ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

ความสมดุลระหว่าง ความสุข และ การหาเงิน

  ผมได้หนังสือเก่า ในราคา 3 เล่มร้อยมากจากแผงหนังสือมมือสองเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จึงมีโอกาสได้อ่านหนังสือค่อนข้างมีความน่าสนใจอย่างมากและคุ้มค่ากับราคาที่ได้จ่ายไป โดยหนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องของคุณโทนี่ เช เป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถและเป็นอีกคนที่ผมคิดว่าค่อนข้างจะมีความพิเศษในวิธีคิดและการดำเนินธุรกิจ โทนี่ เรียนจบจากฮาวาร์ดแล้วก่อตั้งบริษัท link exchange ขึ้นมาในอพาร์ทเม้นท์เล็กๆของตัวเอง ผ่านไปไม่กี่ปีก็สามารถขายบริษัทนี้ให้กับ microsoft ได้ในมูลค่า 256 ล้านเหรียญ หลังจากนั้นช่วงปี 1999 เขาได้ไปเริ่มลงทุนในบริษัทขายรองเท้าออนไลน์ ชื่อบริษัท zappos จากนั้นไม่นานปี 2010 ก็ได้ขายบริษัทนี้ให้กับ amazon ในมูลค่ากว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากความสามารถในการทำธุรกิจของโทนี่ เชแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังเล่าเรื่องถึงแก่นแนวคิดสำคัญที่แตกต่างนั่นคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ "ความสุข" ในการดำเนินธุรกิจ ผมว่าความยากคือการหาสมดุลของความสุขและเงินหรือผลกำไร ความสุขทั้งตัวของเราและความสุขของลูกจ้าง ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่ผมคิดว่าให้มุมมองที่น่าสนใจหลายเรื่องที่เราสา

ทดสอบ ฺBacktesting ในค่าเงิน EURUSD ด้วย Bard AI

  ผมลองเล่น Bard (LLM , Chat AI ของ Google ) ตอนแรกเอามาลองสร้าง Prompts เพื่อช่วยหัดเขียน Pine script ใน Trading View ผลออกมายังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่มาก ชุดคำสั่งพื้นฐานไม่ซับซ้อนก็พอสร้าง code ออกมาได้ แต่เอาจริงๆอาจจะยังไม่เก่งเท่าเจ้า Chat GPT วันนี้ทดลองเล่นๆว่าถ้า Bard หรือ ChatGPT จะลองช่วย BackTesting แบบไม่ต้องเขียน code โปรแกรมได้หรือไม่, ผลออกมาก็น่าสนใจ พอทำได้ คือมันรู้จัก Strategy รู้จัก backtesting และหา Historical Data ได้ แต่ผลการทดสอบอาจจะไม่เหมือนกับ การเขียนโปรแกรมและรันเอง เสียทีเดียว (ไม่รู้ Bard จะมั่วหรือเปล่าเหมือนกันเพราะมัน show result ยาวๆทั้งหมดไม่ได้) อดคิดไม่ได้ว่าอนาคต ถ้าโปรแกรมเทรด รวมเอา ChatGPT หรือ Bard ที่เก่งขึ้นเข้าไป AI มันน่าจะให้การพัฒนาระบบเทรด หรือ Qaunt ทำงานได้สะดวกขึ้น ....

มุมมองเศรษฐกิจ 2023 จาก Stan Druckenmiller

 ไปอ่านเจอบทความข่าวนี้ทางบลูมเบริก รู้สึกน่าสนใจดี เป็นมุมมองและคำทำนายตลาดปี 2023 ล่าสุดนี้จาก คุณ Stan Druckenmiller , ผู้จัดการกองทุน Duquesne Family Office มหาเศรษฐีพันล้าน วัย 69 ปี คนดังที่เรารู้จักกันดี สรุปใจความสำคัญคือ 1. ตอนนี้สถานการณ์กำลังอยู่ปากเหว ของการเกิด Recession ในเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งน่าจะมาแน่และอาจจะเกิดแบบ Hard landing ที่สำคัญคุณ Druckenmiller คาดว่าจะเกิดในไตรมาสนี้ด้วย Q2/2023 ปัจจัยแวดล้อมเป็นสัญญาณสำคัญ ที่เขายกมา เช่นการถดถอยของยอดขายและการตกต่ำของกำไรในธุรกิจต่างๆเช่น ค้าปลีก และอื่นๆ ,ยอดอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น, การเกิดปัญหาสภาพคล่องและความเสี่ยงจะล้มละลายในธนาคาร regional banks หลายแห่ง,   ส่วนด้านความรุนแรง คุณ Druckenmiller ไม่ได้ฟังธงว่าจะหนักแบบตอน subprime 2008 แต่เขาก็มองว่าไม่ควรประมาท คำแนะนำของเขาคือ ควรปกป้องพอร์ต เพราะสภาวะเศรษฐกิจไม่ปกติ ไม่มีแนวทางใดที่จะการันตรีความปลอดภัยสูงสุด พอร์ตของเขาเองเน้นการผสม (ไม่ได้เน้นสินทรัพย์เดียว, หรือเน้นเดิมพันกับทิศทางราคาหุ้น(Long/short) ด้านใดด้านหนึ่งเป็นหลัก ) 2. แนวทางจัดพอร์ตแบบผสมของเขาก็มีทั้ง

