ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

การแก้ปัญหาอินเตอร์เน็ตเบื้องต้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็มี โทรศัพท์จากน้องสาวคนสวย มาขอคำปรึกษา ตอนแรกนึกจะถามเรื่องหุ้น แต่ที่ไหนได้คุณน้องถามเรื่องอินเตอร์เน็ต เพราะกำลังจะตั้ง Bid หุ้นห่านทองคำ แต่ที่ไหนได้ดันต้องนั่งมาเซ็งห่าน เพราะ อินเตอร์เน็ตไม่อำนวย กว่าจะโทรไปบอกมาร์ให้ตั้งซื้อให้ ราคาก็วิ่งไปแล้วหลายช่อง สุดท้ายต้องตัดใจเป็นอันชวดเก็บหุ้นในราคาที่ต้องการไปเลย ผมว่าเหตุการณ์แบบนี้หลายท่านที่เป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ใช้บริการเทรดหุ้นทางอินเตอร์เน็ตต้องเจอ ปัญหาแบบนี้ยียวนชวนเซ็งได้พอๆกับตอนแม่ข่ายของโบรกเกอร์ล่ม แต่ต่างกันตรงทีตอนนี้อาจจะไม่รู้ไปฟาดงวงฟาดงากับใคร แถมไม่มีเพื่อร่วมชะตากรรมอีก ยิ่งถ้าเป็นช่วงกำลังจะขายหุ้นในราคาที่ตั้งใจ แล้วดันพลาดช่วงสำคัญสัก 10 นาที ราคาอาจจะไหลลงไปแล้วหลายช่อง ทำให้กำไรลดลงได้มากโขทีเดียว วันนี้ผมมีเทคนิคการแก้ปัญหา และการตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นง่ายๆมาฝากกัน ตรวจสอบเบื้องต้นว่าปัญหาคืออะไร สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติ และพยายามหาปัญหาเบื้องต้นให้ได้ว่ามันมีปัญหาอะไรบ้าง และอะไรมันใช้ไม่ได้ อย่าไปร้องแร่แห่กระเชิงว่า "เน็ตเสีย เน็ตเสีย" ถึงท่านจะโทรไปถามช่าง ไปบอกเจ้าห

คุณหมกมุ่นเกินไปหรือเปล่า???

บ่อยครั้งที่ผมมักเจอนักลงทุนรายย่อยหลายคน active กับการเล่นหุ้นมากจนรู้สึกว่ามันเยอะไป อันนี้ผมไม่ได้คิดจะตำหนิว่าไม่ดี แต่อยากนำมาตั้งคำถามและชวนให้คิดกัน ถ้าคุณเข้าข่าย ตั้งหน้าตั้งตาจะหาหุ้นเด็ดเพื่อซื้อมาครอบครองทุกวัน ลองมาปรับเปลี่ยนวิธีลงทุนดูหน่อยไหมครับ เล็กสั้นขยัน Match ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า อาการที่คนส่วนใหญ่เป็นมักจะเป็นการอยากทำกำไร อ๊ะ!! แล้วผมไม่เป็นหรือ ผมก็เป็นแต่โรคอยากทำกำไรมากจัด มันเหมือน การเสพติดความสำเร็จ ได้เท่าไหร่ไม่สำคัญขอให้ได้ก็ สุโค่ยแล้ว อิ่มเอิบใจเอาไปอวดเพื่อนๆได้ จะเสี่ยงแค่ไหนไม่เป็นไรขอแค่ไม่อยากตกรถก็พอ  บ่อยครั้งเราจะเห็นคนที่พยายามหาหุ้นมาเล่นได้ตลอดเวลา ประมาณว่า พอร์ตไม่แห้งกันเลยทีเดียว ออกแนว money never sleep  อยากซื้อขายหุ้นทุกวัน ได้ match แล้วมีความสุข เหมือนประหนึ่งว่าฉันขยันทำงาน  ผมเองกลับคิดว่ามันอันตรายนะ เพราะเมื่อเรามีความคิดแบบนี้ มันส่งผมให้เกิดการอยากซื้อหุ้นมาก จนเรามองข้ามความละเอียด และเกิดความประมาทไป ทำให้ไม่มีความอดทน ไม่รู้จักรอ จิตใจเราจะรวนเรเกตุง ไปตามคำชักชวน คำบอกเล่าของคนอื่นๆ ประมาณว่าตัวไหนดี พี่เอาหมด ซื้อไปแล

