ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

สาเหตุต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

พอดีมีคนถามเรื่องสาเหตุต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง ผมไปเจอสรุปจาก KSecurities เขาเขียนอธิบายสาเหตุหลักๆ ตามที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ได้เข้าใจง่ายดี เลยนำบทความมาแนะนำต่อ สรุปสั้นๆ การเติบโตที่อ่อนแอ, Valuation สูงเมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน( PER ปี 2567 ที่ 14.35 เท่า ) และไม่มีปัจจัยบวกที่น่าดึงดูดทียบ กับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน(จากข้อมูลของ Bloomberg consensus ตัวเลข CAGR 2562-2567 ห่างกับเพื่อนบ้านในอาเซียนเป็นสองเท่าตัวเลย) ................................. เรามองว่าเหตุผลสำคัญมาจากแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอของประเทศไทยหลังสิ้นสุดสถานการณ์โควิด-19 และมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน Bloomberg consensus คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะรายงานการเติบโตของกำไรสุทธิ (CAGR จากปี 2562-67) ที่ 4.39% เทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียนที่ 10.39% นอกจากนี้ SET Index ซึ่งขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 14.35 เท่า ยังค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มอาเซียนซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตระดับเดียวกันหรือสูงกว่า เช่น อินโดนีเซีย (13.68 เท่า), มาเลเซีย (13.37 เท่า), ฟิลิปปินส์ (11.42 เท่า) แ

Risk Factor in 2024

  VisualCap ได้ทำการสรุป ความเสี่ยง ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2024 โดยเขามีการจัดกลุ่มตามความรุนแรงของผลกระทบและความน่าจะเป็นที่จะเกิดด้วย นำเสนอไว้ค่อนข้างน่าสนใจ โดยปัจจัยความเสี่ยงคุกคามที่มีความรุนแรงสุดต่อเศรษฐกิจ แต่โอกาสเกิดต่ำสุด คือ "ความกลัวเรื่องของวิกฤติหนี้สาธารณะ(Sovereign debt)"  ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่สูง แต่โอกาสเกิดขึ้นมาก คือ ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งปีนี้มีหลายขั่วหลายฝ่ายที่กำหลังเผชิญหน้ากันด้วย  ถ้าดูจากภาพ ก็จะเห็นว่า ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ต้อง กระชับพื้นที่รักษาความเสี่ยงในการเทรด ให้ดีครับ

Spot Bitcoin ETF

  Spot Bitcoin ETF .................................... สองวันนี้ Bitcoin ETF กระแสแรงมาก หลัง SEC เปิดเทรด Spot Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง เต็มรูปแบบในตลาดสหรัฐ โดยปัจจุบันมี AUM รวมกัน $467.11M และมีกองทุนจำนวน 11 กองทุนหลักที่สามารถเข้าเทรดได้ ถ้าเราเปิดบัญชี global trading ของโบรกเกอร์ต่างๆในบ้านส่วนใหญ่ก็จะสามารถเทรดได้เช่นกัน กองทุน ETF หลักได้แก่ 1. ARK Invest/21Shares (ARKB) 2. Bitwise (BITB) 3. Valkyrie Bitcoin Fund (BRRR) 4. Invesco Galaxy Bitcoin ETF (BTCO) 5. WisdomTree Bitcoin Trust (BTCW) 6. Hashdex Bitcoin (DEFI) 7. Franklin Bitcoin ETF (EZBC) 8. Fidelity Wise Origin Bitcoin Trust (FBTC) 9. Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) 10. VanEck Bitcoin Trust (HODL) 11. iShares Bitcoin Trust (IBIT) การเปิด Bitcoin ETF ในตลาดคริปโทมองว่าจะกลายเป็นตัวกระตุ้น demand สำหรับนักลงทุนและกองทุนที่ต้องการสะสม cryptocurrency โดยเฉพาะ Bitcoin(BTC) แบบถูกกฏหมายในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงผ่าน ETF แต่การลงทุนเราต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละ ETF ดีๆ แต่ละกองจะมีรายละเอียดแตกต่างกันมาก โดยเ

