ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เรื่องของประสบการณ์

ช่วงนี้เจอคำถามทาง message ของเฟสบุ๊คมาแต่เรื่องของหุ้น ติดดอยทำยังดี? /จะขายตัดขาดทุนดีไหม หรือจะรออีกสักเดือน set จะไปถึงไหนค่ะ? เยอะมากครับ จริงๆ ทุกคนเจอปัญหาทางอารมณ์ จิตใจเหมือนกัน คำแนะนำผมเรียบง่ายมากคือ พยายามแยกอารมณ์ ออกจากปัญหา แล้วค่อยคิดหาทางแก้ที่เหมาะสมกับตัวเอง ตอนนี้จำนวนมากกลัว และคิดไม่ตกเวลาเห็นตัวเลขแดงๆในพอร์ต บางคนท่องคาถา ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกดูพอร์ตไปแล้วก็มี สุดท้ายเอาใจช่วยให้ทุกท่านผ่านไปด้วยดีแล้วกัน แต่ถ้าถามผมว่าขนาดนี้หนักไหม ผมบอกได้เลย ว่าไม่ได้หนักอะไรเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤติจริงๆ ดังนั้นเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมทางออกฉุกเฉิน ไว้ด้วยก็ดี ไม่ใช่ว่า ตลาดจะแย่จะลง หรอกนะครับ เพียงแต่เราไม่สามารถเดาอนาคตได้ ดังนั้นแม้มันจะมีโอกาสเกิน 1% หรือ 5% เราก็ต้องหาทางออกรับมือไว้เสมอ ผมบอกเสมอว่าการเป็นเทรดเดอร์หรือนักเก็งกำไร เราเล่นกับความเสี่ยงดังนั้นต้อง be prepare ไว้เสมอ ไม่ใช่เอาแต่พยายาม prediction กันอย่างเดียว อีกเรื่องอยากจะแนะนำสำหรับคนอยากเป็นนักเก็งกำไร ชั่วโมงบินสำคัญพยายามสะสมไว้ ทั้งวันที่ดีและวันที่ร้าย

Mental Game

การเทรด หรือการเก็งกำไร ในสายตาคนทั่วไป หรือคนที่ไม่เคยสัมผัส มักจะไม่เข้าใจแก่นของมันเท่าไหร่ ทำให้ความเข้าใจผิด ยังมีอยู่มาก จำนวนไม่น้อย มองภาพการเก็งกำไรเป็นภาพลบ จนไปปะปนกับ การพนัน บ้างยอมรับได้ แต่ก็ยังไม่ลึกซึ้ง มองภาพการเก็งกำไร เป็นเพียงการซื้อๆขายๆ ให้ได้กำไรเป็นครั้งคราว ในความเป็นจริง การเก็งกำไร มันเป็นเกมส์ทางจิต หรือ Mental Game ที่เบื้องหลังมันมีอะไรมากกว่าการส่งคำสั่งซื้อขาย เทรดเดอร์ หรือผู้เล่นเกมส์นี้ ต้องเผชิญ เอาชนะโจทย์ทางจิตใจ เอาชนะการบีบคั้นทางอารมณ์  ดังนั้นเทรดเดอร์ แต่ละคน จึงมีทักษะ มีวิธีการเอาชนะ เพื่อเล่นเกมส์นี้แตกต่างกันไป ตรงนี้ต่างหากคือเคล็ดลับสำคัญ แต่ผมเชื่อว่า จำนวนไม่น้อย ยังคิดว่า เคล็ดลับของเทรดเดอร์อาชีพ คือเครื่องมือเทคนิคอล หรือสัญญาณซื้อขาย แท้จริงแล้วมันเป็นเพียง จุดเครื่องให้สัญญาณเข้าออก บนหลักความน่าจะเป็นเท่านั้นเอง  แต่มือใหม่ มือสมัครเล่น ต่างเชื่อมั่นและยึดมั่น เรื่องของเทคนิคอลมาก  และใช้มันด้วยความเชื่อ ตามๆกันไป เชื่อตามแหล่งที่เรียนมา หรือเชื่อตามผู้รู้กูรูต่างๆเขาใช้กันก็อยากใช้ตาม ปราศจากการทดสอบ

