ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เวลา สิ่งมีค่าที่ไม่ควรถูกลืม

  เคยรู้สึกบ้างไหมครับว่าผ่านไปไม่นานก็หมดสัปดาห์ เผลอเดี๊ยวเดียวก็จะหมดปีอีกแล้ว "เวลา" เป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีจำกัด(ตามแต่อายุไขของแต่ละบุคคล) แต่ใน 1 วันทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน ฐานะสูงส่งต่างกันแค่ไหนเราก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่ากัน ประเด็นเรื่องของเวลา เคยถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นหลักในภาพยนต์เรื่อง "in time" โดยเฉพาะการวางโครงเรื่องวิธีคิดที่แตกต่างไปจากโลกปัจจุบัน คือให้เวลาเป็นสิ่งมีค่าสูงสุดของทุกคน มีเงินมากก็ซื้อเวลาได้มาก สามารถยืดเวลาตายได้ไปอีก หรือใช้เวลาในการซื้อหาสิ่งของ ใช้จับจ่ายแทนเงิน ทำงานแลกเวลา แน่นอนว่าถ้าเวลาหมดก็ต้องตายทันที แม้จะดูแฟนตาซีหลุดโลกไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนจากความเป็นจริงคือ "เวลา" เป็นสิ่งที่มีค่า แม้ในโลกปัจจุบันคนจำนวนมากอาจจะยังไม่เห็นค่าของมัน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่า คนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้มากมาย คือคนที่ใช้เวลาเป็น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับงานที่ตนเองทำ ไม่ปล่อยเวลาให้หมดไป ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์  ดังนั้นถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ หรืออยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ การเรียนรู้หลักการบริหารเวลา และใช้เวลาท

Gold@25-10-2012

บันทึกสภาวะตลาดทองคำ แนวโน้ม และรูปแบบราคา ประจำวันที่ 25-10-2012 บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อ ใช้ในการศึกษาวิจัย Gold Trading System Project  market sentiment  อาทิตย์ดูเหมือนตลาดหุ้นทั่วโลกจะไม่สดในนัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ที่หุ้นใหญ่หลายตัว เช่น Google Apple และอื่นๆ ผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาไม่สดใจต่ำกว่าคาดการณ์ บวกกับความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรป ที่ตอนนี้กำลังดูความชัดเจน  ของการขอรับเงินช่วยเหลือของสเปน ในขณะที่กรีซสามารถเจรจาขอเวลาเพิ่มอีก 2 ปีในการลดช่องว่างงบประมาณ 1.35 หมื่นล้านยูโรแล้ว แต่ยังเหลือการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือ รอบถัดไปอีก 3.15 หมื่นล้านยูโร แต่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศของกรีซ โดยเฉพาะการประท้วงของประชาชน ที่ไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลก็ยังไม่มีทีว่าจะสงบลงได้ง่ายๆ ในขณะที่ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จนมายืนระดับ 80 เหรียญได้อีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำตกลงไปมากพอสมควร TF: 4 Hour ภาพใหญ่ทองคำแนวโน้มช่วงนี้หลังจากการปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1700 แล้วไม่ทะลุ ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ราคาทองคำรีบาวนด์เด้งในกรอบ 1714-1700 ต่อไป  TF: 15 min

CCI indicator

วันนี้จะขอนำเอาเรื่องของ Commodity Channel Index (CCI) มาเล่าให้ฟัง เพราะหลายคนที่อีเมลเข้ามาพูดคุย สนใจเรื่องของการเทรดหุ้นแบบเก็งกำไรรายรอบ ถ้าจะให้แนะนำเครื่องมือ ก็จะคงไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่นึกขึ้นมาได้ว่า CCI ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่เทรดเดอร์นิยมนำไปใช้ ในการหาสัญญาณซื้อขายในระบบเทรด และตัวนี้ผมยังไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน วันนี้จึงนำมาสรุปให้อ่านกัน Commodity Channel Index (CCI) เป็นเครื่องมือดัชนีราคา ประเภท oscillator ที่ถูกพัฒนาโดยคุณ Donald Lambert เขาออกแบบทดสอบกับข้อมูลราคาในหุ้น ดัชนีตลาด ETF และสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีการเคลื่อนที่แบบเป็นรอบวัฏจักร เพื่อหาจังหวะจากคาบการแกว่งตัวของราคา หลักการทำงานของ CCI คือการหาค่าการกระจายตัวและการเบี่ยงเบนของราคาปัจจุบันจากราคาค่าเฉลี่ยเทียบกับการกระจายตัวของค่ากลาง ในคาบเวลา(interval) ที่สนใจ โดยมีสมการการคำนวณดังนี้ CCI = (Typical Price - SMA(n) of TP) / (.015 x Mean Deviation)  -Typical Price (TP) = (High + Low + Close)/3  -Constant = .015 -n = time interval คาบเวลาที่เราสนใจ  การปรับปรุงโมเดลของ CCI ให้ดีขึ้นคือการหาค่าเฉพาะของคาบเวลา ที่สอด

