ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ crypto

กรณีศึกษา มหกรรมล้างพอร์ต!!!

  เหตุการณ์เมื่อวาน ในตลาดคริปโตทำให้เกิดการพูดถึงกันมากในหลายกลุ่มเทรดเดอร์ ถึงเหตุการณ์มหกรรมล้างพอร์ต โพสนี้คุณ nasim taleb เขียนข้อความอ้าง ข้อมูลจาก bybit ที่แสดงสถิติจำนวนบัญชีกว่า 750,000 crypto traders ต้องโดน liquidated (ล้างพอร์ต เงินหมด) เขารวมสถิติจากโบรกเกอร์คริปโต ดังๆ เช่น bianance, ftx , huobi สรุปสั้นๆ มาจากเทรดเดอร์รายย่อย มีเงินทุนน้อยจำกัดแต่การใช้ leverage ระดับสูง(50-125x) เพื่อขยาย position size , เมื่อเจอการเหวี่ยงแบบ high volatility ก็เอาไม่อยู่ ล้างพอร์ตทันที ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องการเดาทางผิดหรือถูกเท่านั้นนะ เพราะบางคนคิดว่าลง ไป short 125x เห็นกำไรหลายร้อย % ไม่นาน ไม่นานปรากฏว่า ราคาขึ้นดีดกลับ +20% สวนใส่หน้า กำไรหาย ขาดทุนล้างพอร์ต, เช่นเดียว คิดว่าถูกลงมาเยอะ เข้าไปสวน Long 125x โดนลากต่อไปราคาลงไป -10 -20% (แล้ววันต่อมาราคาก็ดีดขึ้นให้ เสียน้ำใจ) แน่นอนว่า เอาไม่อยู่ เพราะ การเปิด position size ใหญ่ด้วย leverage ทำให้มีเงินทุนไม่พอรักษามูลค่าสัญา กันระดับ SLD พอระดับ volatility ที่เกิดได้ นอกจากนี้เมื่อวาน ยังมีประเด็นพิเศษคือ เทรดเยอะระบบของโบรกเกอ

Decentralized Finance: On Blockchain- and Smart Contract-Based Financial Markets

  วันหยุดผมมีโอกาสได้อ่าน บทความวิจัยชิ้นหนึ่ง เชิง review ของ Fed (Federal Reserve Bank of St. Louis Review) เขียนถึง Decentralized finance (DeFi) ทั้งในเชิง Tech และ ด้าน Financial ปัจจุบันยุคใครๆก็ defi (เมื่อเช้าได้ยินเด็กวัยรุ่นคุยกันเรื่อง Farm ในร้านกาแฟเลย) มันสะท้อนให้เห็นเรื่อง ความสะดวกในการเข้าถึง และการเติบโต ที่เหมือนจะเร็วมากในปี 2021 ไม่กี่เดือนนี้ บทความวิจัยนี้ เขียนทั้งด้าน โอกาส (opportunities) และ ความเสี่ยง (potential risks) เชิง review ให้ความรู้กับระชาชนด้วยภาษาทั่วไป สะท้อนให้เห็น Fed ติดตาม จับตาและเขาศึกษาเชิงลึก อธิบายการศึกษาตั้งแต่ DeFi architecture ,asset tokenization, decentralized exchange protocols, decentralized lending platforms, decentralized derivatives, และ on-chain asset management. (อ่านมาหลายชิ้นบทความนี้อธิบายครบและเข้าใจง่ายสุดแล้ว) ประเด็นหนึ่งน่าสนใจคือทีมวิจัยมองว่า defi มีศักยภาพ ที่มาเปลี่ยน financial infrastructure ให้โปร่งใส่ แบบไร้ตัวกลาง และเป็นคู่แข่งหรือภัยคุกคามระบบธุรกิจการเงินแบบอดีตได้ด้วย , แต่ความคิดเห็นของทีมวิจัย จาก Fe

Charlie Munger & Bitcoin

  น่าจะเป็นประเด็นร้อนสุดสัปดาห์ หลัง high profile อย่าง Charlie Munger วิจารณ์ บิตคอยอย่างดุเดือด ประเด็นหลักเรื่องของ การประเมินมูลค่าไม่ได้ แถมไปทิ้งท้ายอีกว่าบิตคอยเหมาะกับการใช้เพื่ออาชญากรรมอย่างลักพาตัวและเรียกค่าไถ่ (เดือนก่อนหน้าก็เคยวิจารณ์ Tesla ไว้หนักประเด็นราคาและการประเมินมูลค่าเช่นกัน) , ทำเอากลุ่มคนสาวกคริปโต บนโซเซียลมีเดียเดือดกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะสายถือยาวเมื่อความคิดเห็นนี้ของศาสดาอย่างปู่ชาลี ดับฝันสาย VI ใน digital asset ไปเลย แต่ยังไม่เห็นคนดังสายคริปโต เช่น Elon musk (The Dogefather) ออกมาร่วมวงตอบโต้ กับความคิดเห็นนี้ของ Charlie เท่าไหร่ เรื่องนี้มันก็สะท้อนอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาเรื่องของความเชื่อ และการรับรู้/ตีความ ที่ต่างคนต่างมีไม่เหมือนกัน เรื่องของมุมมอง ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ต่อไป ............................................ ‘Of course, I hate the bitcoin success and I don’t welcome a currency that’s useful to kidnappers and extortionists, and so forth. Nor do I like just shoveling out a few extra billions and billions of dollars to somebo