ที่เงินมากแค่ไหนจึงจัดว่ารวย

จำได้ว่าเคยเห็นมีเพจหนึ่งตั้งคำถามว่าแค่ไหนจัดว่ารวย , เลยนำเอาข้อมูลรายงานนี้ที่เจอจาก visualcapitalist มาฝาก โดยเขาทำกราฟิกสรุปจากรายงานของ UBS Global Wealth Report 2023 ที่สำรวจข้อมูลฐานทางการเงินในปี 2022 ของทุกประเทศทั่วโลกเพื่อประเมินเรื่องของความมั่งคั่ง(Wealth) ของคนในประเทศต่างๆ  โดยค่า Average Wealth per Person ในปี 2022 ของทั่วโลกอยู่ที่ $84,718. หรือ ราวๆ 2,965,130 บาท, โดยประเทศ Switzerland มีค่าเฉลี่ย Wealth ต่อคนสูงที่สุด $685,226 , ลำดับที่ตามมา คือ US,Australia, และ Denmark ในรายงานแสดงทั้งค่า Mean และค่า Median ,จะเห็นว่าผลของการจัดอันดับเปลี่ยนไปเลย หลายประเทศมูลค่า Wealth ที่มากก็ยังกระจุกอยู่ที่คนจำนวนน้อย ประเทศในอาเซียนอย่าง  Singapore ติดอันดับ 8 ,โดยมีค่า Average Wealth per Person ที่ $382,957  ส่วนประเทศไทยของเรา Average Wealth per Person อยู่ที่ $25,956 หรือราวๆ 908460 บาท  แม้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกไปมากพอควรแต่ก็ยังติดอันดับที่ 34 ของโลก, มองจากข้อมูลนี้ ถ้าเรามีสินทรัพย์สุทธิ(หักลบหนี้) มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท ก็น่าจะจัดว่า รวยได้(ระดับหนึ่ง) แล้วเช่นกัน

Poker & Game Theory Optimal(GTO) Strategy

ต้นปี 2023 ผมได้พูดถึงเรื่องการฝึกโป๊กเกอร์เอาไว้ โดยตอนนั้นผมเล่าให้ฟังว่าใช้ Game Theory Optimal,(GTO) Strategy จาก Mass Database Analysis(MDA) ฐานข้อมูลมากกว่า 50ล้านเกมส์ ที่ออกมาสร้างความฮือฮาอยู่พักหนึ่ง จริงๆมันไม่ใช่เครื่องมือวิเศษอะไร คนที่ไม่เชื่อก็ยังไม่เชื่อ ส่วนตัวผมเป็นสาย Quant ชอบเรื่องความน่าจะเป็นดังนั้น การ simulation และการประเมินความน่าจะเป็น จึงเป็นกลยุทธ์ที่ส่วนตัวสนใจศึกษา แต่การนำมาใช้นี้ ไม่ง่ายเลย มันไม่สามารถเอามาใช้ตรงๆได้เสมอไป เพราะเกมส์ เพราะผู้เล่นตรงข้ามบนโต๊ะมันแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้ได้คือการนำมาใช้วางแผนจัดการความเสี่ยง,การเล่น Pre Flop, กำหนดขนาด Bet size + Pot Control และการประเมิน Range Analysis ระหว่างเราและคู่แข่ง (เอาคราวๆแค่นี้ดีกว่า เพราะตัวผมเองเพิ่งทดลองใช้ได้ไม่นาน ไม่ได้เก่งอะไรที่จะไปฟันธงได้ว่ามัน work) มาเขียนบันทึกไว้เพราะ จากที่เคยเล่าเรื่อง GTO ก่อนหน้า ผมได้ทำการทดลอง FW Testing ระบบการเล่น Poker จริงๆกับคนจริงด้วย GTO Strategy ที่ปรับตั้งให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง ซึ่งในปี 2023 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาก็ตั้งใจจัดเวลา ในฝึ