แนะนำเทรดเดอร์มือใหม่

  ขยายความ ที่ผมได้ไปคอมเมนต์แลกเปลี่ยนไว้ในกลุ่มเทรดหนึ่งเกี่ยวกับคำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเทรด(Rookie Trader) โดยช่วงที่เริ่มเทรดให้ลองใช้สูตรนี้ คาบ 5 ปี สมการดังนี้ Capital = (Total Capital)/(5-ปีที่อยู่ในตลาด) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินทุนตั้งต้น อยากเข้ามาเทรดหุ้น สัก 200,000 บาท เพิ่งเข้ามาตลาดปีแรก ประสบการณ์เป็น 0 พอคำนวณตามสูตรเงินที่จะใช้เทรดได้จะมีเท่ากับ 200000/(5-0) คือ 40,000 บาท หรือแค่ 20% ของเงินที่มีพอ (กรณีถ้าทำงานประจำไปด้วย เงินที่ออมได้ก็สะสมไว้ในรูป cash หาที่พักเงินปลอดภัยสูง สภาพคล่องดีกิน yield รอสำรองไว้ใช้เทรดภายหลังก็ได้) ส่วนถ้าอยู่รอดในตลาดมาเกิน 5 ปีแล้วก็จัดเต็มได้ พูดเรื่องนี้ คนก็แย้งว่า มันน้อยจัง จะรวยได้ไหม?? จะมีกำไรไปอวดเพื่อนในกลุ่มได้หรือเปล่า เกมส์เก็งกำไร คนที่มีประสบการณ์น้อย จะเป็นเหยื่อหรือจะเสียเงินให้กับตลาดเสมอ ดังนั้นถ้าชั่วโมงบินไม่มาก ต้องยอมรับ อย่าไปคิดว่าคนอื่นๆทำได้ เราก็ทำได้เพราะบางทีภาพที่เราเห็น มันก็ไม่เป็นจริงเสมอไป ถ้าเพิ่งเริ่มยิ่งต้องจำกัดความเสี่ยงและค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมื่อตลาดหุ้น/ตลาดค่าเงินมันเทรดยาก ก็เรียนรู้ด้ว

Five minutes to learn, a lifetime to master

ทุกวันนี้ tiktok กลายเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ผสมความบันเทิงที่ได้รับความนิยมมาก โดยกลุ่ม gen z , แต่พอเป็นเรื่องการเทรด, การลงทุน มันเป็นเหมือนดาบสองคม เช่นกัน โดยเฉพาะ ถ้าเป็นมือใหม่ เรามักจะชอบอะไรง่ายๆ เร็วๆ , solution แบบนี้ตอบโจทย์ คนหัดเริ่ม แต่ปัญหาคือ บางทีเราอาจจะแยกไม่ออกว่า ระหว่าง "การอธิบายเรื่องที่ยากให้เข้าใจง่าย" กับ "การเลือกจะพูดแค่เปลือก ที่ฉาบฉวย" ดังนั้นสุดท้ายคลิปส่วนใหญ่จะได้แต่เปลือกในเวลา 1-2 นาที (พูดสั้นๆย้ำรั่วๆ ผสานเพลงพื้นหลัง เร้าใจเร้าอารมณ์) , บวกกับคำพูดย้ำๆให้ท่องจำ แล้วปิดท้ายด้วยภาพกำไรเยอะๆ มาล่อตา (ซึ่ง กำไร มันก็มาจากการใช้ leverage หลายเท่า) จนยิ่งทำให้ ระบบรับรู้มี bias พอเอาไปทำตามใช้จริง ก็พัง ไม่รอด เพราะตลาดหุ้นจริงๆ มันไม่ได้ง่าย และเป็นเส้นตรงแบบที่ กูรู tiktok หล่อๆสวยๆ สอนกัน สุดท้ายไม่ใช่ว่า บทเรียนสั้นๆ 1-2 นาที จะไม่ดี แต่บางทีเราก็ต้องพิจารณาในสิ่งที่มันเหมาะสม และควรหาข้อมูลเพิ่มเติมให้มากๆด้วย การฝึก skill ที่เลี้ยงชีพ ไม่ว่าจะทำอะไร มันไม่ทางลัด ไม่มีอะไร ที่ได้มาโดยง่าย ไม่ต้องฝึกฝน ไม่ต้องใช้เวลา เรื่อง

