ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Hedge Fund Lost $1 Billion Betting On Argentinian Bonds Last Month

กรณีศึกษา Autonomy Capital ของ Robert Gibbins เพิ่งขาดทุนในพันธ์บัตร อเจนตินา จากการ concentrated bets ไม้ใหญ่ที่เล่นกับ economic recovery ของประเทศ Argentina ช่วงปี 2018 ซึ่งจบปีทำผลตอบแทน 17% ทำให้มีการเพิ่มสถานะในการเดิมพันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเจนตินา แต่สิ่งที่ไม่คาดก็มาเกิดในปี 2019 เมื่อทั้งตลาดพันธ์บัตร ค่าเงิน และตลาดหุ้นของ อเจนตินาร่วงลงรุนแรง จากความกังวลทางการเมือง(แพ้โหวตของรัฐบาล Macri)และปัญหาหนี้ สิริรอบนี้ฟันด์ของ Robert Gibbins พอร์ตโดนผลกระทบขาดทุนไป  $1 billion อ่านเพิ่มเติม https://www.zerohedge.com/news/2019-09-05/former-lehman-traders-hedge-fund-lost-1-billion-betting-argentinian-bonds-last

การประมาณมูลค่าของ GOLD

ไปหาข้อมูลมาให้ นำเสนอโดย Holger Zschäpitz ใช้ข้อมูลที่คำนวณและทำโดย Deutsche Bank จากข้อมูลราคาทองคำอดีต(1960-2019) ผลออกทองคำมีความสัมพันธ์กับเงินเฟ้อ โดยจุด peak ของราคาทองคำ อิงกับภาวะ high inflation ยกตัวอย่างช่วง subprime crisis หลังจาก QE ราคาทองไป $2,127/oz ( Sep5, 2011) (แล้วมันก็ดิ่งนรกใ นเวลาต่อมา) ภาพ chart นี้ดี อิงแนวคิดการ valuation ตัว gold ด้วยเงินเฟ้อ เพื่อหาค่า real gold price นอกจากนี้ยังระบุ event เหตุการณ์อดีต ให้วิเคราะห์ประกอบด้วย อ้างอิง https://twitter.com/Schuldensuehner/status/1168820427529117696

Expected real returns are scarily low

มีโอกาสได้ อ่านบทความของ Mark Rzepczynski เขียนถึงบทวิจัยของ GMO LLC ทำโมเดลการพยากรณ์ Return & Volatility ใน asset ประเภทต่างๆ (ระยะ 7 ปี และ 10 ปี) ผลที่ออกมาเทียบ 7 ปีกับ 10 ปีไม่ต่างมาก จากปัจจัยเสี่ยงและสภาพเศรษฐกิจดูเหมือนการคาดการณ์ จะพบ return ใน asset ต่างๆทั้งแบบ เสี่ยงและปลอดภัย ระดับ expected return ค่อนข้างต่ำ ระดับ expected volatility ยังกว้าง บทความชี้ให้เห็นว่า โมเดลการไล่ล่าเอาชนะตลาด( market beta )หรือ high risk high return แบบอดีตอาจจะไม่เกิดได้ง่ายแล้ว(retur n จำกัด, ขณะที่ ความผันผวนสูง) เช่นเดียวกันการจัดพอร์ตแบบ stock& bond portfolios (60/40) ก็อาจจะไม่ work เพราะ bond ส่วนใหญ่ expected return ติดลบ ดูเหมือนการกระจายหรือผสมแบบหลายกลยุทธ์ และ dynamic rebalancing ตามภาวะความเสี่ยงที่เกิด น่าจะเป็น solution ที่มีโอกาสความน่าจะเป็นในการรับมือกับภาวะความไม่แน่นอนได้เหมาะสมกว่าวิธีการเดิม อ้างอิงจาก https://mrzepczynski.blogspot.com/2019/09/expected-real-returns-are-scarily-low.html

