ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

The Disciplined Trader

ช่วงนี้ cwayinvestment จัดโปรเจค Trader Book Club ขึ้นมาคุยกันสบายๆเบาๆเรื่องของหนังสือ ที่จะมีประโยชน์ต่อการเทรด ในรูปแบบ รีวิว จับสาระสำคัญบางส่วนมาเล่าต่อ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้  สัปดาห์นี้ตอนที่สองแล้ว ผมหยิบเอาหนังสือ โปรดอีกเล่มของผม คือ The Disciplined Trader เขียนโดย คุณ Mark Douglas มาเล่า ใครอยากประสบความสำเร็จ ในอาชีพเทรดเดอร์แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย  https://www.youtube.com/watch?v=DnkePZnWNiA

Jessica Alba กับบทบาทใหม่นักธุรกิจพันล้าน

Jessica Alba เป็นผู้หญิงสวยและเก่งจริงๆ ล่าสุดบริษัท startup ของเธอ กำลังเข้าตลาดหุ้น มูลค่าระดับพันล้าน เ ธอกับหุ้นส่วนร่วมสร้าง  The Honest ธุรกิจขายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้เพื่อสุขภาพแบบออร์แกนิค ประเภท nontoxic product มีสินค้ากว่า 120 รายการ สำหรับเด็กและผู้หญิง ใช้ organic cotton และ plant-based polymer รวมถึงบรรจุด้วย bio-plastic ไอเดียแรงบันดาลใจ เธอบอกว่าได้มาจากตอนมีลูก แล้วเกิดแพ้ สินค้า่ทั่วไปที่มีสารเคมีปน และเกิดเป็นพิษ Honest เป็นสินค้าแพง เพื่อสุขภาพ ที่จับกลุ่มตลา ดบนและทำได้ผล จากการปั้นแบรนด์ ด้วยชือ่เสียงของเธอเองด้วย ล่าสุดทำยอดขายได้มากถึง $150 million เติบโตสามเท่าตัวจากปีก่อนหน้า แน่นอนว่าเมื่อโต ก็เป็นที่ต้องตาของ wallstreet ล่าสุดกำลังเข้าทำ IPO เพื่อระดมเงินขยายกิจการและบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดกันว่าจะมีมูลค่าบริษัทระดับพันล้านเลยทีเดียว  คนไทยเคยคุ้นตาผลงานของเธอจาก สาว F4 คนก่อนที่สวย ดุ และเซ็กซี่ วันนี้เธอก้าวไปอีกขั้นในบทบาท ใหม่ที่ ไม่ธรรมดาเลยกับเส้นทางของดาราสาวคนนี้  อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.marketwatch.com/story/jessica-alba-t

Oil Oil Oil

น้ำมันกับจุดต่ำสุดใหม่รอบ 6 ปี น้ำมันสเน่ห์อย่างหนึ่งคือ มันคาดเดาไม่ค่อยได้ แต่คนก็พยายามไปคาดเดา พยายามจับ logic ต่างๆมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายเชื่อว่าขึ้น และฝ่ายเชื่อว่าลง ก็มีเหตุผลมาสนับสนุนการเดาของตัวเอง ถ้าจำกันได้รอบแรกของการร่วงลงมาของราคา สื่อใหญ่ระดับโลก เสนอว่าเป็นเกมส์ของอเมริกากับซาอุ กดดัน IS(ผู้ก่อการร้าย) ที่ยึดบ่อน้ำมันในอิรักและแอบขายน้ำมัน บวกกับกดดันรัสเซียและอิร่าน คือเรื่องราวเล่นข่าวกันมาหลายวัน น่าเชือ่ถือมาก มารอบนี้ เฮ้ย ทำไมกลายเป็น ซาอุ ท ำสงครามราคาน้ำมัน แพ้อเมริกา ไปซะแล้ว ในเมื่อรอบแรกจาก $100 มา $45 ข่าวยังเขียน กูรูยังออกมาบอกว่าเป็นเกมส์สมคบคิด เพื่อร่วมกันถล่มรัสเซียและอิหร่าน อยู่เลย ยิ่งตามยิ่งสนุก เพราะเราจะมี story ให้เสพเรื่อยๆ เหมือนผมเขียนบทความให้อ่านก่อนว่า story is everything มันเป็นตัวกระตุ้นความโลภ ความกลัว และการมโนของคน ตอนนี้คนเห็นน้ำมันลงมาแถว 45 ก็เริ่มออกมา bullish divergence กันอีกแล้ว(คือหาอะไรมันมา divergence ได้เรื่อย ไม่มี timeframe ใหญ่ก็ไปเอาสัญญาณใน timeframe เล็กมาเดา มาสนับสนุนความคิด) แต