เกษียณสไตล์ลุงเจ๋ง ปราจีน

วันแรงงาน มี content สไตล์เก็บเงินเพื่อเกษียณ หรือเกษียณก่อน 60 เยอะพอควร ทำให้อยากแชร์เรื่องนี้ ที่ผมไปเจอมาจากการดูรายการ ยินดีที่ได้รู้จัก เป็นตอนที่พี่เปอร์ไป ปราจีนบุรี แล้วได้สัมภาษณ์กับลุงขับรถตุ๊กๆ สมบัติเต็มคันรถ แถมยังติดแอร์ให้ผู้โดยสารอีกด้วย , คุยไปคุยมากับลุงเจ๋งคนขับที่นั่งดืมกาแฟ ก็น่าสนใจ เพราะลุงเจ๋งไม่ธรรมดา แม้จะแต่งตัวธรรมดาๆ แต่ลุงเป็นอดีตข้าราชการเกษียณ หลังทำงานมาเกือบ 40 กว่าปีที่รับบำนาญเดือนละ 2 หมื่นกว่า แต่การใช้ชีวิตลังเกษียณต้องบอกว่าโครตคูลเลย เพราะเมื่อเลิกทำงานลุงก็ออกรถสามล้อตุ๊กๆ มาขับ ไม่ได้หารายได้ แต่ขับเพื่อส่งคนแก่ คนเจ็บ คนยากจนฟรี ,บางรายแกแถมเงินให้อีกด้วย ,บางครั้งก็ขับรถตุ๊กๆไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด ไหว้พระทำบุญ ชมธรรมชาติ ค่ำไหนนอนนั้นตามใจที่อยากไป(สไตล์ TT Rider แบบ พี่เรย์ แม๊คโดนัล) กุญแจสำคัญที่ ลุงให้คำแนะนำไว้คือ "ไม่เป็นหนี้"(อย่าสร้างหนี้มากเกินไป) ,วางแผนใช้เงินพอเพียงไม่กินหรูใช้จ่ายเกินรายได้ พอเกษียณได้บำนาญใช้วันละ 500 บาทก็อยู่ได้สบายๆ และสิ่งสำคัญคือ "สุขภาพดี" ร่างกายต้องรักษาดูแลดีๆ   ฟังเหมือนจะง่ายๆ เอ

Luxury product stock

หุ้นสินค้าแบรนด์เนม ราคาสูงอย่าง Ferrari และ Louis Vuitton (LVMH) ตอนนี้กำลังทำ all-time highs, ราคาหุ้นวิ่ง recover กลับจากจุดพักตัวตอนปี 2022 อีกรอบ และผ่านระดับราคา High เดิมในปี 2022 ไปได้ ความน่าสนใจคือ นวค. มองว่า หุ้น luxury product stock กลายเป็นที่พักเงิน ในตลาดหุ้น ที่มีความผันผวนต่ำ โมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง กระแสเงินสดดี ทนสภาวะเศรษฐกิจ และให้ผลตอบแทนทั้งด้าน Growth และ Yield ปัจจุบันตัว Top ของกลุ่ม luxury product stock ในตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรป เช่น Tiffany-and-Co (TIF) , LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton (MC) ,Hermes International SCA (RMS), Kering (KER) ,Estee Lauder Companies (EL), Harley-Davidson (HOG) ,Inter Parfums (IPAR) ,Ferrari(RACE) เป็นต้น แต่หุ้นเหล่านี้แม้จะดูดี story โดดเด่น แต่การเทรดหรือลงทุนก็ไม่ง่าย เพราะราคาต่อหุ้นค่อนข้างสูง และระดับราคามักจะไม่ค่อยลงต่ำ(แต่ถ้าลงจากเงินไหลออกก็ลงได้แรงพอควร อันนี้เทรดเดอร์ฝรั่งจึงชอบใช้ Buy on Dip มากกว่าการเทรดไล่ตาม trend ในหุ้นกลุ่มนี้) ทำให้ ถ้าเข้าพลาด หรือซื้อที่ราคาสูง ก็อาจจะเกิด อ้างอิง https://companiesmarketc

