ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ เล่นหุ้น

เหนือฟ้ายังมีฟ้า

สมัยเด็กผมชอบดูหนังจีนกำลังภายในมาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับวัดเส้าหลิน จำได้ว่าพระวัดนี้ฝีมือยุทธ์ล้ำเลิศ ใครได้มาเรียนกังฟู ได้มาฝึกวิชาที่วัดนี้ จบไปถือว่าเป็นสุดยอดทั้งด้านฝีมือและคุณธรรม แต่แน่นอนว่ากว่าจะลงจากเขามาสู่จงหยวนได้ต้องผ่านด่านอรหันต์ทองคำหรือค่ายกลมนุษย์เส้าหลินในหอตั๊กม้อ ทดสอบฝีมือ ความอดทน แทบปางตาย ต้องพร้อมจริงๆทั้งร่างกายและจิตใจจึงสามารถจะสำเร็จออกไปได้ เมื่อผ่านแล้วยังต้องประทับตาเหล็กร้อนๆบนหลังเพื่อเป็นการันตีว่าได้สำเร็จวิชาชั้นเซียนจากวัดเส้าหลินแล้ว เปรียบดังชีวิตจริงถ้าอยากมีชื่อเสียง อยากให้คนยอมรับ เราก็ต้องเอาชนะด่านอรหันต์ทองคำ ให้ได้ก่อน ต้องผ่านการขัดเกลา ผ่านการหล่อหลอม ประสบการณ์และความสามารถ จนเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วไป บททดสอบที่ยากที่สุดคือการเอาชนะจิตใจของตัวเอง การเอาชนะใจของตัวเองคือการควบคุมจิตใจของเรา ให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควรตามต้องการ มีสติสัมปชัญญะในการพิจารณาการปรุงแต่งของจิตใจที่ไหลไปตามสิ่งเล้าจากภายนอกและก่อให้เกิดอารมณ์ต่างๆ การเอาชนะจิตใจไม่ใช่การหลอกตัวเอง การหลอกตัวเองเปรียบประหนึ่งกับการเอากระดาษมาห่อไฟ อาจจะปิดบังเพื่อไม่ให้คนภ

ขาดทุนเพราะอะไร???

คำว่าขาดทุนดูจะเป็นคำแสลงของนักลงทุนเก็งกำไรแทบทุกคน เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดการขาดทุนเป็นแน่แท้ แต่การลงทุนไม่ว่าจะสั้นหรือยาว อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่สามารถล่วงรู้ทุกสิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้าได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องยอมรับกับคำว่าขาดทุน เหนือสิ่งอื่นใดเราจำเป็นต้องรู้จักความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขาดทุน และเรียนรู้ที่จะหาวิธีควบคุมการขาดทุนไม่ให้เกิดบานปลาย เสียหายใหญ่โตต่อเงินลงทุนของเราเอง ถ้าถามว่าทำยังไงให้ไม่ขาดทุน อาจจะพบว่าคำตอบคือเป็นไปได้ยาก ไม่มีการลงทุนไหนที่จะเชื่อมั่นได้ 100% ทุกอย่างในโลกการลงทุนผมว่ามันเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น การลงทุนเก็งกำไรในจังหวะที่ความน่าจะเป็นที่จะชนะสูง ย่อมหมายถึงโอกาสที่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นดังเราหวังได้เช่นกัน พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงหนังเรื่อง limitless ที่พระเอกเป็นนักเขียนธรรมดาที่ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จ สมองตีบตันขาดไอเดียและขาดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน พอได้ไปกิน NZT ยาที่ทำให้คุณกลายเป็นอัจริยะข้ามคืน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ 100% ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายดาย เช่

เริ่มต้นดีมีชัยไปว่าครึ่ง

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "เริ่มต้นด้วยดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง" มันสะท้อนถึงสัจธรรมความจริงที่ว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใด การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่สำคัญ และสามารถสะท้อนได้ถึงโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในหุ้น  ผมเชื่อว่าทุกคนย่อมมีก้าวแรกที่เริ่มออกเดินกันทั้งนั้น ซึ่งแต่ละคนออกอาจจะออกตัวเดินที่จุดเริ่มต้นและต้นทุนทางสังคมที่แตกต่างกันไป  คนรวยเริ่มต้นด้วยเงินถุงเงินถัง มีเงินจากครอบครัวแบ็คอัพ ก็หมือนได้ขึ้นบันไดเลื่อน ไม่ต้องกดดันมาก เหมือนเดินบนพรม ถ้าเป็นคนจนคนชั้นกลาง อาจจะต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อย กว่าจะหาเงินก้อนมาเริ่มลงทุนได้ แทบลากเลือด แต่สุดท้ายจะเริ่มต้นด้วยเงินมากหรือน้อยเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ เท่าทัศนคติและวิธีคิดเริ่มต้นในการลงทุน การเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากเสมอ เพราะในเรื่องการลงทุนหลายคนไม่ได้มีพื้นฐาน ไม่ร่ำเรียนมาโดยตรง ดังนั้นถ้าจะให้ผ่านช่วงที่ยากที่สุดไป จำเป็นที่จะต้องมีแรงบันดาลใจ ส่วนหนึ่งเราสามารถหาได้จากการอ่านบทความเรื่องราวของ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จำได้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมามี บทความแนวนี้ออกมาค่อนข้างเยอะ ให้เราได้อ่าน ทั้งน