พฤติกรรมตลาดหุ้นและการจัดการกับความเสี่ยง

ตลาดหุ้น ย่อมมีวัฏจักร มีรอบของมัน เมื่อเช้ามีพี่ท่านหนึ่งๆถามว่าน่ากลัวไหม ตอบตรงๆก็คือไม่น่ากลัว ถ้าเราเข้าใจเพราะมีหมี ก็มีกระทิง สิ่งที่เราทำได้คือ เข้าใจพฤติกรรมตลาด(การทำ data analysis) และวางแผนรับมือกับความเสี่ยง(Risk Management) สิ่งสำคัญคือชั้นคือการทำการกระจายความเสี่ยง(Risk Parity or Max Diversification) ภาวะตลาดหุ้นปัจจุบันที่ไม่มี edge มากก็ไม่จำเป็นต้องโฟกัส ไปที่ asset class เดียว ใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการพอร์ตมาช่วย กระจาย risk ไปหลากหลาย asset ที่มีพฤติกรรม ราคาตอบสนองกับปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยลบที่แตกต่างกัน เพราะเมื่อเกิด market crash ที่มาพร้อม high volatility ตัวระบบเทรด ที่เทรดอยู่บน asset เดียว ,ตลาดเดียว เช่นหุ้น มันมักเอาไม่อยู่ ภาพนี้เอามาจากรายงานของ Dimensional Fund Advisors LLC จำแนกขนาดและระยะเวลาของดัชนี S&P500 แยกตามภาวะตลาดหมี และ ตลาดกระทิง ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1926 รอบนี้นับจาก 2007 ตลาดกระทิง วิ่งขึ้นมากว่า 126 เดือน(ย้อนตัวไม่เกินระดับ threshold -10%) ไม่มีใครรู้ว่าอนาคต ดัชนีจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน แต่สิ่งที่พบคือความผันผวน เกิดขึ้นเรื

Top 40 Proprietary Trading Firms

วันนี้ได้คุยกับน้องเทรดเดอร์คนหนึ่ง เคบฝึกหัดเทรดด้วยกัน ตอนนี้น้องเขาไปเป็น prop trader ให้ firm หนึ่งของอเมริกา ที่สามารถเทรดบัญชีบริษัทแบบ remote จากที่บ้านได้ เพราะบริษัทต้องการรับ เทรดเดอร์ฝีมือดีจากทั่วโลกมาช่วยร่วมงาน ข้อดีของ prop trader แนวทางนี้เหมือนจะเป็นเรื่องของอิสระและความหยืดหยุ่น ทั้งด้านการบริหารเวลา และการบริหารจัดการเงิน สามารถใช้ leverage ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพของผลตอบแทน(หัวใจของส่วนแบ่งกำไร ที่ค ุมค่ากับเวลาเฝ้าหน้าจอ) ในภาวะที่ตลาดอำนวยเองได้ โดยบริษัทมีกรอบวัด risk level ที่คุมไว้กว้างๆ แลกเปลี่ยนไอเดียกันหลายประเด็น อนาคตจะมาแชร์ให้ฟังสำหรับคนอยากเดินทางนี้ ถ้าอยากรู้จัก Proprietary Trading Firms ระดับโลกจริงๆ ลองเข้าไปศึกษา top 40 ที่ future magazine รวบรวมเอาไว้ได้ หรือถ้าใครมี trading record ดีๆ ลองส่ง email ไปคุยก็ยังได้เลย เพราะเท่าที่ผมดูหลายแห่งที่เปิดรับ trader กันอยู่ ครับ นอกจาก remote office แล้วหลายเจ้าที่มี office ที่ สิงค์โปร และฮ่องกง ทำให้ไม่ต้องกังวลมากเรื่องของการขอวีซ่าทำงาน เข้าดูจาก http://m.futur