click2win มาแล้วจ้า

คำถามที่พบบ่อยเป็น FAQ สำหรับผมคือ "ทำอย่างไรจะเล่นหุ้นเก่ง" ถึงผมจะไม่ได้เล่นเก่งแต่ก็ตอบได้ว่าต้อง ซ้อม ซ้อม และก็ซ้อม (ทำหน้าตี๋แบบ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี) แม้คุณจะเล่นหุ้นอยู่ที่บ้าน หรือแอบเจ้านายเล่นที่ทำงาน โดยไม่ได้ไปเคเนกี้ฮอล์ คุณจะเก่งได้ก็ต้องซ้อม ความสามารถ ทักษะ และจิตใจที่กล้าแข็ง มันไม่มีเป็น CD หรือหนังสือที่วางขายตามร้าน ซึ่งจะซื้อมาอ่านก็เก่งได้ในข้ามคืน ถ้าอยากได้ต้องพยายามเรียนรู้ และฝึกหัดปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ ทำไมต้องสมัคร click2win ถ้าคุณคิดว่าคุณเก่ง เมื่อใดเมื่อนั้นคุณจะไม่เก่ง แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีวันเก่ง เมื่อนั้นคุณก็จะไม่เก่ง แล้วเมื่อไหร่จะเก่งได้ คำตอบคือ เมื่อวันที่คุณเข้าใจทุกสิ่ง มองเห็นภาพที่นิ่งและสงบ รู้ว่าจะต้องทำอะไร ก่อนหลัง มองเกมส์ออก ไม่ตลกตกใจไปตามฝูงคน ไม่รนรานจนผิดพลาด แต่วันนั้นจะมาไม่ถึงถ้าคุณไม่เริ่มพยายาม  การเล่นหุ้นหรือลงทุน ล้วนมีต้นทุนที่ต้องจ่าย คุณผิดพลาดหมายถึงเงินในกระเป๋านั้นหายไป จะดีไหมที่ เราจะมีโอกาสซ้อมเทรดจริง ในสภาวะและข้อมูลตลาดจริง กับเงินปลอม (ฮ่า) หรือเงินจำลองในเกมส์ ที่กำหนดไว้ ใช่แล้วครับผมกำลังพูดถึง cl

อยากรวยต้องเริ่มจากการออมเงิน

บ่อยครั้งที่ผมเห็นหลายคนมักกล่าววจีเอื้อนเอ่ยออกมาว่า "อยากเล่นหุ้น", "อยากลงทุน" แท้จริงแล้ว คำเหล่านั้นมันห่อหุ้มนัยยะที่แท้จริงคือคำว่า "อยากรวย" ซึ่งคนส่วนมากอยากรวย แต่ไม่ค่อยยอมจ่ายต้นทุนของความรวย นั้นก็คือการลงแรงศึกษา และสร้างหนทางที่ไปสู่ความรวยอย่างแท้จริง แทนที่จะมุ่งหาแต่ทางลัด ซึ่งล้วนแต่จะพาท่านไปเข้ารกเข้าพง ออกจากรูกันเถอะ อยากรวยไม่ใช้เรื่องผิดสำหรับมนุษย์ที่มีกิเลสหนาเกิน ห้าเซนติเมตร ผมเชื่อว่าทุกคนคงคิดเช่นนั้น โดยเฉพาะมนุษย์รูแบบเราๆท่านๆ ที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น รูที่ว่าไม่ใช้รูในดินนะครับ แต่ผมหมายถึงรูทีน(routine) แบบตื่นเช้ารถติด เข้างาน นั่งหน้าคอม ประชุม พักกลางวัน กลับมานั่งหน้าคอมทำงานจนดึกอีก ชีวิตแบบนี้ไม่ใช่ชีวิตที่น่าอภิรมณ์เท่าไหร่ แต่เป็นชีวิตที่เราต้องดำเนิน เพราะด้วยเราเป็นชิ้นส่วนเล็กๆตัวหนึ่งของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ที่ต้องทำงานแลกเงิน และก็ต้องโดนหลอกดึงเงินออกจากกระเป๋าด้วยความอยาก ความฟุ้งเฟ้อ กับกระแสสังคมและค่านิยมเชิงวัตถุที่เกินจำเป็น ผ่านบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บัตรเงินผ่อน ต่างๆ ประเด็นเหล่านี้มันทำให้มนุษย์เง