เทคนิครับมือกับตลาดหุ้นขาลง

อาทิตย์ที่ผ่านมาดูจะเป็นอาทิตย์ที่เลวร้ายในชีวิตการลงทุนของใครหลายคน มีหลายท่าน email เข้ามาทักทายและขอคำปรึกษา ผมเองได้ให้คำปรึกษาที่เป็นกลางๆไป ด้วยความที่ไม่ยากฟันธงหรือชี้นำ ไอ้แบบที่จะให้บอกว่าซื้อเพิ่มถั่วเฉลี่ยเข้าไป ,ให้ติดดอยเพื่อรักษาต้นทุน หรือขายทิ้งล้างพอร์ต ผมคงไม่ทำผมเชื่อว่าเงินของท่าน ท่านควรมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจได้เอง ถ้าผ่านจุดนี้ไปไม่ได้ โอกาสจะประสบความสำเร็จก็ยาก แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้แล้ว ผมเชื่อว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่มีค่าอย่างยิ่งในการลงทุน หลังจากดัชนีลดลงมา 100 กว่าจุดในเวลาไม่ถึง สองสัปดาห์ผมเชื่อว่ามันคงทำให้ใครหลายคนตื่นตระหนกได้ไม่น้อย โดยเฉพาะท่านที่เพิ่งเริ่มลงทุนได้ในช่วงตลาดขาขึ้น ยังไม่เคยผ่านวิกฤตหรือเหตุการณ์ตลาดขาลงมาก่อน ด้วยความคิดที่คุ้นเคยว่าตลาดหุ้นทำเงินได้ง่าย ลงไม่เยอะ ลงไม่นานเดี่ยวก็ขึ้น ชุดความคิดนั้นอาจจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปในยาม ที่โลกอยู่ในช่วงเฝ้าระวังกับการกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจทั้งทางฝั่ง ยุโรปและอเมริกา หลายคนยังคิดมองโลกในแง่ดีกว่ามันไม่น่าจะมาถึงบ้านเรา หรือคิดต่อไปอีกว่า น่าจะเป็นโอกาสของเอซียแต่ความเป็นจริงมันไม

ลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียว ดีไหมครับ???

ขอนำคำตอบของคำถามจากน้องคนหนึ่ง ที่ส่งข้อความเข้ามาถามผมว่า "จะลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียว ดีไหมครับ???" มาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพราะผมคิดว่าหลายคนที่เคยได้กลิ่นหรือลิ้มชิมรสของเงินจากตลาดหุ้นมาแล้ว ล้วนมีความคิดแบบนี้ 

หนัก เบา ช้า เร็ว

ช่วงนี้มีแต่คนบ่นว่าขาดทุนบ้างล่ะ ตกรถบ้างล่ะ เพราะตลาดผันผวนมากมายไปตามปัจจัยต่างๆภายนอก นี้ยังไม่นับช่วงเดือนเม.ย วิปโยคที่มักจะมีหมู่มวลม๊อบออกมาชุมนุมอีก ไม่รู้ว่าอนาคตทิศทาง SET จะสดใสซาบซ่าอยู่หรือเปล่า บวกกับมาเจอเรื่องร้ายๆแบบภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น รวมถึงการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่ามีโอกาสจะรุนแรงแบบ เชอร์โนบิล ที่สร้างความเสียหายระยะ 30 กิโลเมตรเกิดจากการรั่วไหลของกัมตภาพรังสี แต่ความเสียหายอาจจะบรรเทาได้จากการเตรียมรับมือและวินัยของคนญี่ปุ่น ที่มีความพร้อมและมีการปฏิบัติที่เป็นระเบียบ สิ่งที่หนีไม่ได้คือความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะมีมูลค่าสูง ยิ่งถ้าต้องมีการอพยบคนในเขตใหญ่แบบเมืองโตเกียว นี้แหละครับสิ่งที่อนิจจัง ไม่เที่ยงใครจะเชื่อว่าประเทศของโดเรมอน ที่มีความพร้อมและความเจริญทางเทคโนโลยีระดับต้นๆของโลกต้องเผชิญกับการทดสอบจากธรรมชาติที่รุนแรงขนาดนี้ คนไทยอย่างผมคงได้แต่เอาใจช่วยให้ผ่านเรื่องร้ายๆนี้ไปได้ด้วยดี อย่ารีบวิ่งเดี่ยวจะล้ม ผมพบว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนมักจะพึงพอใจกับการได้กำไรก้อนใหญ่ หรือเศร้าเสียใจกับการขาดทุน ซึ่งในภาวะตลาดแบบ non t

รู้ไหมคุณกำลังแข่งกับใคร???