รวมสรุปบทความและแง่คิดจาก Ray dalio

พอดีมีน้องเทรดเดอร์ท่านหนึ่งขอ link บทความ ที่ผมเขียนสรุปเกี่ยวกับข้อคิดเห็น คำแนะนำของ ray dalio มาผมเลยรวบรวม บทความในช่วง 2018-2019 มาให้ ย้อนกลับไปอ่านเหมือนเป็นบทเรียนที่ดี อีกแหล่งให้เราเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง 1.Great-humility-and-great-fear http://www.cwayinvestment.com/2015/04/great-humility-and-great-fear.html 2. Tony robbins interviews ray dalio http://www.cwayinvestment.com/2017/09/tony-robbins-interviews-ray-dalio.html 3.Pursuing Truth in the Global Economy with Ray Dalio 01 http://www.cwayinvestment.com/2018/04/pursuing-truth-in-global-economy-with.html 4.Pursuing Truth in the Global Economy with Ray Dalio 02 http://www.cwayinvestment.com/2018/04/pursuing-truth-in-global-economy-2.html 5. 108 คำถามกับ Ray dalio http://www.cwayinvestment.com/2018/06/108-ray-dalio.html 6.Principle to Algorithms http://www.cwayinvestment.com/2018/11/principle-to-algorithms.html 7. The next financial crisis ,Ray

พฤติกรรมตลาดค่าเงิน Q3/2019

ภาพนี้ผมนำ dashbord ที่ใช้วิเคราะห์ราคา มาให้ดูภาพประกอบจากการอธิบายเมื่อคืน เรื่องการทำ diversification ในการเทรดค่าเงิน ข้อมูลค่าเงิน USD เทียบกับสกุลหลัก โดยภาพบนจะเป็นการวัด momentum ของราคาระดับการเปลี่ยนแปลงรอบปี เทียบการเปลี่ยนแปลงเพิ่งเกิดในระดับ 1 เดือน สิ่งจะพบปัจจุบันมีหลายสกุลเงินที่ แข็ง กว่า USD เช่น JPY , THB เป็นต้น กลุ่มที่อ่อนค่ามากปีนี้และปัจจุบันยังอ่อน เช่น CNY, NZD, AUD, EUR, GBP ระดับการถดถอยรอบปีของค่าเงินสกุลหลัก เมื่อเทียบกับ USD ยังอยู่ช่วง +/- 8% ข้อมูลพวกนี้ เมื่อนำไปวิเคราะห์ควบคู่กับ volatility ในแต่ละคู่เงิน เพื่อปรับความเสี่ยงเราใช้ประกอบวางกลยุทธ์ในการเทรดได้ เหมือนอธิบาย จังหวะไหนเราควรหยุดรอ จังหวะไหนเราควร สลับเปลี่ยนตัวเทรด (GRID-multi layer ), รวมไปถึงการปรับพอร์ต รับ risk on, risk off พวกนี้มากกว่าการดูแท่งเทียนหรืออ่าน chart ราคาการวางแผนล้วนอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยการตัดสินอย่างเป็นระบบ องค์รวม ข้อมูลจาก quantdl , investing dot com

Overview of Quantopian-Based Paper on Momentum with Volatility Timing

เนื้อหายาวพอควร แต่ผมฟังจบละน่าสนใจหลายประเด็น จริงๆลองแกะ momentum volatility scaling, risk-based asset allocation, time series momentum (winners-minus-losers (WML) momentum) ที่เขายกมาเปรียบเทียบ นี้ก็ได้เห็นอะไรพอควรใน market condition ต่างๆ งานวิจัยของคุณ Yulia Malitskaia ประเด็นหนึ่งที่น่าคิดต่อคือ Volatility-Timed เมื่อ ราคา asset มันเข้าภาวะ high volatility (หรือ estimate ได้ว่ามั นกำลังสูง)มันเป็นสัญญาณเตือนให้ momentum factor ต้องระวัง หรือปรับน้ำหนักของการเทรด มันมาแก้จุดอ่อนของ TSMOM ได้ ลดผลกระทบกรณี market downturn ได้อีก ในขณะเดียวกัน ถ้าเลือก Volatility parity ในการทำ มันก็จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตระยะยาวได้ ปล. paper นี้ผลทดสอบกับข้อมูลย้อนหลัง 1980 - 2018 อาจจะนำมาซึ่งการสรุปได้ระดับหนึ่ง แต่รายละเอียดเนื้อหาหลายส่วนเป็นองค์ความรู้ portfolio management strategies + risk management ฟังจบลองจับไปประยุกต์ จะเกิดประโยชน์มาก ฟังฉบับเต็ม https://www.youtube.com/watch?v=bpe5kycfrBg