Trader Book Club โปรเจคล่าสุดของ cway

ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เพราะผมเชื่อว่าการอ่าน จะทำให้เราได้เปิดโลก เมื่อพบมาเห็นมาก ทำความเข้าใจได้มาก มันนำมาซึ่งปัญญา ปัญญา จะช่วยให้ เราตัดสินใจ วางแผน แล้วนำไปสู่การปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น ในต่างประเทศ มีหนังสือดีๆเกี่ยวกับการเทรดมากมาย เป็น ร้อยเล่ม (เยอะจริงๆ) หนังสือที่เป็นหนังสือจริงๆ ที่ผู้เขียนลงมือทำงาน หารวบรวมข้อมู, รวมถึงการวิจัย ต่างๆมาถ่ายทอด ไม่ใช่หนังสือ ที่เน้นการสอนให้รวยเร็วๆ หรือสร้างความยากรวย ให้กับ เทรดเดอร์เพียงอย่างเดียว แต่แน่นอนว่า ภาษา อังกฤษ คืออุปสรรค ใหญ่ ทำให้การอ่าน Text book ดีๆ กลายเป็นเรื่องยาก และ ไม่สนุก แถมกว่าจะอ่านจบ บางทีใช้เวลาเป้นหลายเดือน (ยังไม่นับอุปสรรคเรื่องการตีความ ที่ต้องอาศัยประสบการณ์เสริม) ผมเลยคิดอยากลอง จัดรายการ Trader Book Club ขึ้นมาใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ในช่วงวันจันทร์ 20.00 เนื้อหาสาระ ก็จะนำหนังสือดีๆ มาแนะนำ แล้วจับเอาหัวข้อ เกี่ยวกับการเทรด ด้านต่างๆ เช่น mindset , Technical analysis , trading system , money management psychology และ อื่นๆ ลองแวะเข้าไปขม EP01  The mental strategies of top trader เข้าชมย้อนหลังได

pay-per-minute café

อ่านบทความนี้จาก manager แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ แนวคิด pay-per-minute café การทำร้านกาแฟ ที่เก็บเงินตามเวลาที่นั่ง ลองไป google ดูเจอเยอะเลยในต่างประเทศ เช่น Ziferblat เปิดหลายสาขาที่ในยุโรป หลายอย่างฟรี กาแฟถูกคิด £2.25 เมื่อเลย 15 นาที จะเริ่มคิดค่าบริการตามเวลาที่ลูกค้ามาอยู่ในร้าน การนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ฟังเพลง(ร้านมีแผ่นเสียงบริการด้วย) ใช้ wifi เขาพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจ ทำให้คนอยากนั่งนานๆ ส่วนตัวผมว่าร้านกาแฟ ไม่เหมาะกับการทำงานเท่าไหร่นะ เพราะมันไม่นิ่ง และบางร้านพลุกพล่านมาก ทำให้สมาธิ เกิดยาก งาน focus อาจจะไม่ค่อยเหมาะ แต่ถ้าชอบความไดนามิก หรือใช้ติดต่องาน ผมว่าน่าจะดี ปัจจุบันร้านกาแฟ ส่วนใหญ่คิดค่าเวลา ร่วมไปในกาแฟ อยู่แล้ว เพราะขายกันแก้วละ 50 บาท ขึ้นไปถึงหลักร้อย คนนั่งแช่นานๆ มีอยู่จริง แต่จำนวนไม่น้อยกลายเป็น ขาประจำ ที่อยากมา พักผ่อน มานั่งชิว ไม่ต้องเร่งรีบ เมื่อเขาพอใจ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะจ่ายต่อเนื่องระยะยาวให้ ร้านกาแฟ แถมได้ความผูกพัน ได้ลูกค้าที่ภักดีเพิ่มไปอีก อนาคต ถ้าร้านกาแฟ เก็บเงินค่านั่ง เป็นตามช่วงเวลาการใช้งาน อาจจะทำให้ ความถูก และความสะดวก หมดลง