การใช้ชีวิตในโลกนี้แน่นอนว่าเรามักจะหนีไม่พ้นการแข่งขัน ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก การแข่งขันดูเหมือนจะเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ไปแล้ว แน่นอนว่าทุกครั้งย่อมมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ ผู้ชนะได้ในสิ่งที่ดี ที่เป็นรางวัลไปครอบครอง ผู้แพ้ก็ย่อมไม่ได้สิ่งที่หวัง ว่างเปล่า บางคนที่แพ้มากๆหมดไฟก็กลายเป็น Mean ของสังคมและระบบนิเวศไป เป็นมนุษย์คนที่ธรรมดาทั้ง รูปร่าง หน้าตา ความสามารถ และฐานะ และดำรงอยู่ในสังคมร่วมกับผู้ชนะ แต่ประเด็นที่ผมจะชี้ให้เห็นคือ ไม่ใช้ผู้แพ้ในเกมส์การแข่งขันทางสังคมจะไม่มีความสุขเสมอไป ผู้แพ้ทางสังคมมีโอกาสครอบครองความสุขได้ เพราะความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายในจิตใจ เกิดขึ้นจากการแข่งขันกับตัวเอง ถ้าชนะใจตัวเองได้ ความสุข ความสมหวังก็ย่อมจะเกิดตาม  ดังนั้นการแข่งขันกับจิตใจตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น เก่า(ตาย)ไปใหม่ก็มา คนเก่าที่ล้มหายตายจากไป ไม่เจ๊งขาดทุนโดน Force sell กันไป ก็ติดดอยกลายเป็น VI จำเป็น แต่กระแสเงินก็ไหลเข้ามาจากแมงเม่าหน้าใหม่ ยิ่งมีคนเข้ามาลงทุนมากเท่าไหร่ ตลาดยิ่งหอมหวานเพราะ

ขาดทุนไม่ใช่เรื่องแปลก

ช่วงนี้ถ้าพูดเรื่องขาดทุน คงจะเป็นของแสลงของใครหลายคน อันด้วยมาจากดัชนีที่ดิ่งตกลงเหวแบบไม่มีใครขาดคิด ผมไม่เห็นใครที่ไหนมาเตือนเลยว่าระวัง SET จะย่อตัวนะ จนกระทั้งมาเจอเหตุการณ์ ช๊อคชินิม่า ทำเอาหลายคนอึ้งกิมกี่ ไปตามๆกัน สิ่งที่ทำได้คงไม่ใช่การไปโทษฟ้า โทษดิน โทษฝรั่งว่าขายได้ยังไงกัน ไม่บอกกันล่วงหน้า (เอ้า ถ้าบอกกันล่วงหน้าจะขายได้ ราคาไหมอ่ะครับ) ผมเองคิดว่าเราควรโทษตัวเองมากกว่าที่ไม่ได้มีแผนสำรองรับมือเหตุการณ์แบบนี้ มันขายกับน้ำท่วมที่ผ่านมา เราไม่คิดว่ามันจะท่วม เลยไม่ได้รับมือเมื่อภัยมาถึงตัวก็สายเสียแล้ว การขาดทุน ไม่ใช้เรื่องแปลกครับ ตลอดการลงทุนมาคนที่ไม่เคยขาดทุน ไม่มีหรอกแม้แต่นักลงทุนระดับโลก ก็ยังขาดทุน สิ่งสำคัญไม่ใช่การหลีกเลี่ยงขาดทุน คนที่กลัวขาดทุน ควรเอาเงินไปฝังดินหรือฝากธนาคาร(จริงๆก็ขาดทุน เงินเฟ้อนะ) การลงทุนในหุ้น ยังไงก็มีโอกาสขาดทุน สิ่งสำคัญคือการจำกัดความเสียหายและ จำกัดโอกาสการขาดทุนต่างหาก จำกัดโอกาสการขาดทุน การจำกัดโอกาสการขาดทุนทำได้โดย การเลือกลงทุนในเกมส์ที่เรามีโอกาสชนะสูงมากกว่าแพ้ มี win/lose ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 1 เช่นโอกาสชนะ 50% โอกาสแพ