Diversifying Well Is the Most Important Thing You Need to Do in Order to Invest Well

วันนี้ผมมีโอกาสอ่าน บทความหนึ่งของ Bridgewater Associates เขียนโดย Ray dalio เขาพูดถึงการกระจายความเสี่ยง ที่ช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพของพอร์ต อ่านจบรู้สึกมีประโยชน์ โดยเฉพาะการเทรด/ลงทุนภาวะตลาดแบบนี้ เลย สรุปประเด็นสำคัญ แบ่งปันเอาไว้ ดังนี้ - Ray dalio เขาเชื่อว่าตลาดนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่รู้ มากกว่าสิ่งที่เรารู้ -เมื่อไม่รู้ ก็ไม่ควรไปวัดดวง ดังนั้น diversification จะเป็นกุญแจสำคัญในการปรับ expected return-to-risk ratio ที่เหมาะสม - บางทีเลือกหุ้น เลือกสินทรัพยที่ดี จาก khowleage ที่มีแต่ไม่ได้การันตรีว่า outcome ออกมาจะ Win เสมอไป เพราะมันมีปัจจัยอื่นๆ unkhown เข้ามาเกี่ยว - การทำ Diversify ที่ดีช่วยลด expected risk อันนี้ ray dalio ยกเรื่องที่พูดถึง Holy Grail of Investing ในหนังสือ อธิบายต่อว่ามันเป็นหลักการของ risk parity ซึ่งเป็นแก่นของ All Weather ในการทำ balanced portfolio - Extreme movement ใน market หรือ economic เกิดได้เสมอ เช่นเดียวกับราคา asset ที่มีทั้ง “discounted” หรือ “priced in” การตัดสินใจซื้อขาย เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ไม่ควรใช้อารมณ์ ควรการจำแนกภาวะไม่คงต

The Death of the 60/40 Portfolio

เช้านี้ผมได้อ่านบทความเรื่อง The Death of the 60/40 Portfolio ของ Guy Haselmann เขาเขียนถึงหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในยุคที่เกิด negative nominal yield ,หรือการเกิด yield < Inflation ผู้เขียนชี้ให้เห็นผลกระทบต่อ 60/40 stock & bond portfolio ยิ่งเฉพาะเมื่อ Bond อาจจะไม่สามารถทำหน้าที่รับมือกับ down-side protection หรือปกป้อง inflation ที่เกิดได้ดีเหมือนอดีต เช่นเดียวกันถ้า ตลาดหุ้น ถดถอยรุนแรงย่อมทำให้เกิด downside ขนาดใหญ่ใน portfolio ได้ โดยสรุป Haselmann แนะนำนักล งทุนว่า ไม่ควรบาลานแค่ 2 asset เป็นหลัก ควรกระจายความเสี่ยงไปยัง asset class อื่นๆ เพื่อปกป้อง risk , การด้อยค่าของค่าเงิน(currency devaluation)และ inflation ในขณะเดียวกันแนะนำเรื่องของ mindset การไม่เสี่ยงเกินตัว หลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพื่อเป้าหมายของพอร์ต ระยะยาว อ่านรายละเอียดฉบับเต็มเพิ่มเติมที่ https://www.linkedin.com/pulse/death-6040-portfolio-guy-haselmann-caia/

