ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Economic Data & Big Debt Crises

ตอบคำถาม น้องท่านหนึ่งที่ต้องการข้อมูลไปทำวิจัย โดยกรณีต้องทำระบบเทรดใน ค่าเงิน(fx) หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมัน ทองคำ ต้องการหาแหล่งบริการข้อมูล economic data สำหรับทำ Quantitative Data Analysis ผมนำ มารีวิวแนะนำสั้นๆ 3 แหล่งที่จัดว่า ดี สมบูรณ์ และใช้งานได้ง่าย(บางอันอาจจะไม่ฟรี) 1.  tradingeconomics.com เว็บนี้รองรับทั้งการใช้งานแบบ user ทั่วไป สามารถเรียกดูตารางข้อมูล ดูกราฟผ่าน web app ได้ ข้อมูลค่อนข้างครบ แยกตามประเทศต่างๆ และมีระบบบริการข้อมูลทั้งแบบ download และ API ให้สามารถนำไปวิเคราะห์ขั้นสูงต่อได้อีก 2. db.nomics.world เว็บนี้จัดว่าเด็ด มีข้อมูลจาก providers หลายเจ้ามากทั้งอเมริกา ยุโรปและจาก IMF WTO ทำให้มีประเภทข้อมูล econ เยอะจริงๆ โดย user สามารถดูข้อมูลบนเว็บ หรือใช้บริการผ่าน API ที่รองรับหลายภาษาสะดวกมาก ถ้าทำ quant ใช้ Python หรือ R เว็บนี้เป็น portal ดังนั้นเขาจะแยกข้อมูลตามประเภทและมี search engine ไว้บริการให้ค้นด้วย key word 3.assetmacro.com เว็บนี้เน้น Economic & Financial Datasets ทำให้เขามี data ที่รวบรวมไว้เยอะมากครอบคลุม 120 ประเทศ จะด

2019 Q1ETF strategies

มุมมองของคุณ Yasmin Dahya , Head of Americas Beta Specialist team,J.P. Morgan Asset Management โดยสรุป ยังมองเรื่อง multi factor solution เป็นแกนหลักในปีนี้ แทนที่จะเน้นไปที่กลุ่มเดียว(single factor) ก็ผสม ทั้ง Quality Value Momentum factor ช่วยให้เกิดความเสถียรได้ดีในภาวะตลาดที่ผันผวน และมีความไม่แน่นอนรออยู่ วางเป้ายาว ดีกว่าการเน้นชนะตลาด(S&P500) โดย Yasmin Dahya บอกว่าตอนนี้ value ยังถูก เพราะลงมาเยอะ แตะระดับ 3SD กระจายเงินมาสะสมกลุ่มน ี้ เช่นเดียวกับการมีกลุ่ม momentum รอรับการวิ่งของตลาด ไม่หันหลังหนีตลาด(out of the market) เพื่อลดการเสียโอกาส ซึ่งจากสถิติระยะยาวหุ้นกลุ่ม value และ momentum ของอเมริกา ค่าความสัมพันธ์ -0.5 การผสมช่วยแง่การ balance ความเสี่ยงรวม ฟังฉบับเต็มจาก https://am.jpmorgan.com/us/en/asset-management/gim/adv/insights/etfs-in-the-know?

STP กับ ECN นั้นแตกต่างกันยังไง

พอดีเคยแนะนำว่าถ้าทำระบบเทรดประเภท robot trading ให้เกิดประสิทธิภาพ การเลือกบัญชีประเภทที่ quotes price นั้นเสถียรและมีประสิทธิภาพ(ไม่ต้องมานั่ง re-quote) รวมประเด็น spread และ slippage ที่เคยอธิบายไปแล้ว ที่นี้มีน้องคนหนึ่งถามว่า STP กับ ECN นั้นแตกต่างกันยังไง สรุปให้ฟังคราวๆประเภทของโปรโตคอลในแต่ละชนิดบัญชี Straight Through Processing (STP) การที่โบรกเกอร์ส่ง order ยิงตรงเข้า market หรือ liquidity pool บนราคาได้มาจาก liquidity providers เจ้าใหญ่เช่นจาก สถาบันการเงิน หรื อธนาคาร บางเจ้าอาจจะเป็นประเภทผสมทั้งแบบ Market maker + STP บน liquidity providers หลายแห่งโดยโบรกมี internal liquidity pool ของตัวเองเพื่อเลือกราคาที่ดีที่สุด แต่ข้อดีคือ ราคา เสถียร แม่นยำและดูโปร่งใส่กว่าประเภท Dealing Desk (DD) อย่างเดียว Electronic Communications Network(ECN) ประเภทที่โบรกเกอร์ ใช้ราคาเทรดจาก ECN liquidity providers หรือ ECN participant(สถาบันการเงินหรือโบรกเกอร์อื่นๆ) รองรับ ECN Network ข้อดีไม่มี conflict of interest กับโบรกเกอร์ ราคาเปิด เทรดเดอร์รายย่อยสามารถมองเห็น bid/ask จริงที่เกิด