story is everything

เดียวนี้หล่อสวยแบบเดียวไม่พอแล้ว เพราะมีคนหน้าตาดีและอยากดังเช่นกันมาก ต้องมี story ด้วย เหมือนที่เราจะเห็นรูปหล่อไปขับมอไชด์รับจ้าง พริตตี้สวยไปขายอาหารริมถนน หน้าตาดีมันทำให้คนเคลิ้ม หลงเชื่อ แม้สิ่งที่สื่อที่นำเสนอ จะไม่มีอะไรเป็นแก่นสารก็ตาม พอหน้าตามันดูดีเจอ story แล้วมันโดนทำให้คนสนใจ และหน้าตาที่สวยก็จะยิ่งขายได้ขายดีเพิ่ม ความดังไปอีก  เอาตัวอย่างเรื่องราวเล็กๆของ Paige Jennings มาฝาก เธอเป็นสาวสายหุ่นดีหน้าตาดี ไปฝึกงานในบริษัทการเงินใน wallstreet ชื่อ Lazard Frere เธอเป็น intern ด้านการขาย ที่ HOT มาก ของบริษัท และเป็นคนทำงานได้เก่งคนหนึ่ง สุดท้ายเธอมองว่าไปเอาดีด้านการเป็นดาราหนังผู้ใหญ่ดีกว่า เลยลาออกจากบริษัทการเงินไปเอาดีด้านการเล่นหนังโป้ ในชื่อ Veronica Vain แต่ก่อนลาออก 2 สัปดาห์เธอก็ทำ story ซะหน่อย ถ่าย Nude Selfies แบบจัดเต็มในที่ทำงาน และห้องน้ำซะเลย แล้วโพสลง ทวิตเตอร์ ให้คน follow จำนวนมาก กลายเป็น talk of the town ไป ปัจจุบันเธอโด่งดังมาก ไม่ใช่แค่จากภาพหวาบวิว แต่มาจาก story ของเธอที่แตกต่างจากนางเอกหนังโป้ ทั่วไป  อย่างที่บอกเธอไม่ได้ X ธรรมดาแต่มีส

Bullshit Trader

ในยุคการตลาดแบบขายฝัน ทุกคนก็อยากจะรวย อยากจะมี อยากเป็นเศรษฐีเงินล้าน กันเรฺ็วๆ จำนวนไม่น้อยโดดเข้ามาในตลาดหุ้น เพื่อจะเป็นเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้าน ในปีสองปี ติดกับภาพความฝัน ภาพที่นิยมนำมาขาย มาชวนเชื่อมือใหม่ ให้เข้ามาเป็นแมงเม่ากัน และแล้วคนเหล่านี้ก็วิ่งไปหาทางลัด ไปหาเครื่องมือวิเศษ ติดกับกับดักเดิม ไม่สามารถพัฒนาตัว พัฒนาองค์ความรู้ และทักษะในการซื้อขายเก็งกำไรหรือการลงทุนที่แท้จริงได้ บางคนที่ต้องการจะรวยเร็ว ลงมือทำไม่ทันใจก็เลยสร้างชื่อด้วยการ อุปโลกหรือใช้การตลาดแบบสร้างภาพขายตัวเองขึ้นมาบนโลกออนไลน์ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียง มีคนนิยมชมชอบ โดยปราศจากการความสามารถ ปราศจากการให้อย่างแท้จริง นายคนนี้จบไม่สวย โดนจับได้ถูกออกมาแฉยับ จนต้องขอโทษ  วันนี้ผมเอาอีกหนึ่งตัวอย่าง ของการลวงโลก หรือการอุปโลกตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นเรื่อง หรือเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ของนาย Mohammed Islam เรื่องราวจอมปลอมของนายคนนี้ ถูกสื่อกระแสหลักเอาไปเล่น โดยปราศจากการตรวจสอบความเป็นจริง ทำให้เกิดการแชร์ ข่าวต่อๆกัน เรื่อง "นร.นิวยอร์ก วัย 17 ปี ทำเงินกว่าพันล้านจากการเทร