Rug Pull

ข่าวดังสัปดาห์นี้คงเป็น Uranium Finance ที่ทำเอาเหล่านักลงทุนดิจิตอลต้องเจ็บปวดกันเสียหายกว่า $50 ล้าน (80 BTC , 1,800 ETH, 26,500 DOT, 5.7 ล้าน USDT , 638,000 ADA และ 112,000 u92) ข่าวยังออกมาสองทาง บ้างว่า Hacker บ้างว่าเป็นคนวงในจงใจวางยาแก้ code เพื่อยักยอกเหรียญไป คงรอการสอบสวนต่อ ในปี 2021 มีข่าวหลายโปรเจค Defi ที่เกิดการฉ้อฉลกลโกง ทั้ง Scams และ Rug Pull ถี่มาก เช่น Compounder Finance, Meerkat Finance , TurtleDex, PAID Network, Dodo Finance, PopcornSwap ,MonsterSlayer Finance เป็นต้น หลายโครงการเสียหายมากว่า $10 ล้าน - $160 ล้าน เหมือนเป็นอีกโลกการเงิน ที่นักล่า ออกล่ากันอย่างสนุก จริงๆคงไม่แปลกเพราะ นักลงทุนรุ่นใหม่ ล้วนวิ่งหาผลตอบแทน APY สูงๆ บางโปรเจคโฆษณาผ่าน social media platforms เปิดตัวว่าจะให้ได้ถึง 500 - 1000% ทำให้นักลงทุนสาย staking และ yield-farming รีบวิ่งเข้าไปหา เมื่อเงินก้อนใหญ่วิ่งไปรวมกันมันล่อใจ สุดท้ายโดนเจ้าของโปรเเจคบางคนโกงตกแต่งตัวเลขผลตอบแทนบน app ล่อใจดูดเงินเพิ่มจากนักลงทุน แล้วสุดท้ายได้มากพอก็ทำ Rug Pull เฉิดเหรียญใน liquidity pool หนีไป ไม่ต่างอะ

crypto-linked stocks

  ตั้งแต่ต้นปี 2021 กระแสการเข้าซื้อ bitcoin และคริปโตของบริษัทจดทะเบียนใหญ่ๆ มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่ม crypto-linked stocks เพื่อเกาะ trend ร้อนของ crypto currency โดยที่ไม่ต้อง เสี่ยงสูง และเผชิญกับต้องทุนที่สูง ในการเข้าเทรดเก็บ crypto currency เข้าพอร์ตโดยตรง บทวิเคราะห์สถาบันการเงินเจ้าใหญ่อย่าง Goldman Sachs ออกมาแนะนำให้ นักลงทุน เก็บหุ้นกลุ่ม crypto-linked stocks นี้ที่อยู่ในตลาดสหรัฐ มีรวมกันมูลค่ามากกว่า $1 billion ซึ่งถือครองบิตคอยและเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี blockchain โดยโบรกแนะนำ equal-weighted basket ที่มีการอิงปัจจัยค่า Beta to BTC ซึ่งบอกน้ำหนักความสัมพันธ์ระหว่าง BTC และราคาหุ้นในบริษัทนั้นๆ ซึ่งในภาพจะพบ basket ประกอบหุ้นใหญ่ที่เราคุ้นชื่อ ทั้งกลุ่ม Tech, Bank & Finance และ Retail นี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการที่บริษัทซึ่งมีเงินสดในมือ แทนจะไปลงทุนขยายธุรกิจในช่วง covid-19 ก็เลือกเกาะกระแส เทรนด์อนาคตกับการโตของ Bitcoin แน่นอนว่ามีความเสี่ยง แต่เหมือนปีนี้ปีทองจะกลายเป็นผลดี อย่างที่เราเห็นในผลประกอบการหุ้นอย่าง tesla เป็นต้น ปล. ข

Non-fungible tokens(NFT)

