ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ กองทุนรวม

การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียผ่าน ETFs

 ก่อนหน้าเขียนถึงการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอินเดียผ่าน ETFs ไป, วันนี้เลยอยากนำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมมาแบ่งปัน เพื่อให้ลองไปศึกษากันต่อ โดยผมนำข้อมูลมาจาก ETFdb เขาจะมีข้อมูลสถิติ, ผลงาน และรายละเอียดของพอร์ตกองทุน ETFs แต่ละกองอย่างละเอียด  คัดเฉพาะที่เน้นในตลาดหุ้นอินเดียเป็นหลัก มีราวๆ 14 กองทุน, ถ้าเลือกเฉพาะกองใหญ่สภาพคล่องดี มี AUM ,มากกว่า $150 ล้าน ก็จะมี 7 กองทุน ETFs ที่เป็นที่นิยมมาก เช่น iShares MSCI India ETF (INDA)  ,WisdomTree India Earnings Fund (EPI) ,iShares India 50 ETF (INDY) ,iShares MSCI India Small-Cap ETF (SMIN) , Franklin FTSE India ETF (FLIN)  ซึ่งตัวหลักเหล่านี้มีผู้ออกและดูแลกองทุนเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ค่อนข้างหน้าเชื่อถือ และเปิดบริการมาหลายปี ,แต่ละกองทุนมีรายละเอียดของประเภทหุ้นและสัดส่วนเงินที่ถือครองในพอร์ตแตกต่างไป บางกองเน้น Growth stock , Big Cap, Small Cap หรือเฉพาะเจาะจงเน้นกลุ่ม internet & Ecommerce technology เป็นต้น โดยกรณีถ้าจะลงทุนหรือจะเทรด ถ้ามีบัญชี Global Trading Accont อย่างใน DIME, InnovestX ก็เทรดได้เลย  จุดสังเกตหนึ่งที่เคยบอกไ

Leveraged Equity ETF

ในตลาดหุ้นอเมริการจะมี ETFs ชนิด Leveraged Equity ETF ที่สามารถเทรดซื้อขายในตลาดได้แบบหุ้น แต่มี gearing หรือการใส่กำลังทด leverage เพื่อช่วยเพิ่มผลตอบแทน(แน่นอนว่า ผิดทางก็เพิ่มการขาดทุนด้วยเช่นกัน) โดย Leveraged Equity ETF ,ประเภทนี้จะอิงกับดัชนีหุ้น เช่น S&P500 ,NASDAQ100,Russell 1000 รวมถึงกลุ่มดัชนีอุตสาหกรรมบางประเภทเป็นต้น โดยมีหลายบริษัทการเงิน ออก ETFs ประเภทนี้มาให้นักลงทุนได้ซื้อขาย ซึ่งแต่ละ กอง Leveraged Equity ETF ก็จะมีขนาด Leverage แตกต่างกัน ตั้งแต่ 1.5X - 3X (ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 3 เท่า) โดยกองทุนพวกนี้ข้างในถือครอง derivatives เช่น options เพื่อใช้ในการขยายผลตอบแทน(กองที่บริหารดีๆ เทรด options ได้เก่ง,เก็บได้ราคา premiums ไม่สูง,ผล NAV จะไม่แกว่งมาก ไม่ร่วงแรง) ข้อดีคือเราใช้ Leveraged Equity ETF ในการบริหารพอร์ตได้, เช่นช่วยกระจายความเสี่ยง(ด้วยเงินทุนที่น้อยกว่า) ในสินทรัพย์ฺตัวที่ผันผวนไม่สูง รวมไปถึง หลายบริษัทออกกอง ETFs ประเภท Short Leveraged ETF ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกในการ heding หรือทำ Downside protection ในพอร์ตได้เช่นกัน Leveraged Equity ETF ในตลาดหุ้นอเ