Yuan effect

สรุปความจาก BloomBerg มากให้อ่านกัน การจีนเริ่มโยนหินถามทางด้วยการลดค่าเงิน Yuan ของตัวเองลงที่ 1.9%(ตรงนี้เหมือนจุดเริ่มต้นเท่านั้นเพื่อดูว่าจะมีผลอะไรตามมา) ทางนักวิเคราะห์ต่างชาติของค่ายใหญ่ๆเขาก็พากันมองหา ผลกระทบด้านบวกและลบ ที่จะเกิดขึ้น  ** ล่าสุดมีการลดลงมาเพิ่มรอบที่สอง จากวันแรก รวมแล้ว 4% จากค่ากลาง ด้านลบ 1.กลุ่มธุรกิจของจีน ที่มีหนี้เป็น US dollar ต้นทุนการชำระหนี้ก็จะสูงขึ้น อันนี้เมื่อวานเห็นชัดจากการร่วงลงของราคาหุ้นในบริษัทใหญ่ หรือ สายการบิน 2. กลุ่มธุรกิจ ที่ส่งสินค้าไปขายยังจีน จับจีนเป็นตลาดใหญ่ เช่น luxury car รวมไปถึงสินค้าแบนด์เนม  จากยุโรปต่างๆ ที่แน่นอนว่า ราคา ย่อมสูงขึ้น อาจจะมีผลกระทบยอดขายในจีน กลุ่มนี้ยุโรปส่งสินค้าไปขายในจีนมากที่สุด หลายบริษัทที่มีรายได้จากฐานลูกค้าในจีน ก็คงหนีไม่พ้นผลกระทบที่จะตามมา 3. ราคาคอมโมดิตี้ เช่นกลุ่มเหล็ก หยวนอ่อน กระทบต้นทุนการนำเข้า มีโอกาสที่ ความต้องการซื้อสินค้านำเข้า จะลดลง เมื่อวานกลุ่มเหล็ก อย่างเช่นบริษัท Vale SA บริษัทผลิตเหล็ก ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลง  5.7 เพราะมีฐานลูกค้ามาจากจีนถึง 37%ของรา

Commodity trader

สัปดาห์ล่าสุดจาก cwayinvestment channel สัปดาห์นี้มาพบกับเซียน commodity trader ชื่อดังอย่าง Larry Williams ผมชอบความที่ชายคนนี้ไม่ได้เป็นเทรดเดอร์ธรรมดา แต่เขายังเป็นนักวิจัยและนักทดลอง ที่สรา้งเครื่องมือเทคนิคอล รุ่นใหม่ ให้่เทรดเดอร์รุ่นหลังได้ใช้งานหลายตัว - ประวัติ เส้นทางสายอาชีพ - แนวคิดสำคัญของการเทรด - เคล็ดลับการเทรด (Trend following) - money management และการบริหารอารมณ์ - E = Mc2 กับ emotion control - Trend and Gravity - R&D - William %R - synthetic VIX (William VIX FIX) รับชมได้ฟรี ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ut-c_Sp4iM0

Quantum Physic for Trading

ต่อจากเรื่อง modelling ที่ผมบรรยายเกี่ยวกับ jame simons นี่นะครับ ที่ผมเล่าให้ฟัง หัวข้อวิจัยที่ผมเคยไปเรียนจากเพื่อนเทรดเดอร์คนหนึ่งที่รู้จักกันในเว็บบอร์ด พูดเรื่องนี้ เหมือนว่าสาย Quant เขาพัฒนาอะไรไปไกลเยอะมาก มากกว่ากราฟเทคนิคอลธรรมดา ที่เอามานั่งลากเป้า เดาคลื่น ดูเส้นตัดกันเยอะมาก อันนี้ความรู้ที่ถอดเป็นหนังสือแล้วนะ แปลว่ามันเป็น common knowledge แล้ว เราอาจจะยังไปไม่ถึงครึ่งที่เขาถ่ายทอดในกลุ่มเขาเลย ศาสตร์การเก็งกำไรพวกนี้อยู่ใน Lab กลุ่มเฉพาะ และมักถูกใช้ในกองทุนใหญ่ หรือกองทุนเฮ็ดฟันด์ ตัวอย่างหนึ่งที่เราจะเห็น ในหัวของของ James simons เป็นต้น เล่มนี้ผมยังไม่ได้ซื้อ แต่มีคนแนะนำมา ใครมาสาย physics อยากรู้ว่า ไซมอนใช้โมเดลสไตล์ไหนลองหามาอ่าน ได้ Quantum Trading ใช้ กลศาสตร์ควันตัม มาสร้างโมเดล หาสัญญาณซื้อขาย ผมสรุปคราวๆให้ฟังนิด เพื่อจะได้เห็นมุมมอง ศาสตร์ด้านนี้เขาไม่ได้ focus ไปที่ direction หรือ trend เขาดู การสั่น หรือการเปลี่ยน state ของราคา อันนี้เป็นเรื่องของแรงและพลังงาน ไม่เข้าใจดูเทฟจาก link นี้ได้ มาคำนวณหาความถี่ที่เกิด ไม่ขออธิบายเยอะ เพราะผมก็ยังใหม