ก้าวแรกกับความล้มเหลว

ทุกคนล้วนมีความฝันมีไอเดีย อยากทำสิ่งต่างๆมากมายตามใจต้องการ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเดินตามฝัน ได้ลงมือทำฝันให้เป็นจริง และไปสู่เป้าหมายความสำเร็จ บางคนเลือกที่จะรอ เลือกที่จะเก็บฝันไว้ในใจ จนสุดท้ายเมื่อเวลาผ่านเลยไป เมื่อมีภาระและมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ความฝันนั้นก็ต้องถูกฝังลืมไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ การมีความฝัน และได้ลงมือทำเป็นสิ่งที่วิเศษแต่ใช้ว่า ทุกคนที่กล้าจะเดินทางตามความฝันจะสมหวัง และจบลงแบบสวยงามเหมือนในนิยาย มีหลายคนหกล้มหกลุก ไปได้เพียงครึ่งทางก็ต้องกลับมาสู่โลกความจริง บางคนผิดพลาดแค่เพียงก้าวแรกที่ออกเดิน ก็ท้อถอยหมดกำลังใจ ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะนี้คือโลกแห่งความจริง ที่คนธรรมดา ไม่มีต้นทุนชีวิตที่สูง ไม่มีครอบครัวที่ร่ำรวยสนับสนุน เมื่อมีความฝัน มีความตั้งใจ อาจจะไม่เพียงพอ ให้ไปสู่ยังเป้าหมาย (แต่แน่นอนว่าดีกว่าคนที่ไม่ฝัน ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต หรือคนที่ฝันแต่ไม่กล้าแม้จะเริ่มลงมือทำ) สิ่งที่ต้องมีมากกว่านั้นคือ เรื่องของแผนและกลยุทธวิธีการ ที่จะพิชิตเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น ทำร้านกาแฟ ไม่ใช่มีฝันมีใจอยากทำก็จะทำแล้วสำเร็จ แต่เราต้องทำงาน

ธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง

ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันด์มีขึ้นก็มีลง มีลงย่อมมีขึ้น เป็นธรรมดาไม่ได้หมายความถึงเฉพาะราคาหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจต่างๆอีกด้วย เมื่อเช้าตื่นมาอ่านข่าวต่างประเทศน่าสนใจ 2 ข่าวคือเรื่องของราคาหุ้นซุปตาร์แบบ Google inc และยุคเปลี่ยนผ่านของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่แบบ 'นิวส์วีค' เลยอยากนำสองประเด็นนี้มาเล่าให้ฟังต่อ นิตยสารนิวสวีค เป็นอีกนิตยสารของอเมริกาที่อยู่ยงคงกระพันมาถึง 80 ปี สมัยเรียนเวลาว่างเข้าห้องสมุด ผมมักชอบหยิบนิตยสารนี้มาอ่าน ถึงแม้จะอ่านรู้เรื่้องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างในตอนนั้น แต่ได้ดูภาพสวยๆก็ม้วนใจแล้ว แถมด้วยประเด็นเด็ดแต่ละคอลัมภ์ที่น่าสนใจ ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์เพิ่มไปอีก นิตยสารนิวสวีค เป็นนิตยสารหัวสี คู่แข่งสำคัญของ ไทม์ มาโดยตลอด วันนีั้ประกาศยุติการพิมพ์นิตยสารข่าวในรูปแบบกระดาษ แต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายผ่านช่องทางสื่อออนไลน์และดิจิตอลแทนทั้งหมด แน่นอนว่าเบื้องหลังการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือดบวกกับผลประกอบการที่ลดลงและเติบโตยากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ประสบปัญหาทางการเงิน นิตยสารนิวสวีค ต้องทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยลดพนักงานและเ

ทำไมเล่นสั้นแล้วพอร์ตไม่โต

วันนี้ได้คุยประเด็น มุมมองตลาดกับพี่คนหนึ่ง น่าสนใจมาก เรื่องทำยังไงให้พอร์ตโต พี่ท่านนี้นำประเด็นหยิบยกเรื่องการได้กำไรมากมาย หลายสิบเปอร์เซนต์ ของแมงเม่าหลายคนในช่วงนี้มาเล่าให้ฟัง แกบอกว่าเจอแต่คนอวดกำไรหุ้นเล็ก หุ้นร้อน หรือวอเรนต์ เพราะตลาดกำลังขึ้นแรง โดยเฉพาะหุ้นเล็ก หุ้นน้อยวิ่งกันใหญ่  พอกำไรก็เอากำไรมาอวด มาโชว์กัน ที่น่าเป็นห่วงคือการโฆษณาว่าตลาดทำกำไรง่าย เข้าเช้าหาหุ้นตามข่าว ตามเว็บ ขายออกเย็น ก็ได้กำไร ผิดทางก็ไม่ต้องกลัวไม่ขายไม่ขาดทุนดอยสองสามวันไม่นานก็ออกได้  ยิ่งเห็นกำไร 10-20% ต่อวันมาเป็นตัวล่อ ก็ทำให้มีแต่คนอยากลอง ยิ่งตลาดขาขึ้นบวกเยอะๆ ความหวังยิ่งมาก ความนิยมชมชอบในการเสี่ยงดวงก็มากขึ้นไปทุกขณะ  ประเด็นแบบนี้น่าสนใจ อยากเอามาเขียนให้อ่าน เพราะเท่าที่คนเห็นคนที่บอกว่ากำไรบ่อยๆ เล่นสั้นๆ เข้าตัวนั้นตัวนี้ก็กำไร แต่ ทำไมจึงกลับไม่รวย พอร์ตไม่โต ประเด็นหลักๆที่ผมพบคือ นักเก็งกำไรแบบแมงเม่าสไตล์ เหล่านี้เน้นเล่นเอาสนุก เล่นเอามันส์ มากกว่าการมองผลกำไรระยะยาวในเกมส์สั้นๆ ถามว่าสนุกตรงไหน สนุกตรงกำไรนั้นเอง มันส์ตอนไหน มันส์ตอนได้คุย ได้โชว์ แต่แน่นอนว่าถ้าขาดทุนก็ท

ทำด้วยใจใช่อยากรวย

ผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวมอมแมมแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่า เธอเป็นกรรมกรเข้ามาก่อสร้างคอนโดหรู ย่านใจกลางเมือง เธอเดินกำเงินค่าแรงเป็นแบงค์ยี่สิบหลายใบในมือ เข้าร้านอาหารฟาสฟู๊ดดังเจ้าหนึ่งในห้างหรู ไม่ไกลจากไซต์ก่อสร้าง เพื่อซื้ออาหารแบบที่เห็นในโฆษณา แต่ภาพเหตุการณ์ที่ผมเห็นเป็นอะไรที่น่าสงสารเศร้าอย่างยิ่งเพราะ พนักงานขาย ปฏิบัติกับเธอแบบแล้งน้ำใจ ใช้น้ำเสียงที่ดุดัน พร้อมด้วยสายตาดูถูกดูแคลนจากลูกค้าบางคนในร้าน  สิ่งที่ทำให้เธอเป็นจุดสนใจเพราะเงินในมือที่มีไม่มากพอ ทำให้ไม้สามารถเลือกชุดอาหารที่มีในเมนูได้ ยิ่งทำให้เธอประหม่าไปใหญ่ แต่เรื่องนี้จบสวย เพราะมีคุณป้าใจดีท่านหนึ่ง ที่ยืนต่อคิวในแถว อาสาเข้าช่วยเหลือ ให้คำแนะนำพร้อมออกเงินส่วนต่างให้เธอได้ซื้อแบบที่ต้องการกลับบ้าน ฟังเรื่องนี้อาจจะทำให้เราคิดสงสัยว่าทำไมคนจนแบบเธอ ต้องอยากมากินของแพงเกินฐานะแบบนี้ด้วย แต่สิ่งที่ผมได้ยินเธอบอกกับคุณป้าท่านนั้น หลังจากยกมือไหว้ขอบคุณ คือ ที่เธอมาซื้อเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลูกชาย ที่บ่นอยากกินมานานหลายปี แต่เธอไม่มีโอกาสซื้อให้   วันนี้เลยรวบรวมเงิน รวบรวมความกล้าเข้ามาซื้อทั้งอาหารและแลกซื้อของ