ข้อมูล สำคัญในการเลือกซื้อกองทุน

  วันหยุด เลยมีเวลานั่งทำการบ้าน, เลือกกองทุนกับรุ่นน้อง ,จัดพอร์ตรอรับปีหน้า (2023) ไปเลย การซื้อขายกองทุน ปัจจุบันมีหลาย application ที่ออกมามาก แต่ตัวที่ให้ data ครบและเข้าใจง่าย ต้องยกให้ finnomena โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับ"ค่าธรรมเนียม" ต่างๆ, ค่าใช้จ่ายของกองทุนที่อยู่ในหนังสือชี้ชวนและตัวเลขเก็บจริง เขานำมาสรุปให้เห็นหมด เลย ข้อดีคือเราจะทราบต้นทุนรวม เช่น ค่า Total Expense Ratio +Trading Fee(Front & Back end) ในการซื้อขายกองทุนทั้งหมดก่อนลงทุน ที่สำคัญสามารถเปรียบเทียบ ระหว่างกองทุนต่างๆ ที่เราสนใจได้ด้วย อันนี้สำคัญ เพราะถ้าวางแผนทำพอร์ตระยะยาว การไปดูแต่ performance ในอดีตแล้วคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนดี นี้ fail มาเยอะแล้ว , บางกองหักปีละ 4-5% ไม่ว่า performace จะดีหรือแย่แค่ไหน แบบนั้น ถ้าถือระยะยาว อาจจะกลายเป็นข้อจำกัดของการเติบโตของพอร์ตได้, ถ้าเราเน้นถือยาว เน้น passive การเลือกกองทุนที่มี Total Expense Ratio + Trading Fee(Front & Back end) ไม่สูงก็น่าจะเหมาะสมกว่า ถ้าใครสนใจ หาเครื่องมือการบ้าน, แบบยังไม่ต้องเปิดบัญชี ก็ลองเข้าไปเล่นของ finnomena ได

เล่าเรื่อง Inverse/Short ETFs

เมื่อหัวค่ำมี live เรื่อง ETFs ตลาดหุ้นสหรัฐกับการวางแผนเทรดระยะยาว ผมพูดถึง Short ETFs หรือ Inverse ETFs ซึ่งเป็นกอง ETF ประเภทที่สร้างเพื่อปกป้องความเสี่ยงของพอร์ต และทำกำไรในช่วงตลาดขาลงหรือวิกฤติการเงิน ซึ่งมีหลายประเภท(short ในดัชนีต่างๆ,หรือหุ้นบางกลุ่ม) หลายเจ้าหลายกองทุนมาก รวมถึงมีทั้งแบบปกติ(1X)และแบบเสริม leverage (3X) ในกองทุน นี้ข้อดีในตลาด ETFs อเมริกาที่ประเภทสินค้าให้เทรดกว้าง และการเทรด ETFs ขาลงพวกนี้ต่างจาก Futures คือไม่มีวันหมดอายุ ไม่ต้องใช้ leverage ทำให้ไม่มีค่า Fee ถือครอง และ สามารถใช้เงินทุนไม่มาก บางกองหลัก $100 ก็เทรดได้ (แต่กองประเภทนี้นี้ก็มีค่า Fee เช่นเดียวกับ ETF ทั่วไปทำให้เป็นข้อจำกัดหนึ่งในการเทรดเข้าออกบ่อย ควรต้องศึกษา cost ก่อนเทรด,) กลุ่ม Short ETFs หรือ Inverse ETFs มีทั้งแบบปกติ 1X และแบบใช้ leverage 3X เจ้าดังๆเช่น ProShares UltraPro Short S&P 500 (SPXU) , ProShares Short S&P500 (SH) , Direxion Daily S&P 500® Bear 3X Shares (SPXS) และอื่นๆ ปีที่ผ่านมาตลาดสหรัฐ Bull market แรงฟื้นจากช่วงดัชนีถดถอย covid-19 ปี 2020 ปีนี้วิ่งแรง ทำ

