ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Same return + less volatility = free lunch.

  จบ live สดบรรยายไอเดียการบริหารจัดการความเสี่ยงแบบ D&D (diversification & de-risking strategies.)ให้กลุ่มน้องๆเทรดเดอร์ไป พอดีเมื่อวานมีคนถามแนวทางการเทรดปีนี้ ส่วนตัวผมมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมันยังไม่โปร่ง covid ยังไม่จบ ตลาดหุ้นก็ขึ้นทรงแปลกๆ เลยแนะนำการจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นในพอร์ตไป สรุปสั้นๆสำหรับคนที่ไม่ได้เข้าฟัง 1. ผมเริ่มจากการ diversification จริงๆก็ทำ correlation analysis นะแต่ไม่ต้องการฟิกเลยเอา economic template ของคุณ ray dalio มาประยุกต์ คือผสมที่สัมพันธ์กันต่ำ และเลือกผสมหลายตัว ทั้งกลุ่ม asset ที่รอดในภาวะ High inflation , low inflation และ recession รวมสัก 4-5 ชนิดแต่ละตัวของให้รอดในหนึ่งเคสภาวะเศรษฐกิจพวกนี้ แบบไม่ต้องเดา ว่าเศรษฐกิจปี 2021 จะออกมุมไหน ก็เตรียมรอไว้หมด และใช้ weight แบบ inv volatility ก็น่าจะลด total risk ในพอร์ตลง 2. ก็ทำกลยุทธ์ de-risking โดยเน้นหาตัวที่ค่อนข้าง low volatility และทำการเทรดแบบปรับต้นทุน reduce cost ตามภาวะราคา เพื่อลด volatility รวมของ portfolio 3. สุดท้ายพยายามล๊อค profit ถ้า asset มีโมเมนตรัม ไม่เร่งไม่อัดมาก เพื่อให้

โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง

  ส่วนตัวเล่นกอล์ฟไม่เป็น คืนนี้ได้ดู "โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง" แล้วรู้สึกชอบ มีหลายประเด็นที่ได้เรียนรู้ จากหนังเรื่องนี้เลยอยากเขียนบันทึกเก็บไว้ -กอล์ฟ ต้องซ้อม จังหวะการตีต้องได้ ต้องวิเคราะห์สภาพสนาม, ลม อากาศ ต้องเล่น ต้องตัดสินใจในภาวะกดดันให้ได้ ดังนั้นมันไม่ชิว เล่นกอล์ฟวันหยุด สังสรรค์ กับการเล่นอาชีพต่างกัน เหนื่อย เครียด การเทรดก็เหมือนกัน เบื้องหลังคนที่สำเร็จ อยู่รอด เขาก็ทำกันมาเยอะแยะกว่าที่คนทั่วไปคิดเสมอ -เรื่องหนึ่งที่กอล์ฟเหมือนการเทรด คือมันเป็นการแข่งกับตัวเอง, แน่นอนว่าคนอื่่นเล่นพลาด เราก็อาจจะได้แชมป์ แต่ถ้าเราเล่นไม่ดี ซ้อมไม่ถึง ไม่นิง คุมอารมณ์ไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ -ทำให้ดีที่สุด ตอนเราตีลูกเสร็จ เมื่อลูกเริ่มวิ่งไปข้างหน้า มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเราแล้ว สิ่งที่ทำได้คือ ต้องทำให้ดีที่สุดก่อน action การเทรดก็เหมือนกัน พยายามไม่คาดเดาอนาคต ไม่คิดวิตกกังวลต่างๆนานาๆไม่ช่วยอะไร เพราะเมื่อเราเปิด postion แล้ว ระหว่างทางก่อนจะปิด รับรู้กำไร/ขาดทุน อันนั้นเป็นสิ่งอยู่นอกการควบคุม แต่สิ่งที่เราทำได้คือ ควบคุมความเสี่ยงก่อนจะเทรด, ควบคุมจั