Quant King

สัปดาห์นี้ตั้งใจจะมาเล่าเรื่อง james simons เจ้าของฉายา Quant King แห่ง Renaissance Technologies ผมศึกษาเรื่องของ simons มามากพอสมควรจากหนังสือ บทความและบทสัมภาษณ์ต่างๆ ผมสนใจเพราะคนนี้รัน hedge fund ด้วย phd สายคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และโปรแกรมเมอร์ จำนวนกว่า 200 คน โดยไม่มีเทรดเดอร์ มีแต่ คอมพิวเตอร์ ทำงานส่งคำสั่งเทรด ตามระบบเท่านั้น บริหารเงินระดับ 25 billion แถม ผลงานไม่ธรรมดา มีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 30 ปี ประมาณ 10% (บางปีทำได้ 30-50 % ก็มี) อยากให้คนไทยได้รู้จักเทพของจริงในโลกการเงิน เลยจะนำเอาเนื้อหาบทสัมภาษณ์ล่าสุดของแกมาถ่ายทอด เนื้อหาโดยสรุป มีประมาณนี้ ประวัติ ส่วนตัวเบื้องต้น การทำงาน ฐานะนักคณิตศาสตร์ เส้นทางการทำงาน ฐาน hedgfund manager การสร้างบริษัท Renaissance Technologies แนวคิด modelling & programming Quant trading strategies ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นของโลก เข้าไปชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=NtgxQ62Zybs

Finding Your Trading Style

อุปสรรคของการเทรด อันหนึ่งที่ทำให้ คนทั่วไปไม่ประสบความสำเร็จ คือ การหาตัวเองไม่เจอ ใช่ครับ แม้เราจะไม่ได้อยู่ในวัยรุ่น หรือวัยเริ่มต้นชีวิจมหาวิทยาลัย แต่การค้นหาคำตอบ จากตัวตนของเราเอง ยังไม่สิ้นสุดลง การค้นหาตัวเอง คือ การหยุด มองไปที่ข้างใน ทำความเข้าใจกับ จริต ของตัวเอง เพื่อให้รู้ว่า Trading Style ของเราเป็นแบบใด ปัญหานี้ เป็นปม ทั่วไปที่ผมพบมาก ทั่วไป เพราะเมื่อท่านเข้ามาในตลาดหุ้น ตลาดเก็งกำไร สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำคือ มองไปที่ "กำไร" ถูกไหม?  พอมองไปที่กำไร ก็พยายามจะหากำไร แต่แน่นอนว่าพอมันทำไม่ได้ ทำได้ยาก เราเริ่มหาทางลัด พยายาม หาเซียน หากูรูมาเกาะ หรือ หาตัวอย่างว่าเขาใช้เทคนิคอลอะไร ใช้เครื่องมืออะไร เพื่อมาทำตาม  สิ่งเหล่านี้ไม่ผิดครับ แต่มันไม่ถูกทั้งหมด เพราะเมื่อเราทำตามคนอื่น วิ่งตามคนอื่น โดยความเชื่อว่ามันดี มันยอดเยี่ยม สุดท้าย ถ้ามันไม่เหมาะกับเรา ไม่เหมาะกับสถานการณ์มันก็ไม่เกิดประโยชน์  อันหนึ่งเจอบ่อยคือ เราไปเอาระบบจากคนอื่น ที่เขาอาจจะใช้ทำเงินได้ ตอนตลาด bullish มีกำไรมากมายมาล่อเรา แต่ตอนนี้เงื่อนไข สภาวะตลา