กองทุน Oil ETF

ราคาน้ำมันโลก กำลังป่วน ด้าน WTI Futures May 2020 วันสุดท้ายถึงกับติดลบ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์(เพราะไม่มีความต้องการรับส่งมอบ) แม้สัญญา WTI June 2020 เช้านี้ยืน $22.12 +8.27% กองทุนน้ำมัน ETF ไทยส่วนใหญ่จะใช้บริการลงทุนต่อใน Invesco DB Oil Fund คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาขาดทุนหนักจากการถือ WTI Futures เดือน May เพราะพวกนี้จะมีการขายสัญญาใกล้หมดอายุ และเปลี่ยนไปถือสัญญาไกล เดือนอื่นๆแทน ตัว font  อีกประการหลายกองมีการผสมส่วนของเงินสดและพันธบัตร เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต ตรงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากราคาน้ำมันในตลาดได้อีกทาง ปีนี้ใครที่ลงทุนกองน้ำมันคงเหนื่อยหน่อย จนกว่าราคาน้ำมันกลับขึ้นมาได้

2019 ปีที่ดีของกองทุน

เช้านี้เข้าไป check พอร์ตกองทุน เห็นผลตอบแทน YoY กองทุนกลุ่ม REIT &Prop Fund และ Fix income แบบเรียกว่าประทับใจมาก เดือนหน้าจบปีเรียกว่าพร้อมขายเก็บกำไรตามแผนกันทันที ถ้าเทรดยาวเล่นรอบใหญ่(เน้นปรับพอร์ต มากกว่าการ Trading ตามการเคลื่อนไหวของราคา) ไม่มีเวลาติดตามราคาหุ้นทุนวัน กองทุนที่ดีนี้เป็นอีกทางเลือกในการบริหาร asset ของคนทำงานได้เลยครับ (เพียงแต่ต้องทำการบ้าน ต้องวางแผนบริหารจัดการ portfolio สักนิด ไม่ไปซื้อแบบลอกการบ้านอย่างเดียว) ค่อนข้างจะเข้าทางที่ cway quant lab ปีนี้เรารันเงินจริงในพอร์ตกองทุน ด้วย AI ที่พัฒนาขึ้น โดยเราทดลองเอา Deep learning ไปใช้จัดพอร์ต portfolio เต็มๆทั้งการเลือก asset และการทำ weight optimization โดยเอา data จาก กองทุนรวมและ ETF เป็นหลัก ผลออกมาดีงามมาก ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เยอะ https://www.finnomena.com/fund/

How to Live Mortgage Free with Sarah Beeny

คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก ถ้าใครคิดว่าการเป็นหนี้ธนาคาร 20-30 ปีจากการต้องกู้เงินซื้อบ้าน เป็นเรื่องหนักอกหนักใจ อยากแนะนำให้ลองดู สารคดี How to Live Mortgage Free ทาง Netflix รายการนี้ดำเนินรายการโดย Sarah Beeny เป็นกูรูอสังหาของ UK เขานำเคสตัวอย่าง พร้อมคำแนะนำในทางเลือก ที่หาที่อยู่อาศัย ที่ทำให้ไม่ต้องเป็นหนี้มาก มีหลายตอนที่น่าสนใจ เพราะแต่ละแขกรับเชิญที่ออกมารายการต่างมี solution ที่แตกต่างไป เช่น การ  refinance , การกู้เงินซื้อบ้านเพื่อการลงทุน(เช่นซื้อบ้านมือสองราคาถูก พอผ่อนหนี้ใกล้หมด ก็ขาย นำเงินส่วนต่างไปซื้อบ้านที่ถูกกว่าราคาบ้านปัจจุบัน ,การดัดแปลงสร้างบ้านจากรถบัสสองชั้น , รวมถึงเทคนิคการแบ่งขายอสังหาบางส่วน, หรือแม้การร่วมกันซื้ออสังหาขนาดใหญ่ มาตกแต่งใหม่แล้ว แบ่งจัดสรรเป็นการอยู่ร่วมกัน แชร์พื้นที่ส่วนกลางกัน เป็นต้น นอกจากนี้รายการยังมีกูรูมาแนะนำให้ความรู้ด้านการวางแผน ออกแบบตกแต่งและอื่นๆ รวมไปถึงเทคนิคด้านการเงิน เกี่ยวกับการบริหารหนี้ อีกด้วย รายการนีัยาว 6 ตอน วันนี้ผมมีโอกาสได้ดูแล้ว รู้สึกว่าดีมากโดยเฉพาะคนวัย 30 ที่กำลังสร้างครอบครัว หรือเริ่มจะก่อห