เมื่อ High Frequency Trading (HFT) มาก็ว้าวุ่นกันเลย

ปี 2023 ที่แล้ว High Frequency Trading (HFT) กลายเป็นผู้ร้ายในตลาดหุ้นไทย โดยมีการพูดถึงการเทรดที่ผิดปกติ และความได้เปรียบจากความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย+เม็ดเงินขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิดความเสียเปรียบอย่างมากกับเทรดเดอร์(โดยเฉพาะ day trader) รวมไปถึงเกิดความผันผวนในราคาหุ้น(ขึ้นแรง/ลงแรง) ลากตบ พาติดดอยกระจาย , บางทีลากกันไป 6-10% เห็นสัญญาณซื้อเทคนิคอล(โดนบ่อยเช่น RSI หรือ พวกรูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) ผ่านไป 1-2 แท่งเทียน สัญญาณตรงข้ามออกแล้ว ราคาดิ่ง -5% -7% ทำเอาว้าวุ่นเลย พวกนี้ทำเอาเทรดเดอร์ตัดขาดทุนกันแทบไม่ทัน บางตัวตัดขาดทุนเสร็จดีดสวนใส่หน้า ใน bar ถัดไปเลยก็มี พักเรื่องตลาดหุ้นไทยไว้เท่านี้ !!!! ................................................................................... โพสนี้เอาตัวอย่างคลิปหนึ่งใน TED TALK ชื่อ High frequency trading and the new algorithmic ecosystem โดย หัวข้อนี้บรรยายโดย Dr. Sean Gourley ตำแหน่งเป็น Co-Founder & CTO แห่ง Quid Inc. พูดถึง HFT ในตลาดสหรัฐที่มีการถกเถียงกันมานมนานมากในช่วงแรกๆของการอนุญาตให้มีการเทรดด้วย HFT ในตลาด(สถิติของตลาดสหรัฐเ

แนะนำ Commodity ETFs

  แนะนำ Commodity ETFs เพราะ จากโพสก่อนหน้าเรื่องผลตอบแทนของสินค้าในตลาด commodity มีน้องที่ติดตามถามเข้ามาว่า ถ้าอยากลงทุนหรือเทรดในสินค้า commodity ตลาดสหรัฐทำได้หรือไม่ คำตอบคือทำได้นะครับ โดยหลักๆการเทรด commodity สามารถเทรดได้ในตลาด Futures และแบบ Spot ผ่านสินค้า ETFs แต่แนะนำเทรดเดอร์มือใหม่ และไม่ต้องการความยุ่งยากในการเทรด ลองเริ่มต้นจาก Commodity ETFs ก่อนก็ได้เช่นกันครับ เพราะทุกวันนี้เปิดบัญชี global Trading account ที่รองรับการเทรดตลาดสหรัฐ เช่น DIME , InnovestX และอื่นๆ ก็สามารถเทรดได้เลย ข้อดีของ Commodity ETFs คือ เป็น spot ไม่ใช้ leverage ดังนั้นขนาดสินค้าออกแบบมาให้เล็ก ใช้เงินจำนวนไม่มากก็เทรดได้ + ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความผันผวนราคามากและเรื่องการ rollover กรณีสัญญาฟิวเจอร์หมดอายุ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของผู้ออก ETFs กลุ่มนี้ ซึ่งมีเชื่อมโยงสินค้าคอมโมหลายประเภท ทั้ง Gold , Oil , หรือแม้แต่สินค้าเกษตร รวมไปถึงยังมีแบบผสมที่เรียกว่า รวมคอมโมดิตี้หลายประเภทอีกด้วย ตัวอย่างภาพนี้ผมนำมาจาก Dime เราก็จะเห็นว่ามีเยอะมาก จุดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้ามาเรียนรู้ในตลาดสิน