long running

ตลาดหุ้น มันอยู่อีก 10 ปี 100 ปี ไม่ต้องไปรีบอยากทำกำไรเร็วๆ อยากโกยกำไรเยอะๆ จนหน้ามืดตามัว ตามกระแส ที่กระตุ้นให้เราโลภ ตลอดเวลา  ตลาดมันยากจัด ระบบเทรดทำงานไม่ดี รู้สึกเหนื่อยก็ผ่อนลดความถี่ในการเทรด หรือมันขาดทุนบ่อยก็หยุด(ทบทวนแก้ไข แล้วเริ่มใหม่) รู้จักอ่านพฤติกรรมราคา อ่านพฤติกรรมตลาด แล้วปรับจังหวะการเทรดและ การวางเงิน ให้เหมาะสม พยายามทำตัวเองให้แข็งแกร่งก่อน อยู่รอดก่อน เมื่อรากฐานมันมั่นคง แล้วกำไรมันค่อยๆไหลตามมาเอง ยิ่งช่วงวัฏจักรตลาดดี กำไรยิ่งงอกเงย อะไรไม่รู้ก็ศึกษาเพิ่มเติมให้รู้แจ้ง ให้เข้าใจถ่องแท้ สิ่งที่ผิดพลาดก็ปรับปรุงแก้ไข อย่าให้ความสำเร็จของคนอื่นมาทำให้เกิดความกดดัน และความคาดหวังกับตัวเรา จนมากเกินไปครับ ค่อยๆเดิน เดินช้าๆอย่างมั่นคง ลองทำตัวเป็น  slow life trader เน้นการอยู่รอดระยะยาวให้ได้ตลอดไป  รูปจาก weeklygravy.com

How to Survive a Stock Market

หลักการเอาตัวรอดในตลาดหุ้น ตลาดอนุพันธ์ ที่สามารถทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้ รวมถึงหลักการเอาชนะ mental game เกมส์ที่นักเก็งกำไร เมื่อเข้ามาในตลาดต้องเจอ และต้องเอาตัวรอดให้ได้  ฟังบรรยายจบ ลองสร้าง check list ไว้สำรวจตัวเองดูนะครับ https://www.youtube.com/watch?v=sRyRynjx07w

ชัยชนะในมือของเรา

มีแต่คนชอบถามว่าเล่นหุ้นแล้วรวยจริงไหม อยากตอบว่า ถ้ายังติดกับคำว่ารวย หรือจน เราจะไม่สามารถผ่านกับดักของด่านแรกที่เรียกว่า "ความโลภและความกลัว" ไปได้ ส่วนตัวผมมองการเทรดเป็นเกมส์ มีแต่คำว่าแพ้หรือชนะ ทุกวันที่เทรด ผมจะตื่นแต่เช้ามาเตรียมแผน อ่านข้อมูล ผมจินตนาการว่าตลาดหุ้น ตลาด tfex ที่เทรดมันเหมือนเกมส์ออนไลน์ เกมส์ที่มีคนออนไลน์เล่นในสนามเดียวกันเป็นหลายแสนบัญชี ต่อสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย ทุกคนอยากชนะ อยากได้เงินออกไป แต่เงินในตลาดมันมีจำกัด ผู้เล่นที่ฉลาดไม่ใช่คนที่พยายามชนะทุกเกมส์ แลกไปหมดทุกอย่าง ตรงกันข้ามผู้ชนะต้องเป็นคนที่อ่านสถานการณ์เป็น เข้าใจในสิ่งที่เกิด รู้จักหมอบ รู้จักรอ รู้จักแพ้ ปิดจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งของตัวเอง เพราะสุดท้าย มันไม่ใช่เราไปแข่งกับคนอื่น ไปทำกำไรให้มากกว่าคนอื่น หรือต้องรวยเป็นเศรษฐี ในไม่กี่เดือนกี่ปี สิ่งเหล่านั้นคือภาพมโนคติของตลาดเงิน คนจำนวนมากไปติดเพียงเพราะอยากเอาชนะ อยากพิสูจน์ตัวเอง สุดท้ายวิ่งตามไปทางเดียวกันหมด และจุดจบก็กลายเป็นผู้แพ้ในเกมส์ ได้นั่งเสียดายและกล่าวโทษคนอื่น แล้วอะไรคือชัยชนะที่แท้จริง สำหรับผม ชัยชนะไม่ใช่แ

