปจากพฤติกรรมในอดีต เหมือนตลาดยังเชื่อว่า inflation ยังถูกจำกัดและน่าจะกดอยู่ (ยังไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในเวลานี้) ขณะที่

It Was the Worst of Times: Diversification During a Century of Drawdowns

เช้านี้ผมเพิ่งมีโอกาสอ่าน paper ล่าสุดของ AQR จบพบว่าน่าสนใจอยากนำมาแนะนำ paper นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การป้องกันความเสี่ยงและการถดถอยของพอร์ต จากตลาดหุ้นขาลงและฟองสบู่ โดยทีมวิจัยทำการวิเคราะห์ข้อมูล asset ต่างๆในรอบเกือบ 100 ปี ทดสอบประเมินผลกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยง(Diversification)แบบดั่งเดิม(ผสมหลาย asset class) และการทำ Hedging (แบบต่างๆทั้งด้านกลยุทธ์และการใช้อนุพันธ์เช่น put opt ions) เพื่อเปรียบเทียบและประเมินด้านต้นทุนและผลตอบแทนเชิงชดเชยที่ได้รับในช่วงตลาดเลวร้าย การวิจัยโฟกัสไปที่ความคุ้มค่าของการ trade off จากการทำ diversification และการ hedging เพื่อลดและป้อกัน equity drawdowns ผลการทดลองน่าสนใจมากแต่ผมคงไม่นำมาเขียนในทีนี้เพราะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องอธิบายกันเยอะ เดี่ยวคนไม่เข้าใจจะไปตีความผิด แต่ผมแนะนำให้ลองอ่าน paper นี้อ่านแบบวิชาการไม่ต้องรีบเชื่อหรือมีธง แค่ data ที่เขารวมหรือประมวลผลออกมา มันก็มีประโยชน์มากโขแล้ว ยังไม่นับรวมเทคนิคการป้องกันความเสี่ยงในแบบต่างๆหลาย level สปอยให้นิด ผลการวิจัยค่อยข้างน่าสนใจ เช่นความเชื่อหลายอย่างในการท