ภาพรวมผลงานสินค้า commodity ปี 2023

จากสถิติย้อนหลัง เหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียม ที่ช่วงเดือนแรกของปี จะเป็นช่วงตลาดคอมโมดิตี้ มีความผันผวน และมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ตอบสนองกับปัจจัย เศรษฐกิจ(เช่น Inflation , Recession, Supply Shock ), การเมืองระหว่างประเทศ(ตะวันออกกลาง,รัสเซียยูเครน) และสภาพภูมิอากาศ จากข้อมูล performace (รวมสินค้า Futuresทั้งหมด)จะพบปีที่ผ่านซอฟท์คอมโมที่ปิดบวกแรงได้แก่ OJ , Cocoa , Coffee, Sugar ด้านโลหะมีค่า แรงสุดคือ Gold +7.07% ส่วนตัวที่ราคาร่วงแรง จะมีอย่าง Natural Gas , Wheat , Corn , Canola และ Soybean กลุ่มน้ำมัน WTI ไม่ได้ลงเยอะ เพราะปลายปีบวกคืนได้ แต่ปิดทั้งปีติดลบไปบางๆ WTI -7.6% ปีนี้ 2024 ก็น่าจับตาเช่นกัน คงติดตามต่อว่าจะเป็นวิกฤติ หรือโอกาส สำหรับเทรดเดอร์ ในตลาดคอมโมดิตี้

ไม่เลือกงานไม่ยากจน

ไม่เลือกงานไม่ยากจน คำพูดที่ได้ยินบ่อยมาก ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ถ้าอยากจะ รวย อยากจะขยับ คลาส จากชนชั้นกลาง อาจจะต้องใช้อีกชุด midset หนึ่งเลย... ปล. เราจะพบว่าการติดกับดักชนชั้นกลาง นี้น่ากลัวจริงๆ เพราะทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะค่าหมอค่ายา แพงมาก ถ้าแก่แล้วป่วย ค่ารักษาพยาบาล ถึงจะมีประกัน มีสิทธิ์รักษา แต่บางทีก็ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มไม่น้อยเลยทีเดียว อ้างอิงภาพจาก Anchoring Measurement of the Middle-Income Class to Subjective Evaluation https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/roiw.12553

รีวิว Modern Portfolio Management: Moving Beyond Modern Portfolio Theory

นำรีวิวหนังสือ "Moving Beyond MPT" ของ Dr. Todd Petzel’ ปัจจุบันเป็น CIO ที่ Offit Capital Advisors LLC. เป็นอีกท่านที่มีชื่อเสียงมาจากสายวิชาการและเข้ามาเป็นผู้บริหารกองทุนในตลาดมาหลายสิบปี , หนังสือเล่มนี้ออกมาปี 2021 ผมเพิ่งมีโอกาสซื้อมาอ่าน แล้วรู้สึกชอบเลยจะนำมาแบ่งปันรีวิวเอาไว้ครับ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ Portfolio Management ที่ใช้ได้ทั้งนักลงทุนและเทรดเดอร์ , เขียนอธิบายภาพรวมดี เล่าเรื่องเป็น step ขั้นตอนในการสร้างพอร์ตโฟริโอ แม้หนังสือมีเรื่องของโมเดลและตัวเลขบ้าง ไม่มากไม่ยากเทียบกับเล่มอื่นๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจของเล่มนี้คือ จับประเด็น ข้อจำกัดและข้อคิด เกี่ยวกับตลาดในปัจจุบัน ที่มีผลต่อ Modern Portfolio Theory (Harry Markowitz ,1952) มาเขียนและอภิปราย จุดที่ผมชอบมากคือ พูดถึงจุดสำคัญและข้อจำกัดของ MPT โดยเฉพาะข้อจำกัดที่เกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดในปัจจุบัน, อันส่งผลต่อ asset price และทำให้ยากที่จะโมเดลผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นไปตามที่คาดหวัง , นอกจากนี้ยังมีเรื่องของพฤติกรรมของตัวนักลงทุน/ผจก.กองทุน ผ่านการอธิบายเรื่องของ Behavioral Finance หลายประเด็น ที