High-Frequency Trading (HFT) ตอนที่ 1

High-Frequency Trading (HFT) คือ ระบบเทรดที่สร้างด้วย algorithm ที่ซับซ้อน จากการวิเคราะห์ market condition และพฤติกรรมราคาของสินค้า หาจังหวะในการเคลื่อน หรือสถานะการเปลี่ยนแปลง จากภาวะต่างๆ การอยู่ใกล้กับตลาด ระยะทางการเชื่อมต่อสั้น ระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้ HFT สามารถเข้าถึง information จากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ไวกว่า client อื่นๆ จากนั้นใช้ความเร็ว ที่สูงระดับ microseconds ในการเข้าทำกำไร เปิดปิดออร์เดอร์ สร้างรอบความถี่ที่มากในการส่งคำสั่งเปิดปิดสถานะ เน้นการทำกำไรขนาดเล็กต่อออร์เดอร์ แต่ด้วยความเร็วและจำนวนการส่งคำสั่งที่สามารถจับคู่ได้มาก ทำให้สร้าง payoff ต่อวันจำนวนมหาศาลได้ HFT มีข้อดีแล้วข้อเสียข้อดี เช่น ข้อดีคือ การสร้าง liquidity ให้กับตลาดเพิ่มขึ้น แต่ตามธรรมชาติ HFT มักจะทำงานในตลาด ในสินค้าที่มีสภาพคล่องสูงในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ volume ที่มากนำมาซึ่งค่าธรรมเนียมที่มาก และการขยายตัวให้กับ exchange market ด้วยทำให้หลายตลาดทั่วโลกยินยอมเปิดรับ HFT เข้ามา HFT เน้นการเล่นกับ volatility ที่เกิด เพราะความเร็วการเข้าถึงข้อมูลและการทำงานส่งคำสั

chatwithtraders

มีเว็บประจำอีกเว็บมาแนะนำนะครับ ผมชอบฟังเว็บนี้ตอนเช้า ช่วงกินข้าวกินกาแฟ ฟังได้เรื่อยๆและมีสาระดี เป็นอีกแหล่งที่ของฟรีแต่ mindset สูง เว็บนี้ชื่อ chatwithtraders ทุกสัปดาห์จะมีเทรดเดอร์ต่างๆมาออกรายการ ให้ Aaron Fifield สัมภาษณ์ โดยจะมีประเด็นมีหัวข้อมาคุยกัน(ไม่ใช่มานั่งเดาตลาดเดาราคาหุ้นอะไรแบบนั้นนะ) ซึ่งหลายหัวข้อน่าสนใจมาก ยิ่งเป็นรายการสดถามตอบ ทำให้เห็นวิธีคิดและอะไรหลายอย่างดี ปัจจุบันรันมาแล้ว 30 ตอน คนดังๆเยอะแต่จำนวนมากเราอาจจะไม่รู้จักเพราะพวกนี้จะอยู่ในวงแคบๆต ามเว็บไซต์มากกว่า ออกสื่อกระแสหลัก เช่น Andrew Falde , Brian Shannon , ZachHurwitz, Brad Jelinek, Ivanhoff , Peter Zhang , TimothySykes หรือจะรุ่นใหญ่อย่าง JackSchwager , Tom Basso อยากเปิดโลกเปิดมุมมอง ดูเทรดเดอร์อาชีพ ลองแวะไปชมครับ เราเลือกฟังธรรมดา ผ่านเว็บ หรือจะฟัง podcast  บางตอนมี script สรุปไอเดียให้ด้วย  มีโอกาส ผมจะทำสรุป ตอนสำคัญๆมาฝาก  เข้าไปชมได้ที่ link http://chatwithtraders.com/

ทองลงเพราะอะไร ??

ทองลงเพราะอะไร ?? ------------------------------ มีคนพยายามถามผมหลายคนมาก ตอบแบบเท่ห์เลย ลงเพราะมีคนขาย!! เดี่ยวเขาก็จะหาว่ากวน แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ การลงของทองมันไม่ใช่เรื่อง demand supply อย่างเดียว เหมือนผมบอกมันคือเกมส์เก็งกำไร การลงของทองไม่ใช่เรื่องเศร้าของทุกคน แต่มันเป็นกำไร ของคนที่เดินกลยุทธ์ด้าน short พูดง่ายๆ volatility มาจากการเปิด short ในอนุพันธ์ของทองคำมีเยอะ ที่นี่พอมัน short หนักๆราคาลง คนกลัว สื่อหลักของโลกหาเหตุมาปะปน เป็นธรรมดา แต่ผมให้ข้อสังเกต ไว้นิดนะ อนุพันธ์ที่ลงเพราะ short sell สุดท้าย มันต้องมีการ buy cover ที่เกิด แต่มันจะเกิดตรงไหน เท่านั้นเอง เหตุผลทองลงที่คนนอก สื่อ กูรูหามาอธิบายเยอะมาก เยอะแบบบางอันขัดเองก็มี เช่น - จีนเปิดจำนวนสะสมทองคำ เพื่อให้ทองลงจะได้สะสมทองราคาถูกเพิ่ม -จีนขายดอลลาร์ ทุบดอลลาร์ อเมริกาเลยตอบโต้ด้วยการทุบทองคำ -คนจีน กองทุนจีน ขาดทุนหุ้นเยอะ เลยขายทองไปใช้หนี้และอุ้มตลาดหุ้น ล่าสุด คงใกล้ละ เพราะความกลัวเริ่มครอบงำมากเรื่อยๆ บลูมเบิร์ก มาให้เป้า $800 มองเป็นการลงครั้งใหญ่ จบรอบทองคำไปเลย(แมร่งจะโหดไปไหน มาทรงน้ำมัน