กรณีศึกษาจาก SEC เรื่องความเสี่ยง เมื่อ Hedgefund ทำนักลงทุนหมดตัว

SEC Bars Hedge Fund Manager Who Lost 88% In 3 Day ไม่ว่าจะมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ เมื่อเข้ามาในตลาด "การจัดการความเสี่ยง" เป็นเรื่องสำคัญ ผมนำกรณีศึกษาเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวมาฝาก เป็นเรื่องของคุณ Matthew Rossi แห่ง SJL Capital เขาเป็นผู้ก่อตั้งและ Hedge Fund Manager มืออาชีพลงทะเบียนถูกระเบียบและรับบริหารเงินให้ลูกค้า แต่กลับหลอกลวงลูกค้า ใช้การโฆษณากลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบกระจายความเส ี่ยง บวกกับ proprietary algorithm trading ชื่อ MarketDNA strategy เคลมว่าทำเงินในตลาดมาหลายสิบปี มาชวนเชื่อขายฝัน สุดท้ายกลับนำเงินลูกค้าไปเทรด unhedged options เสี่ยงสูงแม้ช่วงแรกทำเงินกำไรมากกว่า 101% ในเวลาไม่หนึ่งเดือน แต่สุดท้ายไม่กี่เดือนต่อมาช่วง August 2016 ด้วย strategies ที่ใช้เทรด options เดียวกัน ทำขาดทุนกว่า 88% ในไม่กี่วัน ยื้อต่อได้ไม่นานถึงเดือน November พอร์ตของ Fund ก็ขาดทุนจนหมดเงิน จนนักลงทุนสูญเงินลงทุนทั้งหมดกว่า $1.8 million และเข้าร้องเรียนกับ SEC แต่ Matthew Rossi กลับสร้างหลักฐานแต่งบัญชีปลอม และอ้างว่าการขาดทุนเกิดจาก rogue trader (คลาสิกมากได้กำไร

ทางเดินที่เป็นของตัวเอง

บทความ The Problem With Most Financial Advice Why Personal Finance is a Bit Too…Personal นี้น่าสนใจ อ่านแล้วชอบอยากสรุปเก็บไว้ ซึ่งบทความนี้เขียนโดย Nick Maggiulli (Analytics Manager ) เนื้อหาค่อนข้างยาวประเด็นสรุปสำคัญดังนี้ - เขาบอกว่าเหล่ากูรูการเงินหรือผู้ให้คำแนะนำทางการเงิน(ของสหรัฐ) ส่วนใหญ่จะแนะนำหรือถ่ายทอดจากประสบการณ์ ความเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจจะไม่ใช้แนวทางทีเ่หมาะกับ ลูกค้าหรือนักลงทุนรายย่อย - เคสนี้เขายกตัวอย่าง Financial Samurai  (sam)กูรูการเงินสหรัฐชื่อดัง(เงินล้านก่อนสามสิบ) บอกว่าเส้นทางเงินล้านของ sam มันไม่ใช่ทุถคนทำได้ เข้าทำเงินเยอะกว่า 500k ได้จากการลงทุนช่วง Dot Com bubble และขยายเงินช่วงตลาดกระทิง ยังไม่นับรวมรายได้ที่สูงตั้งแต่อายุ 25 เฉลี่ยกว่า $160,000 ทำให้มีเงินลงทุนเยอะ แน่นอนว่าการมีเงิน ล้าน ก่อน 30 จึงไม่ยากแต่ไม่ใช่ใครทุกคน จะทำตามได้ - เขาบอกว่าอยากสร้าง wealth สิ่งหนีไม่พ้นคือต้องสร้างแหล่งรายได้ ให้เพิ่มมาก แน่นอนประหยัดดี แต่ถ้ามีรายได้น้อยแม้จะพยายาม หยุดไม่ซื้อกาแฟ lattes ตามร้านกินเลย อาจจะไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่ในแง่การเติบโตของทรัพย์สิน