7 วิธีเอาตัวรอดจากตลาดหุ้น

ช่วงนี้ email ผมมีคำถามจากมือใหม่เยอะมาก โดยเฉพาะท่านที่เข้ามาในตลาดหุ้นปี 2015  ยุคต้นปีตลาดหุ้นไทยเป็นที่นิยมจาก ละครสุดฮิต  แอบรักออนไลน์  ต้นปีมีความสุข กำไรง่ายดายเหลือเกิน มีให้เห็นอวดเห็นโชว์กันเยอะมาก ช่วงเดือนแรก หุ้นทำเงินหาง่าย เช้าจิ้มหุ้นจากเฟสบุ๊ค จาก Line ที่เขาเชียร์กัน สายๆตลาดเปิดเข้าซื้อ ตกเย็นขายก็ได้เงินแล้ว  บ๊ะมันจะมีงานอะไรง่ายแบบนี้ บ้างบนเสียดายที่เข้ามาช้าไป บ้างชะล่าใจกู้เงิน หาเงินมาหวังกอบโกยสุขได้ไม่นาน สวรรค์ก็ล่ม ถล่มจมดิน โดยปรับทัศนคติด้วยการลบต่อเนื้อง เทกระจาดจาก 1600 จุดลงมาทำเอาคนที่คิดว่าหาเงินง่ายจากการเล่นหุ้น เล่น tfex เล่นออฟชั่น เจ็บเอาบางตายกันไปจำนวนมากทีเดียว  ถ้าคิดว่านี่หนัก ผมบอกได้เลยครับว่า ยังเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการปรับฐานครั้งใหญ่ หรือเทียบกับวิกฤติการเงินปี 2008 วันนี้มาสรุปแนวทางเอาตัวรอดมาฝากเพื่อนๆกัน อย่างน้อยสมาชิกเว็บไซต์ cwayinvestment จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ขาดทุนหมดตัว ไปเสียก่อน ------------------- 1. มีเป้าหมาย  อันนี้สำคัญ เขียนเรื่องนี้ให้ได้ก่อน เริ่มเทรด เริ่มซื้อขายหุ้น/อนุพั

Paul Tudor Jones: Basic MM

 Paul Tudor Jones  ชายคนนี้ประสบความสำเร็จจากการเป็นเทรดเดอร์ในตลาดอนุพันธ์  ก่อนผันตัวไปเป็น hedge fund manage บริหารเงินทุนขนาดหลายพันล้านจนประสบความสำเร็จ  Paul Tudor Jones ปัจจุบันอายุ 60 ปี เป็น hedgefund อันดับ top ของโลก เศรษฐีพันล้านอันดับที่ 108 ของอเมริกา เขามีทรัพย์สิน $4.3 billion โลดแล่นในตลาดเก็งกำไรมาตั้งแต่ก่อนยุค 1980 ชายคนนี้เป็นตำนานของ Wall Street วีรกรรมที่ทำให้เขาโด่งดังหนี้ไม่พ้นการทำเงิน $100 million จากช่วงตลาดหุ้น wall street พังในปี 1987 ตอนนั้นเขาอายุเพียง 32 ปีและสามารถสรา้ง return ในตอนจบปีถึง 200% แต่เหมือนกันทุกคน คงไม่มีใครเจอแต่วันดีเสมอไป เพราะความเสี่ยงมันคือการไม่รู้อนาคต  คนที่อยู่รอด คือคนที่เข้าใจในจุดนี้ คือคนที่ไม่ประมาท  คุณ Paul Tudor Jones ก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย เขาเอาเคยขาดทุนหนักถึง $6 million ในหนึ่งวันจากความผันผวนของตลาดตอนนั้นเขาบริหารเงินในพอร์ตอยู่ $125 million พอลสอนเรื่อง Money management ไว้หลายประเด็น และดีมาก มันเป็นมุมมองที่บ่งบอกถึงประสบการณ์และความเข้าใจตลาดแท้จริง คนจำนวนไม่น้อ