ทางลัด สูตรสำเร็จ เก่งข้ามคืนไม่มีอยู่จริง

  email ยอดนิยมมากๆที่ได้รับบ่อยสุด คือ ถามเรื่องระบบเทรด,การ Setup กราฟ, indicator ที่ใช้เทรด ที่ทำให้ได้กำไร ได้เงินจากการเทรดดีๆ ซึ่งคำถามประเภทนี้ ส่วนใหญ่ ไม่เป็นคำถามของมือใหม่เพิ่งเริ่ม ก็เป็นเทรดเดอร์ที่เริ่มมาสักระยะแล้ว ขาดทุนต่อเนื่องไปต่อไม่ถูก , บางคนลองมาหลายวิธี , เทรดตามหลายกูรู พายเรือวนในอ่าง ได้ๆเสียๆ ได้กำไรไม่นาน ตลาดแกว่ง พอร์ตแดงขาดทุนหนัก พอตัดขาดทุน ราคาดีดใส่หน้าให้ช้ำใจอีก เรื่องหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากการเทรดมาหลายสิบปีคือ คนที่เอาตัวรอดในตลาดได้ ไม่ใช่คนฉลาด หรือเก่ง เหนือคนอื่น ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาที่มีความตั้งใจ ความขยัน ความพยายาม มากกว่าคนทั่วไป นอกนี้สิ่งสำคัญคือไม่ประมาท บริหารความเสี่ยงเป็น และมีวิธีคิดที่พร้อมจะเรียนรู้ จากข้อผิดพลาด แล้วพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ดังที่เคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ตลาดมีบทเรียน ให้เทรดเดอร์เรียนรู้ได้ตลอดเวลา ทุกปีตลาดก็ไม่เหมือนกัน, มีปัจจัยต่างๆเข้ามาได้ตลอด , ซึ่งนี้เป็นที่มาว่าทำไม ผมถึงจดบันทึก เขียนบทความ ทุกวัน มาตลอดหลายสิบปี เพราะสำหรับผมทุกวัน มันก็คือการเรียนรู้ , เจออะไรต่างๆนานามากมาย พอเข้าใจก็จะเตรียมพร้อมรับมือ มันได้ถ

The World’s Happiest Countries in 2023.

 The World’s Happiest Countries in 2023. ..................................... ข้อมูลนี้นำมาจากการสำรวจของ Gallup world poll Data นำเสนอเป็นกราฟเชิงแผนที่รายประเทศ โดย visual capital ซึ่งข้อมูลนำเสนอค่าคะแนนระดับความสุขของคนประเทศค่างๆ ข้อมูลแบบนี้พอเสนอออกมาก็จะมีคน ถกเถียงว่า ความสุข มันวัดเป็นเชิงตัวเลขได้จริงๆหรือไม่ , หรือว่าข้อมูลเป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ในประเทศได้จริงหรือเปล่า ดู chart ภาพนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่อย่างน้อยเราก็เห็นได้ว่า ,ผ่านพ้นช่วง covid-19 ดัชนีความสุขของประเทศต่างๆก็เพิ่มขึ้น "ความสุข" มันวัดค่าและเปรียบเทียบเชิงตัวเลขได้ยากเหมือนกัน เพราะว่า จะมากหรือน้อย มันขึ้นกับแต่ละคน ซึ่งอาจจะนิยาม ความสุขแตกต่างกัน , ดังนั้นการสุ่มสำรวจ ก็อาจจะไม่ได้สะท้อนภาพรวมทั้งประเทศได้ สำหรับส่วนตัว ผมคิดว่าบางที ความสุข มันคือ การได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราเลือกเอง เอาแค่ไม่ทุกข์ ไม่มีปัญหา ปวดหัวเข้ามากวนใจ เอาแบบธรรมดาๆไม่มีอะไรพิเศษ ก็ "ลงตัว" แล้ว ทิ้งทาย คำแนะนำจาก จิตแพทย์ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งความฟิน อธิบายทำไมคนในประเทศมีความสุข ขอสรุปสั้นๆดังนี้ 1. ไม่เ

เรียนแล้วมาเล่า : หลักสูตร "เศรษฐกิจเกษตร"

  อยากมารีวิว สั้นๆ สำหรับคนที่สนใจเรียนรู้ด้านการเกษตร สุดสัปดาห์นี้ ผมเติมความรู้ให้กับตัวเอง โดยการใช้เวลา กลับเข้าห้องเรียน ไปเรียนวิชา "เศรษฐกิจเกษตร" ของ ผศ. ดร.วริพัสย์ เจียมปัญญารัช. สำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, บนแพลตฟอร์ม CHULA MOOC , ต้องบอกว่าเป็นหลักสูตรสั้นๆ ที่ดีงามและน่าสนใจมาก ด้วยเนื้อหาที่กระชับและคลิปวีดีโอภาษาไทย อธิบายเข้าใจง่ายมาก ทำให้เราเรียนรู้ องค์ความรู้ต่างๆ ของครอสได้อย่างไม่ยาก, แม้หลายเรื่องอาจจะข้ามศาสตร์กับความรู้ปัจจุบันที่เรามี หรือ ไม่ได้มีพื้นฐานอะไรมาก่อน , แต่ด้วยการอธิบายและยกตัวอย่าง ก็ทำให้เราเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ส่วนตัวผมเรียนเรื่องเศรษฐศาสตร์มาสมควรแล้ว, แต่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านการเกษตร พอได้เรียนหลักสูตรนี้ มันเหมือน การจับสองเรื่องมาผสานรวมกัน และทำให้มองเห็นภาพ การนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดมากยิ่งขึ้น , วิชานี้สอนให้เห็นว่า การเกษตร มันไม่ใช่แค่การผลิต แต่มันยังเป็นเรื่องของ การตลาด, การจัดการต้นทุน และการบริหารความเสี่ยง ,การเข้าใจเรื่องพวกนี้ ทำให้การทำเกษตร นั้นยังยืนและมีความสำเร็จ มากขึ้นไปด้วย ใครสนใจทำการเ