เครื่องมือฟรี Python Lib for Quant Trader

  น้องๆกลุ่มลุยหุ้นอเมริกา ชวนไป talk แลกเปลี่ยนประสบการณ์เทรดหุ้นอเมริกาปีนี้ ผมนำไอเดียเรื่อง quant analysis tool กับการเทรดหุ้นอเมริกาไปแบ่งปัน มีเครื่องมือฟรี Python Lib Package หลายตัวที่มีประโยชน์มากในการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นและทำระบบเทรด คิดว่าน่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ติดตามและเทรดหุ้นนอกเหมือนกัน เลยอยากมาแชร์ให้ในเพจ 1. OpenBBTerminal -ตัวนี้สำหรับ Data Service ทั้งราคา&งบการเงิน และการเข้าถึง Research ต่างๆ สไตล์ Bloomberg Termial เลยแต่ฟรี , และดึง data ทั้งหมดผ่าน API มาวิเคราะห์ด้วย Python ได้ -ความเจ๋งของตัวนี้คือข้อมูลสินทรัพย์เยอะมาก ทั้ง stock , options, crypto, forex, macro economy, fixed income, github.com/OpenBB-finance/OpenBBTerminal 2. TA-Lib(Python) - ตัวนี้สำหรับทำระบบเทรด เป็นเครื่องมือเทคนิคอลพื้นฐานด้าน quant จาก TA-Lib สะดวกในการทดสอบระบบ ไม่ต้องเขียนฟังชั่นเครื่องมือการวิเคราะห์เอง เรียกใช้งานง่าย รองรับ TA Indicator หลายตัวมาก เช่นเดียวกับเครื่องมือใน tradving view เลย https://github.com/TA-Lib/ta-lib-python 3. Zipline - ตัวนี้พัฒนาจากกลุ่ม quantop

รีวิวหนังสือ Just Keep Buying

  การหาเงิน ก็คือ การทำงาน(แรง+เวลา+สุขภาพ) เพื่อแลกเงิน แต่การสร้างเงิน มันคือการบริหารเงินเพื่อให้เปลี่ยนเงินให้เป็นสินทรัพย์ที่มันสร้างผลตอบแทน กลับคืนมา มันต้องมีสองฟังก์ชั่น ที่ทำงานร่วมกัน ความก้าวหน้าในการทำงาน กับ การเติบโตของสินทรัพย์มันก็แตกต่าง อ้างอิงประเด็นนี้จากหนังสือ Just Keep Buying ของ Nick Maggiulli เขาเน้นให้คนออมเงิน แล้วลงทุนให้เติบโต ขณะที่ทำงานยิ่งเงินเดือนขึ้น โบนัส ออก ไม่ควรติดหรู ต้องยิ่งออมเพิ่มให้มากที่สุด Nick ได้โพสไอเดียการประเมินศักยภาพของการโตของพอร์ตสินทรัพย์ที่ถูกบริหารความเสี่ยงแบบเหมาะสม(diversified portfolio) สร้างผลตอบแทนต่อเนื่องจะสามารถขยาย 1.5x ของเงินที่มีภายในระยะเวลา 10 ปี 2.0x ของเงินที่มีภายในระยะเวลา 20 ปี 3.0x ของเงินที่มีภายในระยะเวลา 30 ปี 4.0x ของเงินที่มีภายในระยะเวลา 40 ปี ดูเหมือนจะไม่มากอะไร แต่เขาเน้นการไม่สูญหายของเงินทุน และให้ความต่อเนื่องมันทำงานบน capital ที่เพิ่มเติมมากขึ้นจากออมทุกปี ซึ่งคำแนะนำของเขาคือ มันต้องจัดการ เรื่องการทำงานสร้างรายได้ และการบริหารเงินให้เป็น , ถ้าทำงานอย่างเดียว สุดท้ายเงินมันก็ถูกลดทอนไปตา