คำแนะนำข้อควรระวังสำหรับ retirement portfolio

การปรับตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงแนวคิดการจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ช่วงนี้เริ่มออกมามาก จากคำเตือนของเหล่ากูรูชื่อดังต่างๆ สำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะท่านใกล้เกษียณอาจจะเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้าเกิดวิกฤติจริงๆควรจะทำยังไง?? Craig Kirsner คนนี้เป็น Retirement planner ชื่อดังของอเมริกา ซึ่งเขาแนะนำให้ preserve & protect พอร์ต retirement โดยเขาให้รายละเอียดว่า 1.Don’t let long periods of market calm fool you. อย่าติดกับผลงานอดีต ระวังความคาดหวังว่าปีนี้ ปีหน้าจะต้องได้กำไรมากเหมือนปีก่อน ซึ่งความโลภและความคาดหวังนี้ทำให้ เกิดความประมาทและก้าวร้าวเสี่ยงเกินตัว เข้าไปลงทุนในหุ้นความเสี่ยงสูง สุดท้ายตลาดปรับตัวลงรุนแรง ทำให้มูลค่าพอร์ตลดลงหรือขาดทุนหนัก 2.Understand what rising interest rates might do. ทำความเข้าใจผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทิศทางที่จะเกิดในอนาคตค่อนข้างแน่นอนตามนโยบายของ Fed เขาแนะนำให้เอาปัจจัยนี้มาใช้วางแผนการลงทุน ระมัดระวังวิกฤติหนี้ 3.Be aware that the aging population could cool the economy. สหรัฐเข้าภาวะคนแก่มากกว่าการเกิด เขายกตัวเลขมีคนเข้าสู่วัยเกษียณ 1000

ความเข้าใจผิด NAV

ช่วงนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงกังวลกับเรื่องของเงินเฟ้อพอสมควร เพราะด้วยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น มนุษย์เงินเดือนผู้ใช้บริการแต่เงินฝากอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดิน จึงควรระมัดระวังในจุดนี้ไว้บ้าง เพราะบางครั้งการขยันทำงานเก็บเงินฝากธนาคารอย่างเดียว อาจจะไม่พอ ถ้าอนาคตอัตราเงินเฟ้อมันสูงกว่า ดังนั้นดอกเบี้ยเงินฝาก ย่อมไม่ใช้ทางเลือกที่ดีในการออมเงินระยะยาว เมื่อนั้นการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำน่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบ ผมเองเลือกการลงทุนในหุ้นทั้งแบบระยะยาว และแบบเน้นปันผล เพื่อใช้ในการออมเงินเก็บที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำงาน และได้เขียนถึงหุ้นปันผล หรือการลงทุนระยะยาวเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อมาพอสมควรแล้ว จุดที่ต้องเน้นถ้าจะลงทุนในหุ้นเพื่อชนะเงินเฟ้อคือ การเลือกหุ้นที่ปันผลสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ มีประวัติปันผลดีต่อเนื่อง หรืออีกทางคือเลือกหุ้นที่มีสินทรัพย์เยอะๆ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อและได้รับประโยชน์จากการเกิดเงินเฟ้อ  (สินค้าเกษตร, พลังงาน,สาธารณูปโภค) แต่ต้องพิจารณาความสามารถจัดการต้นทุนที่มาพร้อมเงินเฟ้อของแต่ละบริษัทไปได้ด้วยนะครับ แต่สำหรับท่านที่ยั