ทำความรู้จัก Gold ETF/ETC

อีกหนึ่งทางเลือกในการสะสมทองคำเพื่อบริหารพอร์ต ในกรณีต้องการเทรดทองคำในรูปแบบ ETFs ที่เป็นสกุล usd และมีสภาพคล่องสูง ตลาดหุ้นสหรัฐมี Gold ETF ไม่น้อยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ เทรดเดอร์ที่เปิดบัญชีเทรดในตลาดอเมริกา(Global Trading account) เพราะ ในตลาดหุ้นสหรัฐ Gold ETF ที่เปิดให้เทรด มีหลายเจ้าและส่วนใหญ่จะมีสภาพคล่องที่สูง สามารถเทรดได้ในเวลากลางคืนช่วงเดียวกันกับตลาดสหรัฐเปิดทำการ ซึ่งเป็นเวลา active ของราคาทองคำโลก และ Gold ETFs เทรดแบบ spot product ไม่มีการใช้ leverage ถือครองยาวได้ ไม่มีเรื่องค่าธรรมเนียมข้ามคืน แต่มีค่า Expense Ratio รายปีเฉลี่ยราวๆ 0.1 - 0.60%(ค่าดูแลการถือครองทองคำ physical และบริหารกองทุน) นอกจากนี้ด้วยความที่เป็น Gold ETF ระดับโลก กองทุนมีขนาดใหญ่และมีความน่าเชื่อถือมาก, ที่สำคัญปัจจุบันหลายกองทุน กำหนดราคาต่อหน่วยไม่สูง และมีค่า Fee ต่ำกว่าอดีต โดยบางกองทุนที่ออกมาช่วงหลัง จะมีทั้งแบบ ถือทองคำอย่างเดียว และแบบ Smart beta gold ETFs ผสมทองคำและสินทรัพย์อื่น เช่น currency เพื่อบาลานซ์ระดับความผันผวนตามสภาพตลาดด้วย ด้วยความที่ Gold ETFs มักเป็นนักลงทุนรายใหญ

ระวังตรรกะวิบัติที่จะทำให้หมดตัว

ทุกวันนี้เห็นมีคนสอนเรื่องการเทรดและ การลงทุนแบบสั้นๆ 1-2 นาที ใน tiktok เยอะมาก ทั้งที่หลายเรื่อง มันไม่ควรแนะนำอะไรสั้นๆ หรือพูดเน้นสรุปให้ท่องจำ ด้วยการโน้มน้าวว่ามันคือ เคล็ดลับ สั้นๆไม่กี่ข้ออะไรแบบนี้เลย เพราะ จริงๆแล้วมันไม่มี solution อะไรเป็นสูตรสำเร็จตายตัว ดังที่พบทุกวันนี้ ราคาสินทรัพย์ต่างๆมันผันผวน ไปตามปัจจัยเสี่ยงภายนอกมากมาย เช่น นโยบายการเงิน, การเคลื่อนของ Fundflow ,ตัวเลขเศรษฐกิจ ดังนั้นมันไม่มีอะไร ที่แน่นอน 100% หรือ sure thing สิ่งสำคัญกว่าการหาสูตรลับมันคือ "ความเข้าใจพฤติกรรมราคา" และปรับตัวให้รอด(พ้นจากความเสี่ยง) กับสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิด อีกอันหนึ่งที่เมื่อเช้าเพิ่งเห็นเลย tiktok กูรูเทรดต่างประเทศ , สอนคนดูให้เทรดอนุพันธ์ โดยใช้ leverage แบบสุดโต่ง ประมาณว่า , ถ้ามีเงิน $1000 ใช้ leverage 2x , ได้กำไร 10% จะได้เงิน $200 แต่ถ้า $1000 ใช้ levererage 100x ,เทรดได้กำไรแค่ 10% ได้เงิน $10,000 ต่างกัน 10000-200 = $9800 ทำไมจะทิ้งโอกาสทอง ทำเงินก้อนใหญ่ไว้เฉยๆ ในเมื่อใช้เงินเท่ากัน พูดด้วยน้ำเสียงแบบว่าผิดมาก ที่ไม่ใช้โอกาสนี้(และตามด้วยประโยคชักจูงคนใ