  วันนี้อ่านเรื่องของ non-fungible tokens(NFT) หลายบทความ ซึ่งดูเหมือนกระแสรอบนี้จะทำให้เห็น use case น่าสนใจของเทคโนโลยีมากขึ้น แม้จะดูเหมือนมันเป็นกระแสร้อนและมูลค่าสินค้าน่าจะเป็นอะไรที่เกินจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า Technology มันมาแล้วย่อมคงยังดำเนินอยู่หลังการได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มันใช้งานได้และสามารถแก้ข้อจำกัดเดิมในอดีต รอบนี้คนหนึ่งที่ Win ในเกมส์กระแสร้อน NFT คือ คุณ Mike Winkelmann (ฉายา Beeple) เขาเป็น digital artist ที่ผลิตผลงานดิจิตอลอาร์ทมากกว่า 10 ปี รอบนี้เขาได้นำ NFT ของผลงานภาพชิ้นเอกชื่อ "Everydays: The First 5,000 days" ไปประมูลขายบนเว็บประมูล christies dotcom ได้ราคากว่า $69 million กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในข้ามคืน , เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่าติดตามและศึกษา NFT มาสักระยะ แต่ก็ไม่คิดว่า งานของเขาจะขายได้มูลค่ามากมายขนาดนี้ , หลายเว็บมีการประมูล NFT กลุ่มดิจิตอลโปรดักซ์ หลายประเภท เช่น digital art, memes, music , รูปภาพ ,ของสะสมดิจิตอลต่างๆประเภทมีชิ้นเดียวในโลก เช่น NFTตัวสินค้าข้อความ first tweet ของ Jack Dorsey , ceo twitter เป็นต้น โดย Mike Winkelmann กล่าวว่

บันทึก Stable Coin - THT

  กำลังเป็นประเด็นร้อน แต่อยากบันทึกข้อมูลเอาไว้ ด้าน ธปท. วันนี้ออกตัวแรง ประกาศห้าม หลังทนความร้อนที่มีการกล่าวถึงของ THT บน Terra Platform ไม่ไหว ประกาศเตือน"การทำ จำหน่าย ใช้ หรือนำออกใช้ วัตถุหรือเครื่องหมายแทนเงินตรา ที่เป็นความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 และเตือนว่าประชาชนไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับ THT เพราะจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย เสี่ยงการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ และเสี่ยงตกเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน" https://www.bot.or.th/.../Pre.../Press/2021/Pages/n1564.aspx ส่วนล่างเป็นแนวคิดเริ่มต้นของผู้สร้าง(ธันวา อาภรณ์ทิพย์) ทำ Proposal ไปที่ Terra Chain เพื่อเสนอโหวตจากกลุ่ม คอมมูนิตี้ แนวคิดไม่ซับซ้อนอยากมี เหรียญไทยบาท สำหรับการแลกเปลี่ยนบนโลก DeFi และให้ ไทยบาทดิจิตอลเป็น risk-diversified investment portfolio เท่านั้นเอง ผลโหวตออกมาดีมาก จนได้สร้างออกมา ตรึงมูลค่า 1 เหรียญต่อ 1 บาท ใช้ Luna บน Terra มาสวอป ปัจจุบันที่ใช้กันก็คือ พักเงิน เปลี่ยนเหรียญระหว่างการเทรด/การขุด แต่ตอนนี้ที่หลายคนกำลังรอ Peer to Peer Lending หรือ Antchor บน Terra Chain ซ

How JPMorgan's cryptocurrency is different from bitcoin

สรุปประเด็น JPM Crypto - JPMorgan สถาบันเงินอันดับต้นของโลกเปิดตัว JPM Coin เป้าหมายใช้เทคโนโลยี block chain มาพัฒนาเป็นช่องทางการชำระเงินข้ามพรมแดน ลดเรื่องเวลาในการชำระบัญชีและค่าธรรมเนียมต่างๆ - นำข้อเด่นของ cryptocurrency มาใช้ในงานธนาคาร แก้ข้อจำกัดเดิมๆ เช่น valuation และเรื่องของ volatility - JPM Coin เป็น cryptocurrency ที่สร้างโดย major U.S. bank ผูกค่า แบบ fix กับดอลลาร์ โดย 1Token = 1$ - การผูก value กับดอลลาร์ทำให้ ลด volatile ในมูลค่าของ cryptocurrency บวกกับรับรองสถาบันการเงิน ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้งาน - พัฒนาส่วนรักษาความปลอดภัย JPM coin รันตัว blockchain network ที่ออกแบบมาเฉพาะเรียกว่า Quorum - ปัจจุบันให้บริการสำหรับลูกค้าขนาดใหญ่ บริษัทขนาดใหญ่, ลูกค้าสถาบันที่ต้องการซื้อ JPM Coin สำหรับ transfer cross-border payments หรือชำระเงินจ่ายหนี้ต่างๆระหว่างสถาบัน - กูรูมองว่า JPM Coin ไม่ได้ทำมาเพื่อเป็น asset หรือเน้นมูลค่าจากตัว cryptocurrency แต่ออกมาเพื่อธุรกิจ โดยเฉพาะการปรับตัวของ bank ใหญ่สู้กับ fintech ที่ใช