ความเข้าใจผิด NAV

ช่วงนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงกังวลกับเรื่องของเงินเฟ้อพอสมควร เพราะด้วยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น มนุษย์เงินเดือนผู้ใช้บริการแต่เงินฝากอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดิน จึงควรระมัดระวังในจุดนี้ไว้บ้าง เพราะบางครั้งการขยันทำงานเก็บเงินฝากธนาคารอย่างเดียว อาจจะไม่พอ ถ้าอนาคตอัตราเงินเฟ้อมันสูงกว่า ดังนั้นดอกเบี้ยเงินฝาก ย่อมไม่ใช้ทางเลือกที่ดีในการออมเงินระยะยาว เมื่อนั้นการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำน่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบ ผมเองเลือกการลงทุนในหุ้นทั้งแบบระยะยาว และแบบเน้นปันผล เพื่อใช้ในการออมเงินเก็บที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำงาน และได้เขียนถึงหุ้นปันผล หรือการลงทุนระยะยาวเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อมาพอสมควรแล้ว จุดที่ต้องเน้นถ้าจะลงทุนในหุ้นเพื่อชนะเงินเฟ้อคือ การเลือกหุ้นที่ปันผลสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ มีประวัติปันผลดีต่อเนื่อง หรืออีกทางคือเลือกหุ้นที่มีสินทรัพย์เยอะๆ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อและได้รับประโยชน์จากการเกิดเงินเฟ้อ  (สินค้าเกษตร, พลังงาน,สาธารณูปโภค) แต่ต้องพิจารณาความสามารถจัดการต้นทุนที่มาพร้อมเงินเฟ้อของแต่ละบริษัทไปได้ด้วยนะครับ แต่สำหรับท่านที่ยั

MT4: Update EOD

ขอเขียนถึงการใช้งานโปรแกรม Meta stock สักหน่อย เพราะผมว่าบางครั้งเรื่องราว พื้นฐานของการใช้งานโปรแกรมยังไม่ค่อยมีการเขียนถึง ในภาษาไทยให้อ่านได้อย่างง่ายๆ ด้วยเหตุที่ผมจำเป็นต้องใช้งานโปรแกรม เลยอยากจัดทำคู่มือฟังก์ชั่นการทำงานง่ายๆขึ้นมาเพื่อให้ท่านที่สนใจได้ศึกษาต่อไป ผมเองปกติต้องบอกว่าไม่ค่อยได้ใช้ Meta Stock สักเท่าไหร่ เพราะด้วยที่ชอบใช้ข้อมูล Real-time จึงใช้งาน Efinance ซะมากกว่า แต่ด้วยเหตุที่ว่าต้องทำการทดสอบ Trading Model ของระบบเทรดใหม่ ซึ่งปกติการทดสอบโมเดลแบบ Back Test และ Forward Test ผมจะเขียนโปรแกรมมาทดสอบกับข้อมูลเอง แต่ด้วยความลำบากและเสียเวลาในการ implement บาง indicator ที่ยุ่งยาก เลยคิดว่าใช้ Meta Stock จะดีกว่า ด้วย Meta Stock มีโมดูลที่สามารถให้ผู้ใช้งานเขียน script ด้วยภาษาที่มีไวยกรณ์เฉพาะ เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชั่นและเครื่องมือดัชนีต่างๆได้ง่าย ทำให้สะดวกมากในการทดสอบระบบเทรดที่ซับซ้อน โดยสามารถสร้างระบบเทรดผ่าน expert advisor ได้และทดสอบผ่าน enhanced system tester วันนี้จะเริ่มมาอัพเดตกระบวนท่าพื้นฐานที่ต้องใช้ใน Metastock นั้นคือการ Update ฐานข้อมูลราคาด้วย

รู้ไหมคุณกำลังแข่งกับใคร???