ทำความรู้จักกับ Currency ETF

Currency ETFs เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เราสามารถใช้ในการบริหารจัดการพอร์ตได้, โดยเป็นการเทรดค่าเงินแบบ passsive trading เพื่อเทรดตามรอบการเปลี่ยนแปลงของ ค่าเงิน ตามปัจจัย Global Macro Economic และใช้เพื่อการกระจายความเสี่ยง หรือทำ Asset allocation กระจายเงินทุนและจัดน้ำหนักตาม กลยุทธ์ไปยัง asset class ต่างๆ เช่น stock , bond , currency เป็นต้น หรือจะรอดักซื้อสะสมแบบง่ายๆ เมื่อเกิด market discount ก็ทำได้เช่นกัน โดย Currency ETF นั้นกองทุนที่ถือครองสินค้า currency จริง( underlying asset เป็น currency สำรองเต็มจำนวน) และเปิดให้ นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ สามารถเข้าไปซื้อ/ขาย หน่วยลงทุนที่อิงกับมูลค่าสินค้าค่าเงินได้ ,ทำการซื้อขายแบบ spot market ไม่ใช้ leverage ไม่มีค่า Fee ถือครองข้ามคืน ข้ามสัปดาห์ที่สูง ต่างจาก CFDs ทำให้เหมาะกับ การเทรดรอบใหญ่ เช่นตาม Momentum หรือ Trend ระยะยาว, โดยทั่วไปกองทุนเหล่านี้จะมีค่า Expense Ratio และค่าธรรมเนียมที่ไม่สูง แม้จะเป็น spot แต่ในขณะเดียวกันก็มีสภาพคล่องสูง ในการเทรด ในช่วงเวลาทำการของตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะมี market maker และมีสภาพคล่องมากบริการ กองทุนและน

ก้าวแรกแห่งความรวย

  ไปเจอคำแนะนำใน twitter น่าสนใจดี,สำหรับคนยุคปัจจุบันที่อยากลดรายจ่าย แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ,กูรูการเงินเขาแนะนำให้มองหา รายจ่าย ก้อนใหญ่หรือก้อนที่เงินไหลออกต่อเนื่อง หมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิต ที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้เงินของเรา ดังภาพนี้ ถ้าหาเจอ แล้วทยอยตัด หรือลดลง ได้ก็จะ มีเงินเหลือ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ เช่น การออม, การลงทุน ต่อไปได้ สุดท้ายถ้าตัดไม่ได้จริงๆ หรือคิดว่าตัดแล้วชีวิตมันจะไม่สวยงาม(อันนี้ก็ปกตินะเพราะใครๆก็ยังมีกิเลส อยากหาความสุขอยู่) ก็เอาเท่าที่พอเหมาะ ควบคุมการใช้เงินในหมวดนี้แล้ว ให้วางแผนโดยให้ความสำคัญกับ รายจ่ายฟุ่มเฟือยพวกนี้ที่หลังสุด ใช้สมการ รายจ่ายฟุ่มเฟือย = รายได้ - เงินออม(เป้าหมาย) - รายจ่ายจำเป็น เช่น เงินเดือน 30000 บาท, ออมเงิน 15% , รายจ่ายจำเป็น(ค่ากิน+ค่าที่พัก+ค่าหนี้+ค่าเดินทาง) 22000 บาท ดังนั้น รายจ่ายฟุ่งเฟือยที่เหมาะสม = 30000-(30000*0.15)-22000 = 3500 บาท ต่อเดือน สุดท้าย เงินเดือน, รายได้ หรือผลตอบแทนจากการลงทุน มันเป็นสิ่งที่ตัวเราอาจจะไม่สามารถ "ควบคุม" หรือ กำหนดมันให้แน่นอนได้ 100% แต่รายจ่าย กับสิ่งที่ไม่จำ

Money Management เบื้องต้น

 แนะนำการบริหารจัดการเงินแบบ Fixed Fractional Money Management โมเดลการคำนวณหาค่า Risk Per Trade ด้วยการกำหนดขนาดของการขาดทุนสูงสุดที่รับได้เป็นค่า %risk  แปรผันไปตามเงินทุนที่มีในพอร์ต(free margin) หรือสัดส่วน Equity Model ที่หักค่ามูลค่าสัญญาที่เปิดก่อนหน้า  (โดยไม่ได้คิดจาก balance ที่มีทั้งหมด) https://www.youtube.com/watch?v=Maz1K-jW07Q