ว่าด้วยเรื่องความไม่ปกติของ interest rate และ Bond

หลังวิกฤติการเงินรอบปี 2008 เศรษฐกิจโลก ถูกกระตุ้น อัดฉีด ตามด้วยนโยบายของธนาคารกลางประเทศใหญ่ มากมาย ทำให้พฤติกรรมตลาดและความสัมพันธ์ของ ราคาสินทรัพย์ แตกต่างจากบทสรุป จากตำราเดิมๆเมื่อ 10 ปีก่อนไปเยอะ (ส่วนหนึ่งที่หลายกูรูให้ความเห็นว่าวิกฤติรอบใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ แต่ถ้าเกิดมันน่าจะแตกต่างไปจากอดีต) ภาพนี้ S&P500 กับ Yield 10Y-2ํY ความแตกต่างที่เกิดปัจจุบัน อดีต ยิ่งเอา Yield 10Y US ไปเทียบกับ economic data ยิ่งเห็นความแตกต่างที่เกิด จากอดีตไปอีก ภาวะแบบนี้แ หละครับ ยากจะคาดเดา ยากจะอนุมานหาเหตุหาผลมาสรุป เรายิ่งต้องไม่ประมาท ให้มากที่สุด อ่านเพิ่มเติม https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-08-19/jpmorgan-says-stocks-can-reach-new-highs-despite-yield-inversion

life leave

บริษัทออสเตเรีย Ernst & Young เสนอทางเลือก ให้เวลา6-12 สัปดาห์ แก่พนักงาน สามารถหยุด ลาพัก เดินทางท่องเทียว ทำกิจกรรมอื่นๆตาม passion ที่สนใจ หรือทำงาน part time ที่บ้านได้ถึง 3 เดือน (ส่วนค่าแรงก็ปรับไปตามเวลาและงานที่ทำจริง) โดยปัจจุบันหลังจากเปิดได้ไม่กี่เดือนก็มีพนักงานราวๆ 11% เข้าร่วมโครงการ บริษัทสนับสนุนนโยบาย flexible work environment ปรับรองรับให้เข้ากับ แรงงานยุค Millennials ( 80% ของพนักงานบริษัท) ผบห.บอกว่าแนวทางนี้ ไม่ได้ทำให้งานด้อยประสิทธิภาพลง แต่กลับทำให้  เกิดแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์และแรงกระตุ้นต่อพนักงาน ทำให้เกิดประสิทธิภาพการทำงาน ไม่เกียร์ว่าง และลดความเครียดในการทำงาน บางคนใช้เวลาหยุดไปเรียนต่อ ไปศึกษาเพิ่มเติม เป็นต้น ปล. ไม่แน่ถ้าแนวทางนี้ work นี้อาจจะกลายเป็นนโยบาย การทำงานสมัยใหม่ สำหรับดึงดูดและกระตุ้นเหล่า แรงงานยุค Millennials ก็เป็นได้ อ่านเพิ่มเติม https://www.businessinsider.com/ernst-and-young-offers-staff-12-weeks-of-life-leave-to-travel-or-relax-2019-3

Betting Against Beta (BAB) Construction

เอา paper มาแชร์อธิบายเพิ่มจากที่กล่าวถึงกลยุทธ์ Betting Against Beta (BAB) ไปเมื่อวาน ซึ่ง BAB โฟกัสเน้นไปที่กลุ่ม low volatility , low beta ( สไตล์ short high beta ,long low beta แล้วใช้ leverage เพื่อ adjust ค่า beta รวมให้เข้าใกล้ 1) ปัจจุบันมี paper เขียนถึง Betting Against Beta เยอะโดยเฉพาะของ AQR หรือแม้แต่ paper ตัว buffett's alpha ก็มีการอธิบายกลยุทธ์นี้ไว้ ถ้าใครเพิ่งเริ่มศึกษาแนะนำให้ลองอ่านบทความนี้ของ J ack Vogel เขาแสดงผลการทดสอบ BAB พร้อมประเด็นเปรียบเทียบการจัด weight แบบต่างๆและการกำหนด factor ในการเลือกหุ้นประกอบ(ช่วยปิดจุดอ่อนของการใช้แค่ค่า correlation อย่างเดียว) รวมถึงพวกข้อจำกัด เช่นต้นทุนในการเทรด สภาพคล่องของหุ้นและอื่นๆอีกด้วย อ่านเพิ่มเติม https://alphaarchitect.com/2019/08/06/betting-against-beta-bab-construction/ https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=3300965

Argentina !!!