การใช้ชีวิตในโลกนี้แน่นอนว่าเรามักจะหนีไม่พ้นการแข่งขัน ตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก การแข่งขันดูเหมือนจะเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ไปแล้ว แน่นอนว่าทุกครั้งย่อมมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ ผู้ชนะได้ในสิ่งที่ดี ที่เป็นรางวัลไปครอบครอง ผู้แพ้ก็ย่อมไม่ได้สิ่งที่หวัง ว่างเปล่า บางคนที่แพ้มากๆหมดไฟก็กลายเป็น Mean ของสังคมและระบบนิเวศไป เป็นมนุษย์คนที่ธรรมดาทั้ง รูปร่าง หน้าตา ความสามารถ และฐานะ และดำรงอยู่ในสังคมร่วมกับผู้ชนะ แต่ประเด็นที่ผมจะชี้ให้เห็นคือ ไม่ใช้ผู้แพ้ในเกมส์การแข่งขันทางสังคมจะไม่มีความสุขเสมอไป ผู้แพ้ทางสังคมมีโอกาสครอบครองความสุขได้ เพราะความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภายในจิตใจ เกิดขึ้นจากการแข่งขันกับตัวเอง ถ้าชนะใจตัวเองได้ ความสุข ความสมหวังก็ย่อมจะเกิดตาม  ดังนั้นการแข่งขันกับจิตใจตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น เก่า(ตาย)ไปใหม่ก็มา คนเก่าที่ล้มหายตายจากไป ไม่เจ๊งขาดทุนโดน Force sell กันไป ก็ติดดอยกลายเป็น VI จำเป็น แต่กระแสเงินก็ไหลเข้ามาจากแมงเม่าหน้าใหม่ ยิ่งมีคนเข้ามาลงทุนมากเท่าไหร่ ตลาดยิ่งหอมหวานเพราะ

ลงทุนเก็งกำไรระยะยาว สไตล์ Cway

ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของนักลงทุนที่เริ่มมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีน้อยลงเรื่อยๆ ผมมีโอกาสได้คุยกับบางท่านทางเว็บบอร์ด พบว่าหลายคนอายุแค่ 17-18 ปี ก็เริ่มลงทุนแล้ว สำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าอิจฉา เพราะถ้าเกิดคนเหล่านี้สามารถลงทุนในรูปแบบที่ถูกทางและ อยู่รอดในตลาดเกิน 10 ปี โอกาสจะเป็นเศรษฐีก็มีไม่น้อย แต่ถ้าพลาดไปเป็นขาซิ่งแบบผิดๆ ติดในวังวงเก็งกำไรรายวันแล้วละก็คาดว่าไม่ถึง 1 ปีคงได้น้ำตาตกกลับออกไปจากตลาดหุ้นแน่นอน คนอายุน้อยก็มีข้อจำกัดเรื่องวุฒิภาวะ การควบคุมอารมณืและข้อสำคัญถ้ายังไม่เคยทำงานหรือประกอบอาชีพมาก่อน อาจจะมองไม่เห็นคุณค่าของเงินมากพอ ทำให้เกิดการลงทุนแบบเสี่ยงๆ และพยายามใช้ความกล้าได้กล้าเสียมาวัดดวง จนสุดท้ายก็กลายเป็นการพนันไป ยิ่งลูกผู้ดีมีเงินที่หาเงินได้ง่ายจากทรัพย์ของพ่อแม่แล้วนั้น การลงทุนแบบเกินตัว ขาดการจัดการด้านเงินทุนที่ดี โอกาสหมดตัวก็สูง ตลาดหุ้น แท้จริงก็คือสนามรบสำหรับนักเก็งกำไร ทุกบาทที่ท่านได้มา นั้นย่อมมาจากเงินของผู้อื่นที่เสียไป แต่การสู้รบในสนามแห่งนี้ไม่ได้เกิดจากการสู้กับผู้อื่น แต่มันมาจากการสู้รบกับตัวเอง สู้กับจิตใจของตนเอง โดยส่วนต