siam chart: on-line technical chart

ปัญหาใหญ่ของผมคือเรื่อง กราฟเทคนิคที่ส่วนมากมักจะใช้งานได้แต่บนระบบปฏิบัติการ windows OS ทั้ง efinace smart portal และ metastock แน่นอนว่าถ้าเป็นเครื่อง Linux ก็หมดสิทธิ และถ้าเป็น MAC ก็ต้องลง BootCamp หรือ VMWare นั้นก็ทำให้เครื่องช้าลงไปอีก และก็มีการค้างในบางครั้ง ดังนั้นเมื่อผมมาเจอ siamchart ออนไลน์เทคนิคคอลชาร์ตทำให้ค่อนข้างโดนใจมาก เพราะเป็น web application ที่ทำงานได้บน web browser ได้เลยไม่ต้องติดตั้ง activex หรือโปรแกรมอื่นๆ วันนี้มีเวลาของนำมา review ให้เพื่อนๆนักลงทุนได้อ่านดู ที่สำคัญท่านที่เป็น VI หรือนักลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการใช้กราฟ real-time ท่านก็สามารถใช้ siamchart  ในการกำหนดจุดซื้อ จุดขายคราวๆได้ siamchart เริ่มต้นการใช้งาน ก็สามารถใช้งานได้ฟรี ผ่านทางเว็บบราว์เซอร์ทั่วไป ผมทดสอบกับ IE Chrome และ FF ผลปรากฏว่าทำงานได้ดี โดยเราสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ http://siamchart.com/ หน้าแรกแสดงดัชนีตลาดต่างๆ ฟีเจอร์หลัก - Quote ฟีเจอร์ Quote นั้น เป็นตารางดัชนีของตลาดต่างๆแบบ Real time แสดงการเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาดัชนีตลาดทั่วโลก - Fund ฟีเจอร์นี้ ผมชอบมากคือมันช

ติดอาวุธให้นักรบกองทุน

นอกจากจะลงทุนในหุ้นแล้ว ผมมีพอร์ตการลงทุนในกองทุน โดยบริหารการลงทุนให้กับเงินของครอบครัว มิใช่ว่าเชื่อใจในฝีมือของ Fund manager แต่อย่างใด แต่ที่ใช้บริการเพราะว่าสะดวกกว่าการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าระยะยาว เพราะสามารถดึงเงินกลับได้ทุกเวลา และปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นเก็งกำไร ซึ่งเหมาะกับเงินของครอบครัวที่รับความเสี่ยงได้จำกัด แน่นอนว่าผมทำการซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมพวก Passive Fund ที่อ้างอิงราคากับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แบบลูกค้าทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำก็คือเอาการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้นเข้ามาใช้ โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูลดัชนี เพื่อประกอบการกำหนดจังหวะการซื้อ ขายหน่วยลงทุน โดยเป้าหมายการลงทุนของผมก็คือที่ปีละ 20% ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป การวางเป้าหมายแบบสบายๆจะทำให้เราไม่ต้องไปเสี่ยงและเร่งรัดกับแผนการลงทุนจนมากไป ผมขอแบ่งปันเทคนิคเบื้องต้นในการวิเคราะห์แนวโน้มของดัชนี สำหรับการประกอบการตัดสินใจในการลงทุน นั้นก็คือการใช้ค่าเฉลี่ย EMA5 และ EMA10 มาช่วยกำหนดจังหวะการซื้อ ขาย หน่วยลงทุน เนื่องด้วยราคาของหน่วยลงทุนนั้นจะเคลื่อนที่อิงอยู่กับดัชนีของตลาด ดังนั้นแนวโน้มของดัชนี SET ก็จะเป็นแน