Risk Parity: Why We Lever

  อ่านบทความ Risk Parity: Why We Lever นี้ก่อนนอน ชอบมาก คุณ Cliff Asness แห่ง AQR เขียนถึงการใช้ leverage ใน Risk parity ซึ่งจริงๆ ก็ประยุกต์ใช้กับ strategies ที่อิงกับ risk หรือ volatility ใน asset อื่นๆได้ เช่นกัน ยกมาแชร์ เบื้องต้น ใครอยากเรียนรู้เพิ่มอ่านจาก link ด้านล่างได้ครับ -Leverage is not used simply to get more aggressive. It’s used to balance risks better across the asset classes. - Excessive leverage is dangerous, but unlike the concentration, there are things you can do to ameliorate and manage leverage risk. You can and should decide how much is acceptable. สรุป leverage ถ้าใช้เป็น ใช้เหมาะสม และมีระบบที่ดีในการเทรด มันจะช่วยต่อยอดประสิทธิภาพได้เยอะ ไม่ใช่แค่ขยายกำไรอย่างเดียว, ในแง่ risk management ก็ทำได้เช่นกัน https://www.aqr.com/.../Risk-Parity-Why-We-Fight-Lever

รีวิว สารคดี The Trader (Sovdagari)

วันนี้ได้ดูสารคดี The Trader (Sovdagari) หนังสารคดีสั้นที่ได้รางวัล Sundance Film Festival Short Film ซึ่งมีให้ชมบน Netflix มันน่าสนใจมาก โดยเฉพาะมุมมองของการเป็น Trader หลายคนยังเชื่อว่า Trader คือนักพนัน จริงๆแล้ว ถ้ามองให้กว้างจะพบว่า Trader คือ พ่อค้า หรือ ผู้แลกเปลี่ยนนั้นเอง เพียงแต่มันจะมีบริบทของ การใช้โอกาส ในการแลกเปลี่ยน (ของ เป็น เงิน) ที่ทำให้เกิดส่วนต่างหรือกำไร

JPmorgan Outlook 2021: investment themes in a ‘new normal’

อ่านจบเห็นว่าน่าสนใจดี ผมเลยเอาโน๊ตสรุปมาแชร์ครับ - กูรู JPM เชื่อ Global economic growth ยังคงรีบาวน์ขยับไปต่อได้ในปี 2021 ท่ามกลางนโยบายแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่รัฐบาลแต่ละประเทศจะจัดออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผลบริการจัดการและควบคุมการระบาด รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนที่เข้ามาแก้ปัญหา covid-19 ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นต้วของแต่ละประเทศ - JPM มอง Asia ว่าจะกลับมา Hot ดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาในภูมิภาค เช่นเดียวกับการฟื้นของจีน ที่มีโอกาสเศรษฐกิจน่าจะกลับมาได้ดีกว่าสหรัฐและยุโรป -ด้าน Asian bonds ,emerging-market debt และ investment-grade bonds กูรู JPM มองว่ามีโอกาสเป็นที่ดึงดูดเม็ดเงินในปี 2021 - Asia's growth opportunities in a 'new normal' กูรู JPM มองว่า Asian equities มีโอกาสไปต่อ เพราะความได้เปรียบในการควบคุมการระบาด ช่วยให้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ กลับมาเป็นปกติได้เร็ว กว่าประเทศยังต้อง Lockdown ขณะที่ต้นทุนอัตรดอกเบี้ยต่ำทำให้ บริษัทขนาดใหญ่ ใช้โอกาสนี้ในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มการเติบโตในอนาคต , รายงานทำนายอนาคตปี 2025 จีนจะเป็น world's largest economy , ในเอเซีย