อัพเดตสถานการณ์ Argentina ............ - ปธน.Mauricio Macri เป็นผู้นำที่เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อเจนตินา การปิดดีลเงินกู้ช่วยเหลือจาก IMF มากู้วิกฤติประเทศ นโยบายรัดเข็มขัดที่ทำให้ คนอเจนตินาจำนวนมากไม่พอใจ แม้เศรษฐกิจอเจนตินาตั้งแต่ปี 2005 ยังไม่ดีขึ้นแต่ก็สามารถประคองตัวมาได้เรื่อยๆ  - เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Mauricio Macri แพ้ primary vote ส่งผลขาดความเชื่อมั่นที่รักษาฐานอำนาจทางการเมือง ทำให้ alberto fernandez มีโอกาสสูงที่ขึ้นมาเป็น ประธานาธิปดีคนใหม่ของอเจนตินา โดย มี cristina kichner เป็นเบอร์สอง(VP) - นาง kichner เคยเป็นอดีตประธานาธิปดีคนเก่า 2 สมัยก่อน macri ซึ่งรัฐบาลของเธอ ถูกกล่าวหาว่าสร้างปัญหาเศรษฐกิจใหญ่ให้กับอเจนตินา -ความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้ นักลงทุนต่างชาติและนวค. ขาดความเชื่อมั่น ในอนาคตของอเจนตินา โดยเกรงนโยบายรัฐบาลใหม่จะกลับไปเหมือนอดีตที่ผ่านมาในยุควิกฤติของรัฐบาล cristina kichner -รวมไปถึง ความกลัวในการเกิด defualt หนี้ของ Argentina พุ่งสูง นักวิเคราะห์ประเมินโมเดลจากข้อมูล Credit-default swaps พบว่าตัวเลขความน่าจะเป็นผิดนัดชำระหนี้พุ่งที่ 75% - ค่

the Impact of China’s Growth on the World Economy, Ray dalio

คลิปดีงามมากคุณ ray dalio มาเล่าเรื่องของจีน เขายังคงมุมมองเดิม เชื่อว่า จีน เป็นโอกาสหนึ่งที่ควรลงทุนในอนาคต นอกจากนี้ยังมีภาพชาร์ต +ข้อมูลประกอบดีๆเยอะเลย ผม cap บางส่วนที่สำคัญเอาไว้ ไม่ได้แปลให้ทั้งหมด แต่มี key take away มาแชร์ ถ้าใครฟังจบมีประเด็นดีๆเพิ่มเติมก็คอมเมนต์แชร์เอาไว้ได้ครับ > คุณ ray dalio ชื่นชอบจีน การพัฒนา การเปลี่ยนแปลงช่วง 40 ปีที่ผ่านมานโยบายการเมือง เศรษฐกิจต่อสู้กับควา มยากจน แล้วก้าวมาสู่ชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับสองของโลก > Invest in china , การเติบโต ของจีนก้าวสู้อำนาจใหม่ในศตวรรษหน้าเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะการแข่งขันทางธุรกิจ และเทคโนโลยี > จีน กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันธุรกิจระดับโลก และควรเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน diversification (eary ดีกว่า late)ในพอร์ต > market สะท้อนข่าวหรือประเด็นที่เกิดด้านบวกหรือลบ การลงทุนต้องจัดการ risk แม้ปัจจุบันหลายที่ก็ risk เช่น ยุโรป , US , EM ทุกที่ล้วน Risk เช่นเดียวกับจีน มี risk เฉพาะ มองเชิงสัมพันธ์เทียบกับทั้งหมด จีนเสี่ยงต่ำกว่า เทียบกับ ประสิทธิภาพและความสามารถการจัดการปัญหา และสถานกา