William J. Bernstein, Efficient Frontier Advisors

หลบอากาศร้อนเข้าไปนั่งร้านกาแฟ ทำให้วันนี้ได้ฟัง podcast รายการ MIB ยาวกว่า 1.30ชม. จนจบ ถือว่าเป็นอีกตอนที่ดีและอยากแนะนำให้ลองฟังกันมาก MIB ตอนนี้ Barry Ritholtz สัมภาษณ์ Money Manager คุณ William J. Bernstein ผู้บริหารพอร์ตลงทุน นักเขียนและผู้ร่วมก่อตั้ง Efficient Frontier Advisors, (AUM $120 million) เขาเป็นหมอด้าน neurologist ที่หันเหเข้ามาสู่โลกการลงทุนอยู่ในตลาดกว่า 30 ปี และเป็นนักเขียนด้านประวัติศาตร ์และทฤษฏีการเงินที่ชื่ออีกท่านของอเมริกา ผมเองมีโอกาสได้อ่านหนังสือของท่าน 2 เล่ม The Intelligent Asset Allocator และ The Four Pillars of Investing podcast สัมภาษณ์ที่ดีมากแต่ยาวจริงๆพูดคุยหลายประเด็นที่น่าสนใจ ตั้งแต่เรื่องการลงทุน ประวัติศาสตร์ การเมือง ระบบทุนนิยม เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจอเมริกา ประเด็นที่น่าสนใจเรื่อง การบริหารพอร์ตในช่วงเศรษฐกิจต่างๆ ยุค 1932 หรือช่วงหลังปี 2000  -key takeaway คือเขาเน้นการทำ asset allocation มากกว่าการพยายามไป asset selection หรือค้นหาหุ้นดาวเด่นที่ทำเงินไม่กี่ตัว -แนวคิดการ asset allocation เขาเน้นการลงทุนที่กระจาย นำเอาหลักของ MPT

Forex and CFD Market Data 01

ตอบคำถามจากพี่ท่านหนึ่ง ต้องการหา data ของค่าเงินและ CFD มาทดลองทำระบบเทรด จริงๆเหมือนเคยได้เคยแชร์ไปว่ามีหลายเหล่งทั้งฟรีและเสียเงิน แต่ถ้าเพิ่งเริ่มต้นใช้ระดับฟรีไปก่อน อย่างของ FXCM ซึ่งเป็นโบรกที่มีบริการ data service ให้ใช้ ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน รวมถึงการใช้แบบขั้นสูงผ่าน API เรียกด้วย python เพื่อนำไปทำระบบเทรดต่อได้เลย สะดวกมาก ปัจจุบัน FXCM มีบริการข้อมูลแบบฟรีและไม่ฟรี โดยแบบฟรีจะมีทั้งแบบ tick data คือข้อมูลละเอียดระดับ วินาที ไม่มีการจำแนกจัดเข้าตาม timeframe เหมาะกับการนำไปวิเคราะห์เชิงลึก แต่ข้อมูลตัวนี้ขนาดใหญ่ และแจกฟรีแค่ 1 ปี (อยากใช้ข้อมูลย้อนหลังทำงานต้องซื้อ tick data เอา) อีกส่วนเป็น data แบบ OHLC จัดรูปตาม timeframe เลือกได้ต่ำสุดระดับ นาที ดาวนโหลดฟรีย้อนหลังได้ 5 ปี ถ้าโหลดผ่าน data downloader app ได้ 10 ปี ส่วนข้อมูลอื่นๆพวก premuim ก็มีขายเช่น realtime data, volume, sentiment, Order Flow , Market Depth เป็นต้น ถ้าต้องการใช้งานเข้าไป ดูได้จาก link ด้านล่างครับ ปล. อนาคตถ้ามีโอกาส จะมาสอนการเขียน python เพื่อทำระบบเทรดอัตโนมัติ ผ่าน API ของ