กลยุทธ์การขายสิ่งที่ไม่มีคนอยากซื้อ

  ราคา กับ อารมณ์ ในมิติของการเงินเชิงพฤติกรรม นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เกือบทุกวงการ คืนนี้ได้ดูซีรีย์เกี่ยวกับนายหน้าอสังหา ของญุี่ปุ่น เขาคิดวิธีขาย บ้านหลังหนึ่ง ที่เกิดคดีฆาตรกรรม , ยกครอบครัว พอมีคนตาย ก็ไม่มีใครกล้าซื้อ ญาติที่รับมรดกต่อก็ไม่กล้าอยู่ บ้านหลังใหญ่จากราคาเกือบ 100 ล้านเยน ก็เอามาตัดราคาขาย 10 ล้านเยน ก็ยังขายไม่ออก แทนที่จะโกหก ลูกค้า นายหน้าอสังหา รายนี้ก็คิดวิธีขายคือ เธอทำการตลาดด้วยการทำแผ่นพับ ไปวางและนำเสนอ ตามโรงพยาบาล, ให้กับบุคลากรการแพทย์ แม้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับคนตาย, เจ้าหน้าที่นิติเวช, สัปเหร่อ เพื่อให้มาซื้อบ้าน หรือแลกเปลี่ยนบ้าน เพราะ คนเหล่านี้มีมุมมองเกี่ยวกับ ความตาย ที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป (เข้าใจ เคยชิน ยอมรับได้) ทำให้มองข้าม sentiment ไป รวมถึงเธอเน้นให้ คนซื้อเห็นถึงมูลค่าที่ดิน ที่สูงตามขนาดความกว้างของพื้นที่(แม้จะอยู่ไม่ได้ ทุบบ้านทิ้งขายที่ดินเปล่าก็ยัง กำไร ในอนาคต) นอกจากนี้เธอยังจัดรายการท้าพิสูจน์ด้วยการไป นอนพัก ค้างคืนจริง เพื่อให้เห็นว่า มันไม่น่ากลัว และตัวบ้าน ยังอยู่สบาย แต่สุดท้ายก็ขายบ้านได้ แต่ก็นั้นอีก มันไม่ใช่

สรุปประเด็นวุ่นๆไอพีโอพันล้านของ Ant Group

  จีนนี้อีกขาเหมือนจะล้ำสมัย แต่อีกขาเขาก็ยังยึดกรอบกติกาการปฏิบัติ ที่เข้มงวด ใครไปท้าทายนี้โดนอัดกลับแบบล้มไม่เป็นท่า ถ้าเคยอ่านประวัติ แจ็ค หม่า เขาก็โตหรือสำเร็จมาได้จากการเปิดทางของรัฐบาลจีน แต่คุณแจ็ค หม่า รอบนี้ไม่รู้ว่าอะไรดลใจ ให้ กล้าวิจารณ์นโยบายการเงินของจีนว่าทำตัวเหมือนโรงรับจำนำ(ใช้สินเชื่อเยอะก่อนปล่อยกู้) ปิดโอกาสโตของธุรกิจ SME เรียกว่าวิจารณ์โชว์นักลงทุนต่างชาติ พูดเสร็จเลยโดน รัฐบาลจีนอัดกลับเตะตัดขา ล้ม IPO ฟินเทค,และ e-payment ระดับตำนานดีลมูลค่า $3.97 billion ของ Ant Group (Ant Financial + Alipay) บริษัทในเครืออาลีบาบา แบบก่อนที่กำลังจะเข้าตลาดฮ่องกง,เซี่ยงไอ้ เพียง 2 วัน ข่าวระบุเป็นคำสั่งระงับจากท่านประธาน สี จิ้น ผิง ถ้ารัฐบาลจีนเอาจริงตามข่าว ประกาศกฎหมายควบคุมให้ ฟินเทคหรือนอนแบงค์ จะปล่อยสินเชื่อจะต้องมีเงินทุนสำรองอย่างน้อย 30% จากวงเงิน จะทำเอา Ant Group ไปต่อไม่ได้ในจีน และกลายเป็นธุรกิจผิดกฏหมายทันที เพราะ Ant Group มีทุนสำรองแค่ 2% ของวงเงินที่ปล่อยกู้ สุดท้ายรอดูว่ารัฐบาลจีนจะโหดแค่ไหนกับการคุมการชำระเงินแบบดิจิทัล(ซึ่งรัฐบาลกำลังเข้ามามีบทบาทมากช่วงป