ปิดตำนาน Credit Suisse

จบไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจาก UBS ได้เข้าซื้อกิจการ เป็นการควบรวมธุรกิจในมูลค่าต่ำสุดๆ $3.25 billion เฉลี่ยที่ 0.76 Swiss francs ต่ำกว่าราคาปิดตลาดวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้า ถึง -60% (โดยมีธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์เป็น แม่สื่อผู้ดำเนินการ เหตุผลหลักคือการเรียกความเชื่อมั่นคืน) ซึ่งไม่น่าเชื่อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อันดับต้นของยุโรป (อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์) จะกลายโดนซื้อด้วยคู่แข่ง ในมูลค่าต่ำกว่าดอลลาร์ (กลายเป็น peny stock ) มีทั้งช่วงรุ่งโรจน์และช่วงที่ตกต่ำหลังปี 2010 เป็นต้นมาที่โดนทั้งเรื่องจ่ายค่าปรับ ในการทำผิดระเบียบและกฏหมาย เช่น money laundering , tax fraud,toxic securities abuses ในอเมริกาและยุโรป, โดนหนักสุด $2.6bn กรณีช่วยเศรษฐีอเมริกันฉ้อโกงภาษี ข่าวลือด้านลบ ที่โยงกับกลุ่มอิทธิพลธุรกิจสีเทา และนักการเมืองประเทศต่างๆ รวมถึงการโจรกรรมข้อมูลทางธุรกิจ corporate espionage scandal, รวมถึงการขาดทุนจากการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจล้มละลาย เช่น Archegos Capital Management ของ Bill Hwang ที่ขาดทุนจากการเทรดอนุพันธ์ ก่อนจะล้มละลายซึ่งธนาคาร CS โดนไป -5.5 billion และขาดทุนจากการปิดกองทุนบริห

Leveraged Equity ETF

ในตลาดหุ้นอเมริการจะมี ETFs ชนิด Leveraged Equity ETF ที่สามารถเทรดซื้อขายในตลาดได้แบบหุ้น แต่มี gearing หรือการใส่กำลังทด leverage เพื่อช่วยเพิ่มผลตอบแทน(แน่นอนว่า ผิดทางก็เพิ่มการขาดทุนด้วยเช่นกัน) โดย Leveraged Equity ETF ,ประเภทนี้จะอิงกับดัชนีหุ้น เช่น S&P500 ,NASDAQ100,Russell 1000 รวมถึงกลุ่มดัชนีอุตสาหกรรมบางประเภทเป็นต้น โดยมีหลายบริษัทการเงิน ออก ETFs ประเภทนี้มาให้นักลงทุนได้ซื้อขาย ซึ่งแต่ละ กอง Leveraged Equity ETF ก็จะมีขนาด Leverage แตกต่างกัน ตั้งแต่ 1.5X - 3X (ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 3 เท่า) โดยกองทุนพวกนี้ข้างในถือครอง derivatives เช่น options เพื่อใช้ในการขยายผลตอบแทน(กองที่บริหารดีๆ เทรด options ได้เก่ง,เก็บได้ราคา premiums ไม่สูง,ผล NAV จะไม่แกว่งมาก ไม่ร่วงแรง) ข้อดีคือเราใช้ Leveraged Equity ETF ในการบริหารพอร์ตได้, เช่นช่วยกระจายความเสี่ยง(ด้วยเงินทุนที่น้อยกว่า) ในสินทรัพย์ฺตัวที่ผันผวนไม่สูง รวมไปถึง หลายบริษัทออกกอง ETFs ประเภท Short Leveraged ETF ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกในการ heding หรือทำ Downside protection ในพอร์ตได้เช่นกัน Leveraged Equity ETF ในตลาดหุ้นอเ

บาดแผลใหญ่ในระบบธนาคารสหรัฐ

สัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดหุ้น จะ panic กลุ่มธนาคาร เพราะ แค่ห่างกันไม่ถึง 3 วัน เกิดการล้ม/ปิดกิจการของ ธนาคาร 2แห่งติดกัน แถมเป็นสถิติอันดับต้น 2 และ 3 มูลค่าการสูญเสีย ในประวัติศาสตร์ของ US Bank system อีกด้วย   ส่วนการ panic นักวิเคราะห์มองว่า อาจจะไปต่อและแพร่ขยาย เพราะจาก action ของรัฐบาลสหรัฐ และ Fed ออกมาชัดเจนว่าเรียกความเชื่อมั่น ประกันเงินฝากจากผู้ฝากเงิน แต่ไม่ได้รับประกันหรือปกป้อง "ผู้ลงทุน" ดังนั้น ผู้ลงทุนก็ต้องรับความเสี่ยงจากธนาคารเต็มๆ ทำให้เห็นการขายหุ้นและดึงเงินลงทุนกลับจากรายใหญ่ ในธนาคารกลุ่มเสี่ยง ขาดทุนมากขึ้น   แต่ธนาคารขนาดกลางถึงเล็ก โดยเฉพาะกลุ่ม Regions Bank ยังไม่เคลียร์มีหลายเจ้าออกอาการหนัก จากปัญหาสภาพคล่อง เช่น First Republic Bank ($FRC) -74%,Metropolitan Bank($MCB) -53% ,Pacwest Bancorp($PACW) -51% ปล. นวค. ค่ายต่างๆ เช่น GS คิดว่างานนี้ ค่อนข้างกดดันทั้ง รัฐบาลสหรัฐและ Fed พอควร ทำให้ มีความน่าจะเป็นมาก ที่ Fed อาจจะเห็นการชะลอ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC รอบเดือน มีค. นี้ไปก่อน ปล. จากประสบการณ์ท