หนังสือแนะนำสำหรับการเทรด Options

พอดีมีน้องเทรดเดอร์ท่านหนึ่งเขียน email มาให้ช่วยแนะนำหนังสือเกี่ยวกับ Option Trading ให้หน่อย ผมเลยอยากนำเนื้อหามาแชร์ต่อด้วย เพื่อว่าใครสนใจมองหาอยู่ ,โดยหนังสือที่ผมแนะนำน้องเขาไปชื่อ " Positional Option Trading: An Advanced Guide" เป็นหนังสือ options ของคุณ Euan Sinclair ซึ่งคนที่เรียนเทรดเดอร์ option น่าจะคุ้นเคยกับหนังสือเล่มอื่นๆของเขาดี แต่เล่มนี้เล่มใหม่ล่าสุดของเขา ออกช่วง September, 2020 และเรียบเรียงเนื้อหาให้อ่านง่าย ไม่ได้เน้น Math มากไปแบบเล่ม Volatility Trading นะ โดยหลายเรื่องโยงต่อมาจากเล่ม Option Trading ซึ่งถ้าซื้อสองเล่มคู่กันมาอ่านก็ดีทีเดียว เล่มนี้เนื้อหาอัดแน่นคุ้มมาก โดย เริ่มต้น คุณ Sinclair ก็ปูพื้นฐาน options พวก Theory และ Pricing Model , ให้ก่อน มือใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจได้จากตรงนี้ แล้วก็ค่อยๆลึกเช่นเรื่อง Forecasting Volatility แบบต่างๆ, รวมไปถึงเรื่อง กลยุทธ์(strategies) เขาเขียนอธิบายแจกแจงกลยุทธ์การเทรด options ไว้หลากหลาย โดยเฉพาะการเทรดระยะกลาง , หรือยาว เชิงกลยุทธ์เชิงซ้อน และจุดน่าสนใจคือการทำกลยุทธ์แบบผสมเชิงซ้อนด้วยการใช้ Option

ปัญหายุคปัจจุบัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวเลือกที่มากเกินไป

  บางทีตัวเลือก ตรงหน้า มันเยอะเกินไป จนทำให้รู้สับสน กลายเป็นว่า "ไม่มีอะไร" ที่อยากเลือก หรือรู้สึกว่าเหมาะสมกับตัวเรา เลยสักอย่าง สุดท้าย กลายเป็นไม่กล้าตัดสินใจ และรู้สึกเครียด กดดัน เหน็ดเหนื่อยกับการต้องเลือก...

Principles for dealing with the changing world order

  ได้อ่านหนังสือ Principles for dealing with the changing world order ของ คุณ Ray dalio อยากเขียนบันทึกไว้ ถึงประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ เกี่ยวกับวงจร The Big Cycle ที่นิยาม state การเติบโต ,รุ่งโรจน์สูงสุดและถดถอย (อำนาจและเงินตรา)ของจักรวรรดิต่างๆ เช่น Dutch , British , U.S. , China , Japan , Russia เป็นต้น โดยเฉลี่ยของจักรวรรดิราวๆ 250 ปี และมีช่วงเวลาซ้อนทับเปลี่ยนผ่าน 10 ปี, หนังสือโฟกัสที่ปัจจุบันด้วยกับการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจเก่ากับใหม่และการเปลี่ยนอำนาจที่กำลังเกิดจาก US ไปสู่ China ตัวชี้วัด 8 ตัวที่เขาใช้ในการศึกษา ติดตามวงจร The Big Cycle ทั้ง 3 ช่วง(The Rise, The Top และ The Decline ) ของแต่ละจักรวรรดิหรือประเทศ ก็น่าสนใจ ได้แก่ 1 การเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจ (Markets & Financial Center) 2 นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Innovation & Technology) 3 การศึกษา(Education) 4 กำลังทหาร (Military Strength) 5 ความสำคัญของสกุลเงินในฐานะเงินทุนสำรอง Reserve Currency Status 6 ผลิตผลทางเศรษฐกิจ Economic Output 7 ส่วนแบ่งการค้าขายในตลาดโลก Trade Strong 8 ความได้เปรียบในการแข่งขันในต