จงใช้ความไม่มี ให้กลายเป็นพลัง

เพิ่งได้ดู TED Talk อันนี้ผมว่าสุดยอดดี การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด จากความไม่มี ความไม่มีหรือไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง ถ้าเกิดในคนที่ไม่ยอมแพ้แล้ว จะเป็นแรงพลักดันชั้นดี ให้พัฒนาตัวเอง และทำให้ตัวเราแข็งแกร่งขึ้นมา  ฟาฮาด อัล-อัตติยา พูดถึงQatar ประเทศที่เมื่อ หกสิบปีก่อน ไม่มีอะไรเลย มีคนไม่กี่หมื่นคน แต่แดดกับทราบ แค่ 1% คือพื้นที่ที่เพาะปลูกได้ ผู้คนกระจัดกระจายตามแหล่งน้ำเล็กๆ ไม่มีสังคมเมือง มาวันนี้เขาสร้างเมือง จากการขายน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่ขุดพบหลังสงครามโลกครั้งที่สอง กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวย มีเมืองสวยงามยิ่งใหญ่   แต่ปัญหาก็ตามมาเพราะประเทศไม่มีน้ำ เมื่อไม่มีน้ำก็ไม่มีแหล่งอาหาร 90% ต้องนำเข้าน้ำจืดต้องซื้อ ทุกอย่างจากต่างประเทศด้วยเงินจากการขายน้ำมันแลกมา บวกกับการเติบโตของประชากร และความต้องการบริโภคสูงทุกปี นั้นคือ ความไม่มั่นคงในอนาคต  ฟาฮาด อัล-อัตติยา พูดถึงโครงการใหญ่ที่เขา กับทีมงานทำงานมาหลายปี เพื่อสู้กับความไม่มี เพื่อเปลี่ยนกาตาร์ ให้กลายเป็นเมืองมั่นคงเอาตัวรอดจากความขาดแคลน โดยเฉพาะน้ำและอาหาร เขาใช้สิ่งที่การตาร์มีมากที่สุดคือ แสงแดด เป็นตัวเริ่มต

แก่นสำคัญของ GRID Trading system

คนจำนวนมากสนใจเรื่องการเทรดแบบ grid ผมเจอคำถาม จำนวนมากทาง email แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรือ่งกริดจริงๆ แต่อยากใช้เพราะคิดว่ามันทำเงิน ทำกำไรให้ได้ (นั้นคือความเชื่อ และแฟนตาซี) การเทรด GRID trading ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการเทรดนะครับ(เพราะความเป็นจริง มันอาจจะไม่มีกลยุทธ์ใดที่สมบูรณ์แบบหรือดีที่สุดในการเทรด) เพียงมันเหมาะในบริบท สถานการณ์ที่เราต้องการใช้การเทรดแบบไม่อิงทิศทาง ไม่ต้องการเดาอนาคต และ key ความซับซ้อนที่เราสามารถ apply ได้ไม่รู้จบ การเทรดเชิงกลยุทธ์มันคือการเข้าใจในพฤติกรรมราคา แล้วนำมันมาสร้างเป็น algorithm ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมราคา ให้เกิดความได้เปรียบการในการซื้อขาย  แต่ แก่นสำคัญคือการออกแบบ โครงสร้างของกริด ที่มันถูกออกแบบโดยการวาง load ของเงิน และคำนวณ money management มาอย่างดี ไม่ใช่แค่เร ื่องการเทรดไม้ ให้ไ้ดกำไรเยอะๆ ต่อไม้แบบที่ หรือการไม่ต้อง stoploss แบบที่จำนวนมากยังเข้าใจผิดอยู่ ทุกวิธีมันมีจุดแข็ง จุดอ่อน ทำความเข้าใจจริงๆ แล้วหากลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวเรา จากนั้นพยายามใช้ความสามารถในการพัฒนา สร้างวิธีการปิดจุดอ่อน ข้อจำกัดให้ได้ เพื่อเพิ่มปร

จุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ

ชายคนนี้อาจจะไม่ใช่สตีฟ จ๊อบ ไม่ใช่ บิล เกต ไม่ แจ๊ค ม่า หรือ จา พนม เขาอาจจะไม่ได้ทำอะไรที่ประสบความสำเร็จใหญ่โต ในสายตาของคนทั่วไปในโลกนี้ แต่สิ่งที่เขาทำมันความสำเร็จที่เกิดจากการเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง ด้วยความเพียรและความพยายาม โดยที่ไม่ยอมแพ้ต่อความล้มเหลว ลงมือทำหลายพันหลายหมื่นครั้งอย่างต่อเนื่อง ชัยชนะเล็กๆและความภูมิใจที่ได้มา ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้วสำหรับคนธรรมดาคนหนึ่งแล้ว ลดความคาดหวังในตัวเองลงไม่ให้สูงเกินไป เปิดพื้นที่ให้ยอมรับความผิดพลาดในการลองผิดลองถูก เพราะสุดท้ายการออกเดินในเส้นทางที่เราฝัน มันไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับคนอื่นๆ จะเป็นมือหนึ่งระดับประเทศ ระดับโลก หรือทำอะไรยิ่งใหญ่เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อสาธารณะ เสมอไป แค่เอาชนะความอ่อนแอ ความขี้เกียจของตัวเองให้ได้ สร้างความภูมิใจในการพิชิตเป้าหมายเล็กๆสำหรับตัวเอง ให้ได้เรื่อยๆ มันก็จะทำให้เราสามารถเดินในเส้นทางฝันของตัวเองต่อไป เพราะชัยชนะเล็กๆที่เรามีในมือ มันจะเป็นเหมือนเทียนที่ส่องทางให้เราในวันที่ทุกอย่างมันเลวร้าย และโลกมันดูมืดหม่น ไปหมด ค่อยๆสะสม ค่อยๆเดิน สักวันจะไปถึงเป้าหมายใหญ่ได้แน่

เมื่อเซอร์ไอแซคนิวตัน เจ๊งหุ้น

จริงหรือที่ว่าไม่ฉลาดเลยทำให้ขาดทุน มีคำถามหนึ่งมาทาง email จริงๆไม่เชิงถามปรับทุกข์จากการขาดทุนมากกว่า   แต่เขาทิ้งทาย ไว้น่าสนใจ อารมณ์ประมาณว่า เป็นเพราะเขาไม่ค่อยฉลาด หรือเปล่าที่ทำให้ขาดทุนอย่างนี้? ผมตอบไปยาวพอควร แต่อยากเอาเรื่องที่ตอบมาแชร์ เพราะเชื่อว่า ลึกๆเวลาที่ท่านเจอ bad day วันขาดทุนขาดทุนหนัก โอกาสจะ มีความคิดแบบนี้วูบเข้ามาก็อาจจะมีได้  มีเพื่อนผมคนหนึ่งเคยกล่าวว่า "ความโง่" นี่มันเป็นประเด็นปมด้อยที่คนทั่วไปมักเอามาซ้ำเติมตัวเองได้เสมอ แต่การเทรดหุ้น หรือการลงทุน ผมว่า ความโง่ มันไม่ได้เป็นเหตุผลหลักในการ ล้มเหลว หรือขาดทุน เสมอไป แน่นอน กรณีที่ไปหลงเชื่อ ข้อมูลที่ผิด หรือฟังความเห็นที่ผิด และตัดสินใจซื้อขายตามอันนั้นอาจจะเรียกโง่ได้  แต่กรณีที่ เป็นความโง่โดยกำเนิด หรือความโง่ ตามระดับ IQ ผมว่ามันไม่ได้มีผลมากขนาดนั้น เพราะการเทรด มันเป็นการตัดสินใจ ซื้อขาย ที่บางครั้ง ไม่ต้องใช้ สติปัญญาขั้นสูงในการวิเคราะห์อะไรมาก เมื่อเทียบอย่างการแก้ปัญหาคณิตศา่สตร์ หรือพิสูจน์สมการระดับโลก อะไรแบบนั้น เพียงแค่ มีสติ มีปัญญา รับมือกับอารมณ์