รีวิวสรุป The Automatic Millionaire

 หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ การใช้พลังจากเงินน้อย+เวลา(Power of Time)+วินัยการออมเงิน โดยเป็นหนังสือแนะนำทางการเงิน ที่อ่านแล้วทำได้จริง ปฏิบัติตามได้ง่าย มันตอบโจทย์ประเด็นหลักของคนชั้นกลางทั่วไปด้วยคือ มีเงินน้อย ,ทำยังไงก็รวยเงินล้านไม่ได้ ***** ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย David Bach โด่งดังมากจากเล่มนี้เพราะแนวคิด Latte factor ที่มีทั้งคนเห็นด้วยและคนโจมตี แต่แนวคิดนี้มันเริ่มมาจากการตอบคำถามเมื่อวิเคราะห์รายจ่ายผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ไม่มีเงินเก็บใช้เงินเดือนชนเดือน ทุกวันเธอต้องกินขนมและลาเต้ ราวๆ $10 , David แนะนำว่า ถ้าเอา $5 ไปลงทุน เธอจะมีเงิน $1.2 million ตอนเกษียณ ประเด็นนี้ดังเพราะกูรูคนอื่นๆ และคนทั่วไปมักบอกว่าความสุขเล็กๆถ้าต้องทนตัดทิ้งชีวิตมันจะดีได้ยังไง แต่ถ้ามองลองคิดจากเงินเดือนระดับ $1800 เทียบกับกาแฟ แก้วละ $5*30 day ทุกวัน= $150 ต่อเดือน มันก็ไม่น้อยนะ(8% ของรายได้เลย) David Bach แนะนำ ลดค่าใช้จ่าย และออมเงินก้อนนี้เพื่อไปสร้างให้เกิดประโยชน์ดีกว่าไหม ซึ่งมันไม่ใช้แค่กาแฟ Latte ทุกคนมี "รายจ่ายฟุ่มเฟือย" ที่เราใช้ตามอารมณ์ หมวดให้รางวัลกับตัวเอง , เข

จาก $1.5 ล้าน เหลือ 0 | บทเรียนสำคัญของเทรดเดอร์มือใหม่

ตลาดหุ้นอเมริกานับจากต้นปี 2023 เริ่มกลับมาวิ่งแรง,ราคาหุ้นหลายตัวโดยเฉพาะกลุ่ม Tech รีบาวน์บวก มากกว่า 20% ทำให้ เกิดกระแส FOMO และคาดหวังจะทำเงินเยอะๆเร็วๆ จากตลาดหุ้นอีกรอบ ทั้งที่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ไปเจอบทความนี้ทาง email อยากเอามาแชร์เป็นเรื่องของ Omar Ghias เทรดเดอร์มือใหม่(Amateur trader) เข้ามาเทรดหุ้นช่วง covid-19 ระบาด ราวๆปลายปี 2020 (lock down 2020 -2021)ที่หุ้นสหรัฐและ optons มาแรงเป็นที่นิยมของเทรดเดอร์รายย่อย โดยเฉพาะกลุ่ม Tech หลายตัวบูมมาก Omar ก็เป็นหนึ่งในหลายคนที่เข้ามาหาโอกาสจาก หุ้นร้อน หุ้นเทคโนโลยีกระแสแรง ช่วงปี 2021 และก็ทำผลตอบแทนจำนวนราวๆ กว่า 1.5 ล้านเหรียญ ในไม่กี่เดือน จากการเทรดหุ้นและการใช้ leverage เทรดอนุพันธ์ เมื่อได้กำไรเขาก็ใช้เงินไปกับการเที่ยว การดื่มปาร์ตี้ ซื้อของ ซื้อรถหรูหรา เพราะคิดว่า เจอวิธีการทำเงิน ที่จะทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีแล้ว จากนั้นเมื่อปี 2022 ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน ตลาดหุ้นร่วงแรง รับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบ agreessive ของ Fed , ดัชนี NASDAQ ร่วงลงอย่างหนัก เช่นเดียวกับ หุ้น Tech หุ้นร้อนหลายตัวที่ ราคาร่วมลง