work work work

พอดีวันนี้นอนดู Deadliest Catch  เห็นบางคนบ่นเบื่อการไปทำงาน เลยเอาสารคดีนี้มาฝาก เพื่อเราจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของงานที่ยากลำบากบนโลกนี้ ------------------------------- Deadliest Catch เป็นสารคดีการออกไปจับปูอลาสก้า ที่ออกอากาศทางช่อง Discovery channel ผมชอบสารคดีนี้มาก ถ้าว่าก็จะตามดูมาหลายซีซั่น เพราะมันเป็นงานที่ท้าทาย เป็นงานเสี่ยงตาย ที่ถ้าคุณไปทำ จะเจอแต่สิ่งที่คาดไม่ถึง งานจับปูอลาสก้า เป็นงานโหดสุดขั่ว ใช้เวลาเตรียมงานทำกันประมาณ 3 เดือนต่อปี ช่วงที่ปูชุกชุม  และได้ขนาด แต่ลงมือจับกันจริงๆประมาณ 7-10 วันเท่านั้น โดยชาวประมงต้องออกเรื่องไปวางลอบหรือกรงจับที่ทะเลแบริ่ง หรือแถวอ่าวอลาสก้า ทะเลที่มีความโหดอันดับโลก ลึกมากกว่า 1,600 เมตร น้ำทะเล 0 องศา กับจุดที่ถ้าภาวะอากาศไม่ดีอาจจะมีคลื่นลมโหดสูงได้เกิน 7-10 เมตรสาดมาอย่างบ้าคลั่งได้ตลอดวัน (อย่างกับซึนามิที่ไม่รู้จบ) เรียกว่าตายได้เสมอ งานนี้ต้องเสี่ยงโชคพอควรเพราะถ้ากัปตันประสบการณ์ไม่พอ ก็อาจจะพากันไปตายง่ายๆ แถมสิ่งที่ต้องทำคือต้องแข่งกับเวลา จับปูให้ได้มากที่สุด เพื่อเอาชนะต้นทุนที่ต้องจ่าย ถ้าโชคดีจับปูได้มากหลายแสน

โง่เพราะอะไร??

วันนี้ ฟังเรื่องตลกเสียดสี เรื่องเทคนิคอลแล้ว มันขัดหู ขอแต่งให้ใหม่นิด ------------------------------------------ วันนี้ใช้ไอแพดดูหุ้นใน ร้าน ไก่เคเอฟซี ได้มีขอทานคนหนึ่งเข้ามาขอเงิน เราก็เลยให้ปีกไก่มันไปอัน แล้วก็ดูหุ้นต่อ ขอทานแทะปีกไก่แล้วไม่ยอมไปไหน แถมกระซิบว่า “เส้นเฉลี่ยระยะยาวตัดกันขึ้น ค่า KD(?? ค่าอะไรของมันว่ะ) สร้างฐานไม่ไปไหน MACD สร้างฐานขัดแย้ง ปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มขึ้น ๆ หุ้นตัวนี้กำลังจะพุ่งขึ้นแล้ว(นั่นไง เดาอีกแล้วมรึง) ผมตกใจมากถามมันว่า “แกก็รู้เรื่องเทคนิคหุ้นด้วยหรือ ?” ขอทานตอบ “รู้” ผมเลยถามต่อว่า "แล้วทำไมมีวันนี้" ขอทานบอกว่า "เพราะไม่ทำตาม" สรุป ‪#‎ ไม่ใช่ใช้เทคนิคอลแล้วไม่ดีนะ‬  แต่ที่เจ๊งมันเกิดจากคนใช้มันแบบไม่เข้าใจและไม่สามารถทำตามระบบ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ได้