ตลาด commodities futures ผลกระทบจาก เอลนีโญ

  ปลายปี 2023 (Q3-Q4) ยังต้องลุ้นเรื่อง inflation ต่อโดยเฉพาะต้นทุนค่าอาหาร สังเกตจากราคา commodity futures หลักหลายตัวพุ่งแรงมาก โดยเฉพาะ น้ำมัน, น้ำตาล , ข้าว ,ถั่วเหลือง, ข้าวโอ๊ต Performance เฉพาะ MoM กลุ่ม commodity สินค้าเกษตร เช่น น้ำตาล +6.03% , ข้าวโอ๊ต(oat) +6.37% ด้านน้ำมัน(WTI) +4.29% ซึ่งปัจจัยเรื่องภัยแล้งและสภาพภูมิอากาศโลกที่แปรปรวน ดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อสินค้าเกษตรหลักหลายตัว ในประเทศผู้ผลิตอันดับต้นของโลก เช่น อินเดีย, จนเริ่มมีนโยบายลดการส่งออกและกำหนดราคาที่สูงกว่าก่อนหน้ามาก ทำให้เกิดความกังวลเรื่อง วิกฤติด้าน supply chain ในสินค้าเกษตรสำคัญ ดังจะเห็นการปรับตัวของราคา commodity futures ที่หลายสินค้าราคาขึ้นต่อเนื่องมา 2 เดือนติดแล้ว ซึ่งความกังวลเรื่อง ความร้อนภัยแล้งจากปรากฏการณ์ เอลนีโญ (El Nino) น่าจะเป็นประเด็น กดดันราคา futures ไปได้ถึงปี 2024 ที่ นักวิจัยหลายสำนัก ออกมาเตือนเรื่องความรุนแรงที่จะเกิดมากขึ้น ปล. ข้าวแพง, น้ำตาล เริ่มขึ้นแล้ว ,ปีหน้าอาจจะหนักถ้าภัยแล้งรุนแรงแบบที่คาดการณ์กัน, ปล. หุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม, อาหาร อาจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำตาลโลกที่ป

เผือกร้อน My Forex Funds(MFF)

ช่วงนี้กำลังตามเรื่องของ My Forex Funds(MFF) ที่นาย Murtuza Kazmi ผู้บริหารและเจ้าของโดน Commodity Futures Trading Commission หน่วยงานของสหรัฐฟ้องร้องดำเนินคดี หลังมีการสืบสวนและรวบรวมหลักฐานมาระยะเวลาหนึ่ง ข้อกล่าวหาที่ฟ้อง MFF และ Traders Global Group ก็หนักคือฉ้อโกง(fraud) มูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญและการดำเนินการเปิดให้เทรดสินค้าอนุพันธ์(CFDs) ในสหรัฐและแคนาดาโดยไม่รับอนุญาต(อย่างผิดกฏหมาย อันนี้ผิดเพราะมีหลักฐานว่า MFF ก็คือ TradersGlobal ได้รายได้จากค่าคอมมิชั่นจากลูกค้าที่สมัครเทรด+หาประโยชน์จากการ excute order ของเทรดเดอร์ให้ได้ราคาที่เสียเปรียบ และยังได้เงินกรณีลูกค้าขาดทุน, ถ้าลูกค้าได้กำไรก็จ่ายแค่ส่วนแบ่งตามตกลง) รวมไปถึงข้อกล่าวหาว่า CEO นำเงินจากบริษัทเข้าบัญชีตัวเองไปใช้ชีวิตที่หรูหรา ประเด็นนี้น่าสนใจ เพราะ Commodity Futures Trading Commission ได้เปิดเผยเอกสารการสอบสวน ที่อธิบายโมเดลธุรกิจ Forex Prop trading firm ว่าทำเงินยังไง, หาประโยชน์จากลูกค้าหรือเทรดเดอร์ที่อยากหาเงินอย่างไร เช่น - การดำเนินการเป็น Liquidity Provider(LP) เถื่อนเอง - การชาร์จค่าคอมมิชั่นสูงในยอดกา