Bluepoints-Trader-Programme-Rules

ช่วงนี้กำลังฮิตเห็นน้องหลายคนพูดถึงบ่อย  ผมรู้จัก Bluepoint มาตั้งแต่ ปีที่แล้วละ พอดีมีเพื่อนชาวอินเดียเขาเป็นเทรดเดอร์เคยฝึกกับ ที่นี่ศูนย์อินเดีย แต่ก็ไม่ได้ดูจริงจัง อะไรมาก  ชื่อ Bluepoints กลับมาดังอีกรอบเมื่อ พี่ต้าน พูดถึงและเปิดรับสมัครคนมาทดสอบกับมัดเล่ย์  ลองเข้าไปอ่านดู ในเว็บของเขาแบบจริงจัง พบว่ามีอะไรน่าสนใจเยอะ โดยเฉพาะ e learning ฟรี พวกเราไปลองแกะกันได้ หัวข้อสั้นๆ แต่หลายอันน่าสนใจดี มาถึงอันหนึ่งที่ มีน้องมาปรึกษาเรื่องการทดสอบ ผมเข้าไปดู Trader-Programme-Rules พบว่า เกณฑ์การสอบเขา เข้าท่ามาก เหมือนแนวการฝึก ที่ผมใช้คือ เน้นการสร้าง Score มากกว่า การทำเงิน ด้วย lot ใหญ่ ดังนั้น วันนี้อยากให้ หลายคนได้เตรียมตัวลองฝึก ก่อนไปสอบ ผมแปล Rule เบื้องต้นมาให้ ลองไปเป็นแบบฝึกหัดการเทรดกัน แต่ผมขอแปลแบบจับประเด็นหลักๆไม่แปลทั้งหมด General Rules 1. ต้องเทรดบน Broker’s instrument list ของ Bluepoint เท่านั้น พูดง่ายๆเขากำหนดโปรดักซ์และรายละเอียดมาให้ 2. Lot sizes ไม่สำคัญ เขาเน้นเก็บระยะ การทำคะแนน นับ PIP มากกว่า ยิง lot ใหญ่หวังรว

trade like jesse livermore

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2015 09.00 - 12.00   ผมจะจัดสัมมนาคลาสเล็กๆ ออนไลน์เรื่อง  trade like  jesse livermore วาระโอกาส 5 ปีเว็บ cwayinvestment ฉลองยอดผู้ชมเกิน 1 ล้านวิว  เนื้อหาสัมมนาเรียนออนไลน์ ผ่านระบบ webinar ยาวประมาณ 3 ชม. เนื้อหาคุณภาพแน่นๆ ที่นำไปใช้ได้จริง เกี่ยวกับ เทคนิคการเทรดหุ้น สไตล์หุ้นเติบโต เก็งกำไรตามรอบระยะยาว แบบ jesse livermore  ซึ่งจะครอบคลุมทั้งเรื่อง แนวคิด/จิตวิทยา ระบบเทรด และการบริหารจัดการเงิน ตามแบบของลิเวอร์มอร์ งานนี้จะจัดให้สำหรับ เพื่อนๆ และสมาชิกเว็บ cwayinvestment โดยคลาสสดออนไลน์ รับ 60 คน ** ท่านที่บริจาคเงินโครงการ บุญแบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำ  เก็บใบเสร็จแล้วแรกเข้าได้เลย ** สมาชิกไทยเทรด เข้าได้เรียนได้ทันทีเลย ฟรีไม่ต้องจอง งานนี้ฟรี  แต่ถ้าเรียนแล้วดี เอาไปใช้ประโยชน์หาเงินได้ก็ เอาเงินไปทำบุญ ตามศรัทธา ผมร่างเนื่อหา คราวๆ มาให้ประมาณนี้  ------------------ ท่านที่สนใจ(เฉพาะ friend) ก็อาจจะลงชื่อ จองไว้รอบแรกก่อนได้ ในคอมเมนต์ครับ บุคคล ทั่วไป /สมาชิก cwayinvestment รอ ลงทะเบียน อาทิคย์ห